TEAM GROUPเตือนน้ำมหึมาเท่าเขี่อนภูมิพลจ่อซ้ำปทุม-นนท์-กทม.ท่วมยาวถึง15พ.ย.
บริษัท TEAM GROUP แถลงเมื่อวันที่ วันที่ 22 ตุลาคม 2554 เตือนภัยน้ำท่วม (ฉบับที่ 3)ว่า สถานะการณ์น้ำท่วมภาคกลางยังไม่ดีขึ้น แม้ระดับน้ำที่อยุธยาจะลดลง 2 ซม. และระดับน้ำบางไทรได้เริ่มคงที่
ทังนี้จากปริมาณนน้ำในทุ่งเจ้าพระยาที่ยังมีมากกว่า 12,000 ล้านลูกบาศก์เมตร เปรียบเสมือนมีอ่างเก็บน้ำเขื่อนภูมิพลอีก 1อ่างอยู่บางไทรและปริมาณน้ำไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยา แม้จะลดลง แต่ยังมีปริมาณมากกว่าน้ำที่สามารถระบายลงสู่ทะเลได้ เช่น เมื่อ 21 ต.ค. มีน้ำไหลเข้าสู่ทุ่งเจ้าพระยาวันละ 419 ล้านลูกบาศก์เมตร ในขณะที่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลทั้งปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน และทางทุ่งงและคลองฝั่งตะวันออกรวมทังสิ้นได้วันละ 403 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้มีน้ำเหลือสะสมเพิ่มเติมในทุ่งเจ้าพระยาอีกวันละ 16 ล้านลูกบาศก์เมตร จึงทำให้ระดับน้ำในทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างเพิ่มสูงขึ้นทุกวัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ นครชัยศรี บางเลน บางใหญ่ เมืองนนทบุรี ปากเกร็ด ลาดหลุมแก้ว เมืองปทุมธานี คลองหลวง ธัญบุรี สายไหม ลำลูกกา หนองจอก คลองสามวา ลาดกระบัง บางเสาธง และบางบ่อ หากไม่สามารถระบายน้ำลงสู่ทะเลได้มากกว่านี้จะมีผลทำให้พนังกันน้ำที่ อ่อนแอกว่าพังลง น้ำจะไหลพุง่งเข้า ท่วมพืนที่ต่างๆ มากขึ้น และพนัง กั้นน้ำที่ไม่แข็งแรงหรือความสูงไม่เพียงพอ ก็จะพังลงเรื่อยๆ ตามลำดับ
นอกจากนั้นตังแต่วันที่ 26 ต.ค.นี้เป็นนต้นไป น้ำาทะเลจะหนุนสูงขึ้นเรื่อยๆ จนไปหนุนสูงสุดในวันที่ 31 ต.ค.ทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่สะพานพุทธฯอยู่ที่ +2.45 เมตรจากระดับน้ำทะเลกลาง (สูงกว่าเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ประมาณ 15 ซ.ม.) ซึ่งจะมี ผลเสริมทำให้ระดับน้ำในพื้นที่ดั้งกล่าวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่อยู่ ่ใกล้แม่น้ำและมีคลองเชื่อมโยงกับแม่น้ำเจ้าพระยาและท่าจีน หลังจากนันระดับน้ำจะทรงตัว และ จะค่อยๆ ลดลงอย่างช้าๆ
จนถึงหลังวันที่ 15 พ.ย.ไปแล้ว ระดับน้ำในพื้นที่ อ่างทอง อยุธยา สุพรรณบุรี จึงจะเริ่มลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนในพืนที่ บางไทร ปทุมธานี นนทบุรี นครชัยศรี สมุทรปราการ และกรุงเทพฯ ระดับน้ำจะลดลงอย่างช้าๆ
ดังนั้น ผู้ที่อยู่ในพื้นที่น้ำท่วมและพื้นที่มีความเสี่ยงสูงที่น้ำจะท่วม(ดูจาก TEAM Group เตือนภัยน าท่วมฉบับที่ 1) จะต้องเสริมความแข็งแรงให้พนังกันน้ำต่างๆ และ เสริมเพิ่มความสูงให้เพียงพอ และให้คงทนอยู่ได้ถึงหลังวันที่ 15 พ.ย. ดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูง โรงงาน และนิคมอุตสาหกรรมที่ต้องป้องกันน้ำท่วมเป็้นพิเศษที่ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวัน ออกของถนนหทัยราษฎร์ ถนนร่มเกล้า ถนนกิ่งแก้วและฝั่งตะวันออกของถนนบางพลี-บางตารุ ควรเสริมความแข็งแรงของพนังกันน้ำให้้มั่นคง และให้มีระดับความสูงไม่น้อยกว่า +3.50 เมตรจากระดับน้าทะเลกลาง
แผนที่แสดงระดับความเสี่ยง และระดับน้ำท่วม ของพื้นที่ต่างๆ แสดงไว้ในรูปที่แนบท้ายนี้