สรรพากรไล่สอบตามหลัง บ.คืนภาษี 4.3 พันล.‘วีรยุทธ’ 2 แห่ง จ.สมุทรปราการ
สรรพากรไล่บี้ตามหลัง บ.คืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านเครือข่ายวีรยุทธ ล่าสุดส่งหนังสือกรมพัฒนาธุรกิจฯของบฯการเงิน-ระงับขีดชื่อออกจากบริษัทร้าง 2 แห่ง จ.สมุทรปราการ หลังค้างจ่าย พบจดทะเบียนเลิกกิจการไปแล้ว
บริษัทที่เกี่ยวข้องกับคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่มของกรมสรรพากรกลุ่มนายวีรยุทธ แซ่หลก ซึ่งตกเป็นข่าวอื้อฉาว 2 ปี ก่อนหน้านี้ ล่าสุดยังคงถูกกรมสรรพากรตรวจสอบการเสียภาษีอากรต่อทางราชการ
เมื่อ 28 พ.ค.58 นางวรีนทร์ ประเสริฐศรี นิติกรชำนาญการ ปฏิบัติราชการแทน สรรพากรพื้นที่สมุทรปราการ 1 ได้ทำหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าจังหวัดสมุทรปราการ ขอหลักฐานงบการเงิน ณ วันเสร็จการชำระบัญชี บริษัท ซีเอ็นบีซี เมทัล เทรด จำกัด สำนักงานที่ตั้งเลขที่ 99/1087 หมู่ที่ 6 ต.เทพารักษ์ อ.เมืองสมุทรปราการ จ.สมุทรปราการ และ บริษัท ซีเอ็น บีซี กรุ๊ป จำกัด ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน โดยระบุว่า ทั้งสองบริษัท “ได้ค้างชำระภาษีอากรต่อทางราชการและยังมิได้ชำระภาษีอากรให้เสร็จสิ้นแต่อย่างใด”
และ หากนิติบุคคลดังกล่าวได้จดทะเบียนเลิก ขอให้ระงับการจดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี หากมีเหตุซึ่งนายทะเบียนจะขีดชื่ออกจากทะเบียนตามความในมาตรา 1273/3 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ขอให้ระงับการขีดชื่อออกจากทะเบียนเป็นห้างหุ้นส่วนร้างไว้ก่อน (ดูเอกสาร)
ทั้งนี้ บริษัท ซีเอ็นบีซี เมทัล เทรด จำกัด จดทะเบียนต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าเมื่อ 7 เมษายน 2553 ทุน 2 ล้านบาท นำเข้า ส่งออก ค้าโลหะและเศษโลหะทุกชนิด ที่ตั้งเลขที่ 99/1087 หมู่ที่ 6 ซอยที่ดินทอง 4 ถนนเทพารักษ์ ตำบลบางเมือง อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ สำนักบัญชีเลขที่ 1265 หมู่ที่ 1 อาคารที พาร์ค ชั้น 4 ห้อง 404 ถนนเทพารักษ์ ตำบลเทพารักษ์ อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ นายวีรยุทธ แซ่หลก นางสาวสายธาร แซ่หลก ถือหุ้น และ นายสุรเชษฐ์ มหารำลึก เป็นกรรมการ ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2556
ขณะที่ บริษัท ซีเอ็น บีซี กรุ๊ป จำกัด จดทะเบียนวันที่ 17 ธันวาคม 2553 ทุน 5 ล้านบาท ที่ตั้งเลขที่เดียวกัน นายวีรยุทธ แซ่หลก นางสุวรรณา จิตติปัญญากุล นางสาวสายธาร แซ่หลก ร่วมถือหุ้น นายวีรยุทธ แซ่หลก นางสาวสายธาร แซ่หลก ร่วมถือหุ้น เป็นกรรมการ ได้จดทะเบียนเลิกบริษัท ซึ่งนายทะเบียนได้รับจดทะเบียนไว้แล้ว เมื่อวันที่ 24 เมษายน 2556 และได้จดทะเบียนเสร็จการชำระบัญชี เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2556
ก่อนหน้านี้ บริษัทกลุ่มนายวีรยุทธอย่างน้อย 49 แห่งถูกกรมสอบสวนคดีพิเศษทำหนังสือถึงกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอายัดระงับการจดทะเบียนเลิกกิจการ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าคดีคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท อยู่ระหว่างการไต่สวนข้อเท็จจริงของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ทั้งกรณีการเอาผิดต่อเจ้าหน้าที่รัฐ และกรณีไต่สวนร่ำรวยผิดปกติ ส่วนการเอาผิดกับเอกชนกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้ส่งเรื่องให้อัยการเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง 5 คน นายวีรยุทธ และ น.ส.สายธาร แซ่หลก เป็นผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวด้วย