ร้องสมาชิกสภาพัฒนาการเมืองดูหมิ่นศักดิ์ศรี จนท.-“ธีรภัทร์”รับตั้ง กก.สอบแล้ว
ร้อง! สมาชิกสภาพัฒนาการเมืองบางรายดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พนักงาน-จนท. เหตุไม่พอใจปมเบิกจ่ายเบี้ยประชุม “ธีรภัทร์” รับตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงแล้ว เชื่อเป็นเรื่องเล็ก แค่ประสานงานคลาดเคลื่อน
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กลุ่มพนักงานและเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาการเมือง สถาบันพระปกเกล้า ทำหนังสือถึงนายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ ประธานสภาพัฒนาการเมือง โดยขอให้ปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของพนักงานและเจ้าหน้าที่
หนังสือดังกล่าว ระบุว่า เกิดความขัดแย้งขึ้นระหว่างคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมืองและสำนักแผนพัฒนาการเมืองในฐานะฝ่ายเลขานุการของคณะกรรมการแผนพัฒนาการเมือง โดยมีสมาชิกคณะกรรมการพัฒนาการเมืองอย่างน้อย 7 ราย ได้แสดงความไม่พอใจต่อประเด็นการจ่ายเบี้ยประชุม และการปฏิบัติงานของฝ่ายเลขานุการ ด้วยการใช้กิริยา ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม ส่อเสียดอันเป็นดูหมิ่นศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ กระทบต่อขวัญกำลังใจในการทำงานโดยสุจริตของพนักงานและเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน อีกทั้งมีการกระทำของคณะกรรมการบางคนนำมาซึ่งความอึดอัดต่อการปฏิบัติงาน ก่อให้เกิดการทำงานที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงซึ่งกันและกัน
นอกจากนี้ที่ผ่านมายังมีสมาชิกบางรายที่มีพฤติกรรมที่ส่อให้เข้าใจได้ว่ามีการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ เช่น การเบิกจ่ายค่าเดินทางและการเบิกจ่ายค่าที่พัก ที่ไม่ตรงกับความจริง จนเป็นเหตุให้มีการสอบสวนโดยคณะกรรมการจริยธรรม และมีมติลงโทษโดยการตักเตือน ก่อให้เกิดข้อกังขาต่อกระบวนการสอบสวนทางจริยธรรมของสภาเป็นอย่างมาก
ล่าสุด นายธีรภัทร์ เสรีรังสรรค์ เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ขณะนี้ได้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงแล้ว เพราะไม่ว่าจะทำหนังสือมาถึงตน หรือไปพูดจาอะไรกันก็ดี ยังไม่สามารถทราบรายละเอียดได้อย่างชัดเจน เพราะฉะนั้นถ้าไปฟังความข้างเดียว หรือฟังความสองข้างก็ตาม แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นข้อเท็จจริงหรือไม่ คงดำเนินการอะไรไปลำบาก ดังนั้นต้องสอบข้อเท็จจริงเสียก่อน และตอนนี้ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏ
เมื่อถามว่า ตั้งคณะกรรมการสอบฯภายหลังได้รับหนังสือใช่หรือไม่ นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ใช่ ภายหลังได้รับหนังสือ ก็มีการประชุมกันของสมาชิกสภาพัฒนาการเมือง และที่ประชุมมีมติให้ตั้งคณะกรรมการสอบฯดังกล่าว
เมื่อถามว่า มีผู้ถูกสอบทั้งหมดกี่ราย นายธีรภัทร์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ เพราะคณะกรรมการสอบฯต้องวางกรอบก่อนว่าจะสอบใคร อย่างไร เขาประชุมของเขาเอง เข้าไปยุ่งไม่ได้ เขาคงต้องพิจารณาว่าเรื่องต้นสายปลายเหตุเกี่ยวข้องกับใครบ้าง ถึงจะเลือกสอบได้ถูกต้อง
“เชื่อว่าเป็นเรื่องเล็ก ๆ เผอิญเกิดจากความไม่เข้าใจกัน เกิดจากการประสานงานกันที่คลาดเคลื่อน เป็นเรื่องจัดสถานที่ประชุมที่ฝ่ายสมาชิกยังไม่ตกลงว่าจะใช้สถานที่อะไร แต่เจ้าหน้าที่อาจเข้าใจผิดไปจัดอีกสถานที่หนึ่ง ก็เลยเกิดปัญหาการเบิกจ่าย ก็เท่านั้นเอง ก็คิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร” นายธีรภัทร์ กล่าว
ส่วนกรณีที่มีสมาชิกบางรายมีพฤติกรรมแสวงหาผลประโยชน์มิชอบนั้น นายธีรภัทร์ กล่าวว่า เรื่องนี้ทำตามหลักกฎหมาย มีกระบวนการเป็นขั้นตอน ก็ใช้ประมวลจริยธรรมของสำนักงานฯ ดำเนินการโดยคณะกรรมการจริยธรรม และมีการตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงเช่นกัน ผลเป็นอย่างไร เป็นเรื่องที่คณะกรรมการจริยธรรมดำเนินการ ท้ายสุดมีข้อเสนอแบบนี้ ตนก็แค่ดำเนินการตามที่เขาสรุปให้
“แต่คนบางคนไม่เข้าใจ เพราะคิดอยากจะเห็นอย่างนั้นอย่างนี้ เราทำตามความรู้สึกไม่ได้ ต้องทำตามหลักการ ตามกฎหมาย ไม่อย่างนั้นถ้าใช้ความรู้สึกว่าคนนี้ผิด ทำไมไม่ไล่ออก มันไม่ได้ เพราะเป็นความรู้สึกส่วนตัว จะถูกหรือไม่ถูกก็ไม่รู้ เพราะฉะนั้นต้องยึดหลักกฎหมายเป็นหลัก ไม่ใช่ยึดความรู้สึก” นายธีรภัทร์ กล่าว