‘ลอกซ์เล่ย์’รื้อฟื้นบ.ชลกิจฯทำสัญญาขายน้ำ’อีสท์วอเตอร์’-นำที่ดินกู้แบงก์ลงทุน
ที่แท้ “ล็อกซ์เล่ย์” รื้อฟื้น “บ.ชลกิจฯ” ลุยประมูลโครงการขายน้ำให้ “อีสท์วอเตอร์” ช่วงปี 56 เผยนำโฉนดที่ดินกู้แบงก์ไทยพาณิชย์มาลงทุน ยันซื้อบ่อดินที่หลังเพราะป้องกันขาดทุนหากไม่ได้สัญญา ปัดตอบปม “ไอ้โม่ง” รีดไถเงิน 30 ล้าน เหตุเป็นคู่สัญญาที่ดีต่อกัน ไม่อยากมีปัญหา
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2558 ตัวแทนจากบริษัท ชลกิจสากล จำกัด เข้ามาชี้แจงต่อสำนักข่าวอิศรา กรณีทำสัญญาซื้อขายน้ำดิบกับบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ เป็นระยะเวลา 40 ปี และในระหว่างอายุสัญญาจะมีการปรับราคาน้ำเพิ่มในอัตราร้อยละ 10 ของทุก ๆ 5 ปี โดยนายธราธิป ธาราธรรมรัตน์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ชลกิจฯ ไม่ได้เข้ามาชี้แจงแต่อย่างใด เนื่องจากอ้างว่า ติดธุระเร่งด่วน
โดยตัวแทนของบริษัท ชลกิจฯ ชี้แจงกรณีทำสัญญาซื้อขายกับอีสท์วอเตอร์ ว่า ช่วงเดือน พ.ย. 2556 บริษัททราบข่าวจากอีสท์วอเตอร์ว่าจะมีโครงการรับซื้อน้ำดิบจากแหล่งน้ำเอกชนในพื้นที่ จ.ชลบุรี พอดีกับที่อีสท์วอเตอร์ ไม่ต่อสัญญากับบริษัทเอกชนเจ้าเดิมที่เคยทำสัญญาซื้อน้ำดิบกันก่อนหน้านี้ ประกอบกับบริษัทมีแนวคิดจะดำเนินการธุรกิจด้านน้ำอยู่แล้ว จึงนำโครงการไปเสนอขายน้ำดิบให้กับอีสท์วอเตอร์พิจารณา เมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2556 ทั้งนี้บริษัทได้ประเมินศักยภาพของแหล่งน้ำ และจ้างบริษัท เซ้าท์อี๊สท์เอเชีย เทคโนโลยี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษา ส่วนการดำเนินการได้ใช้วิศวกรที่มีประสบการณ์ทำงานด้านทรัพยากรน้ำจากบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของบริษัท ชลกิจฯ
ส่วนกรณีนำส่งรายได้งบการเงินของบริษัท เมื่อปี 2556 แค่ 132 บาท แล้วเอาเงินจากไหนไปเซ็นสัญญานั้น ตัวแทนบริษัท ชลกิจฯ กล่าวว่า ตอนแรกบริษัท ชลกิจฯ ชื่อว่า บริษัทเกษตรสากล โฮลดิ้ง จำกัด มีบริษัท ล็อกซ์เล่ย์ฯ ถือหุ้นใหญ่สุด ต่อมาในช่วงปี 2556 บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ฯ ได้หยุดกิจการของบริษัท ชลกิจฯ ดังนั้นจึงส่งรายได้เพียงแค่ 132 บาท ต่อมาเมื่ออีสท์วอเตอร์เตรียมจัดทำโครงการจัดซื้อน้ำดิบ บริษัท ล็อกซ์เล่ย์ฯ เล็งเห็นช่องทางดำเนินธุรกิจ จึงได้ฟื้นฟูและปรับเปลี่ยนโครงสร้างบริษัททั้งหมด ทั้งกรรมการและผู้ถือหุ้น รวมถึงวัตถุประสงค์ของบริษัท เพื่อหันมาเริ่มดำเนินธุรกิจจำหน่ายน้ำดิบอย่างเต็มรูปแบบ ก่อนที่จะไปยื่นประมูลต่ออีสท์วอเตอร์ในโครงการดังกล่าว โดยในส่วนของการปรับโครงสร้างนี้เอง ได้มีการระดมทุนจากผู้สนใจ และได้รับเงินทุนจากบริษัท ลอกซ์เล่ย์ฯ อีกด้วย
ตัวแทนบริษัท ชลกิจฯ กล่าวอีกว่า บริษัทได้จัดซื้อที่ดินบ่อแรก มูลค่า 30 ล้านบาทมาก่อนหน้าที่จะเข้ายื่นประมูล เพื่อเป็นหลักประกันให้กับอีสท์วอเตอร์ว่าเรามีศักยภาพเพียงพอในการดำเนินงาน และเมื่อได้สัญญามาแล้ว จึงดำเนินการซื้ออีก 4 บ่อ รวมเป็น 5 บ่อ ส่วนเหตุผลที่ไม่ซื้อทั้งหมด 5 บ่อในทีเดียว เพราะบริษัทเกรงว่า หากยื่นประมูลแล้วอีสท์วอเตอร์ไม่เซ็นสัญญา เราก็จะขาดทุนมาก และเมื่อซื้อที่ดินมาแล้วได้นำโฉนดจำนองเป็นประกันกับธนาคารไทยพาณิชย์ เพื่อกู้เงินออกมาจัดทำเป็นบ่อน้ำ ไม่ใช่สัญญา นี่จึงเป็นคำตอบที่ว่าทำไมบริษัทมีเงินไปลงทุนในโครงการ
“ในสัญญาของอีสท์วอเตอร์ เขาแทบไม่สนใจเลยว่า บริษัทจะขาดทุนเท่าไหร่ หรือมีงบการเงินที่ผ่านมาเป็นอย่างไร เขาสนใจแค่ว่ามีที่ดิน มีบ่อน้ำให้เขาจริงหรือเปล่าเท่านั้น” ตัวแทนบริษัทฯ กล่าว
ตัวแทนบริษัท ชลกิจฯ กล่าวด้วยว่า ปัจจุบันอีสท์วอเตอร์ได้เข้าสูบน้ำจากบริษัทแล้ว ทั้งนี้ ที่สงสัยคือในสัญญาการสูบน้ำให้เริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่ช่วง มี.ค. 2558 แต่อีสท์วอเตอร์กลับไม่ได้สูบน้ำจากบริษัทแต่อย่างใด กลับยังสูบน้ำจากบ่อบางพระ ของกรมชลประทาน ทั้งที่บ่อแห่งนั้นก็ใกล้เกินโควตาการสูบน้ำแล้ว นอกจากนี้สถานการณ์ภัยแล้งก็เริ่มรุนแรงมาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2558 แต่อีสท์วอเตอร์กลับไม่ยอมสูบน้ำไปขาย พอบริษัททวงถาม ก็กลับมีการขอแก้ไขสัญญาไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งล่าสุดอีสท์วอเตอร์ขอความร่วมมือไม่ให้ขายน้ำให้กับที่อื่น ถ้าอีสท์วอเตอร์ไม่เข้าไปสู่น้ำ และสูบน้ำได้เมื่อช่วงกลางเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา
เมื่อถามว่า ทราบกรณีที่ น.ต.ศิธา ทิวารี อดีตกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย และอดีตปรธานอีสท์วอเตอร์ ได้ออกมาปูดข้อมูลว่ามี “ไอ้โม่ง” รีดไถเงินจากบริษัทเอกชนจำนวน 30 ล้านบาท ตัวแทนบริษัท ชลกิจฯ ระบุว่า ไม่ทราบเรื่อง อย่างไรก็ดี ขณะนี้สัญญากับอีสท์วอเตอร์กำลังไปได้ดี และไม่อยากมีปัญหา จึงไม่ขอพูดถึงเรื่องนี้
เมื่อถามว่า บอร์ดบริหารอีสท์วอเตอร์ชุดปัจจุบัน สั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีนี้แล้ว ตัวแทนบริษัท ชลกิจฯ ระบุว่า ก่อนหน้านี้บอร์ดเก่าของอีสท์วอเตอร์ ที่มี น.ต.ศิธา เป็นประธาน ก็เคยตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้วเช่นกัน ซึ่งก็ไม่พบความผิดปกติ อย่างไรก็ดีพร้อมยินยอมหากจะมีการตรวจสอบอีกครั้ง
อ่านประกอบ :
ตะลึง!'อีสท์วอเตอร์'ซื้อน้ำดิบเอกชนรายเดียว 5 พันล. ผูกขาด 40 ปี ยุค'ผู้พันปุ่น'
บ.ชลกิจฯ แจ้งรายได้ 132 บ. ก่อนคว้าสัญญาขายน้ำอีสท์วอเตอร์ยาว 40 ปี 5 พันล.
พบบ.'คู่ค้า'อีสท์วอเตอร์ เพิ่งซื้อที่ดินหลังได้สัญญาขายน้ำ40ปี-ฟันรายได้งวดแรก 365ล.