"ดร.สุทธิพร" ดับเครื่องชน ยื่น สกอ. สอบปม "อธิการฯ" ฝ่าฝืนมติสภาฯเอแบค
"ดร.สุทธิพร" ดับเครื่องชน ยื่น สกอ. สอบปมอธิการบดีเอแบค ฝ่าฝืนมติสภามหาวิทยาลัยให้หยุดปฏิบัติระหว่างถูกตั้งกก.สอบ แถมสั่งห้ามจนท.ให้ความร่วมมือรักษาการ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ได้รับแจ้งว่า ดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล รักษาการอธิการบดี มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ หรือเอแบค เข้ายื่นหนังสือแก่สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) เพื่อติดตามการอุทธรณ์คำสั่งอันเป็นการฝ่าฝืนมติสภามหาวิทยาลัยในประเด็นที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยคนปัจจุบันถูกตั้งคณะกรรมการสวบสวนในหลายประเด็นและมีคำสั่งให้พักงานชั่วคราว แต่กลับเมินมติสภาฯ แถมยังสั่งห้ามเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยงดให้ความร่วมมือกับตนในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ เชื่อการสอบสวนจะเป็นผลดีกับตัวอธิการบดีเอง เพราะหากบริสุทธิ์จริงต้องไม่กลัวการตรวจสอบ
ดร.สุทธิพร เปิดเผยว่า จากกรณีที่สภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ได้มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ภราดา บัญชา แสงหิรัญ อธิการบดีมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว โดยมีกรณีถูกกล่าวหาว่ากระทำความผิดในเรื่องการ ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ เป็นเหตุให้เกิดความเสียหายอย่างรุนแรงและสร้างความเสื่อมเสียให้แก่ชื่อเสียงของมหาวิทยาลัย อาทิ โครงการจัดซื้ออุปกรณ์การเครื่องฝึกบินจำลอง มูลค่าประมาณ 350 ล้านบาท ก่อให้เกิดความเสียหายกว่า 60 ล้านบาท กรณีการบริหารสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ที่ไม่โปร่งใส สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง มูลค่าความเสียหายเกือบ 50 ล้านบาท ซึ่งหากมีการดำเนินคดีจะสามารถตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ถูกยักยอกและสาวไปถึงขบวนการผู้กระทำความผิดนี้ แต่ทว่าอธิการบดีคนดังกล่าวกลับไม่ดำเนินการหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ
ดร.สุทธิพร กล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีอีกหลายประเด็นที่มีความไม่ชอบมาพากล อาทิ การเปลี่ยนมาตรฐานในการทำบัญชีงบดุลของมหาวิทยาลัยโดยพลการส่งผลให้มีการปกปิดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินงานผิดพลาดเป็นการกระทำที่มิชอบด้วยกฎหมายและยังมีการเปลี่ยนแปลงเอกสารข้อมูลบันทึกการประชุมรวมถึงเปลี่ยนแปลงมติที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมในหลายวาระ และประเด็นที่สำคัญคือ ภราดา บัญชาได้ทำการฝ่าฝืนมติสภามหาวิทยาลัย ซึ่งถือเป็นความผิดร้ายแรง จึงได้นำเรื่องนี้มายื่นเสนอต่อ สกอ. เพื่อให้ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง เพื่อให้เรื่องนี้ได้รับความกระจ่าง
“อยากให้ทุกคนมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผมกับท่านอธิการบดี เพียงแต่อยากให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงเรื่องของการทำงานที่ตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์สุจริตและการมีศีลธรรมจริยธรรมประจำใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารงานด่างๆ ยิ่งเป็นมหาวิทยาลัยที่มีหน้าที่ในการผลิตบัณฑิตที่จะออกมา เป็นอนาคตของชาติ ผู้บริหารยิ่งจะต้องมีความหนักแน่น โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ 100% จึงจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเยาวชนคนรุ่นใหม่ได้ และหากท่านอธิการบดีมีความบริสุทธิ์ใจจริงๆ ก็ไม่ควรที่จะกลัวการตรวจสอบแต่อย่างใด ตรงกันข้าม การตรวจสอบนี่แหละที่จะเป็นเครื่องรับประกันความบริสุทธิ์ของท่าน ให้สังคมได้รับทราบและยอมรับ”
ทั้งนี้ ในการประชุมเมื่อวันที่ 16 เมษายน 2558 และ 16 มิถุนายน 2558 สภามหาวิทยาลัยอัสสัมชัญได้มีมติให้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนอธิการบดีและให้อธิการบดีหยุดปฏิบัติหน้าที่ในระหว่างที่มีการสอบสวน และให้แต่งตั้งผู้รักษาการตำแหน่งอธิการบดีจนกว่าการสอบสวนจะแล้วเสร็จ และหากผลการสอบสวนปรากฏว่าอธิการบดีไม่มีความผิดก็ให้อธิการบดีกลับมาปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม ซึ่งสภามหาวิทยาลัยได้แต่งตั้ง ดร.สุทธิพร ปทุมเทวาภิบาล กรรมการสภามหาวิทยาลัยเป็นผู้รักษาการอธิการบดี ตั้งแต่วันที่ 18 มิถุนายน 2558 เป็นต้นไป และได้ให้แจ้งทุกหน่วยงานรับทราบและถือปฏิบัติตามมติ คำสั่ง และคำสั่งของสภามหาวิทยาลัยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ล่าสุด ดร.สุทธิพร เปิดเผยเพิ่มเติมกับผู้สื่อข่าวว่า สกอ.มีท่าทีจะดำเนินการอย่างไรบ้าง หลังจากที่ไปยื่น หนังสือ คุณสุทธิพรกล่าวว่า ทางสกอ.ก็ดำเนินการขั้นตอนตามกติกาอยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านี้ได้ไปยื่นหนังสือให้ทางสกอ.เพื่อช่วยพิจารณาว่า มติ วิธีการและขั้นตอนต่างๆที่มีดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งทางสกอ กำลังพิจารณา ทางเราก็กำลังรออยู่และก็ไม่รู้ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร
ดร.สุทธิพรกล่าวว่า การที่นายกสภาไม่ทำตามมติสภาฯผลที่จะเกิดขึ้นกับมหาวิทยาลัยมี2ข้อด้วยกัน 1.ท่านอธิการถูกพักงานไปตั้งแต่ 30 เมษายน ทุกอย่างที่ท่านได้ทำธุรกรรมหรืออะไรอื่นๆอยู่ตอนนี้ผิดกฎหมายทั้งสิ้น เพราะมติสภาได้ออกไปแล้ว ท่านต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ นี่คือความเสียหายที่เกิดขื้น 2.อีกไม่นานมหาวิทยาลัยก็จะเปิดปีการศึกษาแล้วความเสียหายตรงนี้ยังไม่ทราบเลยว่าจะเป็นอย่างไร
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงล่าสุดที่นายกสภาเซ็นยกเลิกคำสั่งของสภาที่มีมติไปหมดแล้วนั้นคำสั่งที่ถูกยกเลิกไปยังมีผลอยู่หรือไม่ ดร.สุทธิพรกล่าวว่า ยังมีผลอยู่เนื่องจากคำสั่งออกและทำตามมติของสภา มติสภานี้ถือว่าสิ้นสุดทุกคนต้องปฏิบัติตาม นายกไม่ปฏิบัติตามมติของสภาถือว่าฝ่าฝืน คนที่จะยกเลิกคำสั่งของสภาได้ก็คือสภาเอง ไม่มีใครยกเลิกได้ นอกจากมีมติใหม่เปลี่ยนแปลงออกมา
“มติสภาถือว่าเป็นสูงสุดทุกคนต้องปฏิบัติถูกผิดก็ต้องปฏิบัติ ไม่ใช่ไม่ยอมรับ” ดร.สุทธิพรกล่าว
ดร.สุทธิพรกล่าวต่อไปว่า หลังจากที่ยื่นหนังสือที่สกอ.แล้ว จากนี้ต้องรอคำตอบของสกอ. ว่าจะเป็นอย่างไร โดยหน้าที่แล้วตนต้องเข้าปฏิบัติงานและถ้าใครไม่ปฏิบัติตามให้ความร่วมมือถือว่าขัดต่อมติสภา จะโดนกฎหมายเล่นงานและหากอธิการบดีเองบริสุทธิ์จริงต้องไม่กลัวการตรวจสอบแต่อย่างใด ตรงกันข้าม การตรวจสอบนี่แหละที่จะเป็นเครื่องรับประกันความบริสุทธิ์ของท่าน ให้สังคมได้รับทราบและยอมรับ พร้อมอยากให้ทุกคนมองว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องของความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างตนเองกับท่านอธิการบดี เพียงแต่อยากให้สังคมไทยได้ตระหนักถึงเรื่องของการทำงานที่ตรงไปตรงมา ความซื่อสัตย์สุจริตและการมีศีลธรรมจริยธรรมประจำใจในการปฏิบัติหน้าที่ให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารงานต่างๆ
อ่านเรื่องประกอบ :
.อัสสัมชัญ สั่งสอบ อธิการฯ พร้อมให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ - เจ้าตัวไม่สนยังทำงานปกติ
ฝ่ายหนุนอธิการฯอัสสัมชัญ งัดคำสั่งนายกสภาฯ โต้กลุ่มล้มล้าง ตั้งกก.สอบโดยมิชอบ