“บุญทรง-ภูมิ-นิวัฒน์ธำรง”ลุ้นอีก! ป.ป.ช.ลุยสอบพบพันคดีจีทูจีรอบใหม่
“บุญทรง-ภูมิ-นิวัฒน์ธำรง” ได้ลุ้นอีก! ป.ป.ช. ลุยสอบพบพันระบายข้าวจีทูจีกับ 4 บริษัทจีนรอบใหม่ 14 ล้านตัน สั่งเจ้าหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานแล้ว ตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัด ก่อนสรุปสำนวนแจ้งข้อกล่าวหา
จากกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีมติตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวน นางปราณี ศิริพันธ์ อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ และคณะทำงานดำเนินการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) กรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่า การซื้อขายข้าวจีทูจีรอบใหม่กับ 4 บริษัทจากประเทศจีน ปริมาณรวมกว่า 14 ล้านตัน ส่อมิชอบ และหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรมนั้น
(อ่านประกอบ : ป.ป.ช.ตั้งอนุฯลุยสอบเพิ่ม 4 บริษัทจีนส่อขายข้าวจีทูจีเก๊-“ปราณี”โดนด้วย)
ล่าสุด แหล่งข่าวระดับสูงจากสำนักงาน ป.ป.ช. กล่าวถึงกรณีนี้ว่า อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานแล้ว
เมื่อถามว่า กรณีนี้มีนักการเมืองคนใดเกี่ยวข้องบ้าง แหล่งข่าวรายนี้ ระบุว่า เท่าที่ทราบขณะนี้มีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ และนายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ ที่น่าจะเกี่ยวข้องในกรณีนี้ด้วย รวมไปถึงนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ดีต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงให้ชัดเจนอีกครั้ง จึงจะสามารถสรุปสำนวน และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาผู้ถูกกล่าวหาได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เกิดขึ้นภายหลังคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนายบุญทรง และนายภูมิ กรณีระบายข้าวแบบจีทูจีโดยมิชอบ ต่อมามีเหตุอันควรสงสัยว่า นางปราณี และนายบุญทรง ได้ให้ความเห็นชอบซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับ 4 บริษัทจากประเทศจีน ได้แก่ 1.บริษัท Haikou Liangmao Cereals and Oils Trading Co.,Ltd. ปริมาณ 3 ล้านตัน 2.บริษัท Haikou Liangyunlai Cereals and Oils Trading Co.,Ltd. ปริมาณ 2 ล้านตัน 3.บริษัท Hainan Province Land Reclamation Industrial Development ปริมาณ 4 ล้านตัน และ 4.บริษัท Hainan Land Reclamation Commerce and Trade Group Co.,Ltd. ปริมาณ 5 ล้านตัน
โดยคณะกรรมการ ป.ป.ช. เห็นว่า บริษัทฯดังกล่าว มิได้เป็นหน่วยงานของรัฐที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนให้เข้ามาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจี แต่กระทำไปโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคาอย่างเป็นธรรม อันเป็นการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตตามกฎหมายอื่น เห็นควรดำเนินการไต่สวนข้อเท็จจริงตามมาตรา 66 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 โดยตั้งนายประสาท พงษ์ศิวาภัย กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ และ น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นอนุกรรมการไต่สวนฯ