“อาณันย์”แจงโอนโฉนดที่ดิน 39 ล.คืนบริษัทเก่า-ยันซื้อขายไม่ได้
“อาณันย์” แจงโฉนดที่ดิน 5 แปลง 39 ล. เป็นของบริษัทเก่า อ้างโฉนดระบุชื่อตัวเอง จำเป็นต้องแจ้งในบัญชีทรัพย์สิน ชี้ถึงเวลาต้องโอนกลับบริษัท บอก ป.ป.ช. ตั้งแต่วันยื่นแล้ว เผย “ภรรยา” ยังไม่มีรายได้ เหตุช่วงนั้นยังไม่ได้รับเงินเดือน
จากกรณีสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินของ พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ที่ยื่นต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีพ้นจากตำแหน่ง ส.ส.เพื่อไทย ครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2557 พบว่า มีทรัพย์สินลดลงจากเดิมกว่า 39 ล้านบาท โดยเฉพาะที่ดิน 5 แปลง หายไปถึง 4 แปลง โดยไม่ได้แจ้งว่าโอน หรือขายให้กับบุคคลใดนั้น
(อ่านประกอบ : )
ล่าสุด พ.ต.อาณันย์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีนี้ว่า ทรัพย์สินที่หายไป ได้นำไปชำระหนี้สิน ส่วนที่ดินทั้ง 5 แปลง เป็นที่ดินที่ไม่สามารถซื้อ-ขายได้ เนื่องจากเป็นโฉนดถนน แต่เดิมโฉนดเหล่านี้เป็นทรัพย์สิน ของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ที่เคยเป็นกรรมการอยู่ แต่เนื่องจากในโฉนดระบุชื่อตน จึงจำเป็นต้องแจ้งไว้ในรายการทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช. เมื่อถึงระยะเวลาก็โอนคืนกลับไปให้บริษัท และได้ชี้แจงประเด็นดังกล่าวให้ ป.ป.ช. ทราบ ตั้งแต่วันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว
“ผมเอาไปใช้หนี้สิน พยายามทำให้มันสบายใจ ส่วนทรัพย์สินบางตัว แต่ก่อนผมทำงานบริษัท แล้วมันเป็นโฉนดแปลงถนน พอถึงเวลาที่เขาจะสร้างผมก็ต้องโอนให้เขา แต่ว่ามันเป็นชื่อผม ผมไม่แจ้งไม่ได้ ต้องเข้าใจว่ามันเป็นโฉนดที่เราซื้อขายไม่ได้ ผมโอนไปให้หลายคน แต่โอนให้ใครบ้าง ผมจำไม่ได้คงต้องไปเช็คอีกที เพราะบางส่วนผมก็ให้คนอื่นจัดการให้ ส่วนหนึ่งก็โอนไปให้หมู่บ้านแห่งหนึ่ง” พ.ต.อาณันย์ กล่าว
ส่วนทรัพย์สินของนางอาภาภัทร วัชโรทัย ภรรยา ที่ไม่ปรากฏรายได้จากการดำรงตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญประจำตัว เนื่องจากวันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินนั้น พ.ต.อาณันย์ กล่าวว่า “กว่าจะได้มีคำสั่งให้แต่งตั้งผู้เชียวชาญก็ปลายเดือนแล้ว แต่งตั้งเสร็จก็ยังไม่ได้รับเงินเดือน จนกระทั่งวันที่ยื่นบัญชีทรัพย์สินก็ยังไม่ได้รับ เพิ่งมาตกเบิกทีหลัง”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ในช่วงปี 2535-2554 พ.ต.อาณันย์ เคยเป็นประธานกรรมการบริษัท พูนภัทรสมบัติ จำกัด และปี 2551-2554 เคยเป็นกรรมการบริษัท กรุงเทพพร็อพเพอร์ตี้ส์ จำกัด
หมายเหตุ : ภาพประกอบจาก aecnews