ค้านเปิด "คาสิโน" นักวิชาการแนะศึกษาผลกระทบ-แก้กม.พนัน
“..ประเทศไทยยังขาดกลไกควบคุมและจัดการปัญหาการพนันอย่างเป็นระบบ และยังไม่มีหน่วยงานที่ดูแลภาพรวมในเชิงนโยบาย ในการอนุญาต ควบคุม จัดการปัญหา และลดผลกระทบจากการพนัน”
ข้อเสนอเรื่องการเปิดบ่อนคาสิโนถูกกฎหมายในประเทศของกลุ่มสภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.)12 คน มีเสียงคัดค้านจากสปช. นักวิชาการ และภาคสังคมจำนวนไม่น้อย ถึงความไม่เหมาะสมหลายประการ
“เทียนฉาย กีระนันทน์” ประธานสปช. กล่าวว่า ข้อเสนอดังกล่าวเป็นความเห็นส่วนบุคคล เป็นข้อเสนอที่ยังไม่ได้นำเข้าสู่ที่ประชุมสปช.ให้พิจารณาหรือลงมติแต่อย่างใด
“ข้อเท็จจริงไม่ใช่มติของที่ประชุมสปช. เนื่องจากไม่มีการเสนอให้ที่ประชุมพิจารณาหรือลงมติ ดังนั้น จึงเป็นความเห็นของบุคคลเท่านั้น เรื่องปิดหรือเปิดคาสิโน ไม่ได้อยู่ในแผนปฏิรูป ที่สปช. กำหนด” เทียนฉาย กล่าว
ล่าสุด “พงศ์ธร จันทรัศมี” ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาจากการพนัน มูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ เห็นว่า หากสปช.ทั้ง 12 ท่านยื่นเรื่องการจัดตั้งบ่อนคาสิโนต่อรัฐบาล รัฐบาลเองจะต้องคิดให้รอบด้านและคำนึงถึงผลกระทบทางสังคมที่ตามมา
ทั้งนี้ จากบทเรียนของต่างประเทศต่อแนวนโยบายการพนัน เช่น ตัวอย่างจากประเทศฮ่องกง มีการยกเรื่องการพนันทายผลฟุตบอลขึ้นมาให้ถูกกฎหมาย ปรากฏว่าคนเล่นการพนันมากขึ้น และการพนันที่ผิดกฏหมายก็ไม่ได้ลดลง
“มีผู้ที่ติดพนัน เพิ่มขึ้นจาก 1,000 คน เป็น 7,000 คน เด็กและเยาวชน เริ่มเห็นการพนันเป็นสิ่งปกติ การส่งเสริมการรู้เท่าทันไม่สามารถทำได้ทันกับธุรกิจที่ขยายตัว”
ผู้จัดการโครงการขับเคลื่อนสังคมและนโยบายสาธารณะเพื่อลดปัญหาจากการพนัน ยังกล่าวว่า สิงคโปร์เพิ่งเปิดคาสิโนให้ถูกกฎหมายเมื่อปี 2010 ที่ผ่านมา จากเดิมเน้นลูกค้าที่ชาวต่างชาติ แต่ภายหลังก็ให้คนในประเทศเล่นได้ ทำให้ประชาชนในประเทศสิงคโปร์มีปัญหาเรื่องหนี้สินจากการพนันและผู้ที่เข้ารับการรักษาการติดการการพนันเพิ่มมากขึ้นในประเทศสิงคโปร์
“ทุกคนต้องรู้ว่าการพนัน เป็นธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจโดยรวม เกี่ยวข้องกับอาชญากรรม ผู้ที่มักจะเป็นเหยื่อจากการพนันคือผู้มีรายได้น้อย หากจะมีการจัดตั้งบ่อนกาสิโนจริงต้องพิจารณาให้รอบด้าน”
“พงศ์ธร” กล่าวอีกว่า ประเทศไทยยังขาดกลไกควบคุมและจัดการปัญหาการพนันอย่างเป็นระบบ และยังไม่มีหน่วยงานที่ดูแลภาพรวมในเชิงนโยบาย ในการอนุญาต ควบคุม จัดการปัญหา และลดผลกระทบจากการพนัน
“การพิจารณาอนุญาตธุรกิจการพนันชนิดไหน ต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะตามมาด้วย เรายังขาดระบบการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการพนัน ซึ่งในหลายประเทศ มีการพัฒนาระบบ การให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ ผู้ที่ได้รับผลกระทบ ทั้งทางตรง และทางอ้อม ในขณะที่บ้านเรายังไม่มี”
นอกจากนี้ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ข้อเสนอเรื่องการจัดตั้งบ่อนคาสิโนในประเทศไทยยังมีข้อจำกัดของกฎหมายซึ่งลำพังเพียงกฎหมาย การพนัน พ.ศ.2478 ที่เน้นการอนุญาต ไม่อนุญาตการพนันเพียงอย่างเดียว อาจจะไม่เพียงพอต่อการจัดการ ควบคุมปัญหาการพนัน แต่ยังมีอีกหลายเรื่องที่เกี่ยวข้อง เช่น การป้องกันเด็กและเยาวชน การฟอกเงิน การควบคุมให้มีการเล่นการพนันแบบรับผิดชอบ การสร้างทัศนคติต่อสังคม
“พงศ์ธร” เสนอว่า 1.รัฐควรพิจารณาทบทวนปรับปรุงกฎหมายในหลายส่วน ให้ทันสมัย มีกลไกมีตัวแทนจากหลายภาคส่วน ร่วมกำหนดนโยบายการอนุญาตธุรกิจการพนัน
2. รัฐจะต้องศึกษาถึงผลกระทบทางสังคม และงบประมาณที่ใช้กลไกการป้องกันเด็กและเยาวชนให้ชัดเจน และ 3.รัฐจะต้องพัฒนากลไกกองทุน และมาตรการลดผลกระทบจากการพนันให้เป็นรูปธรรม มีความพร้อมที่จะให้ดำเนินการป้องกัน ให้บริการเยียวยา และจัดการปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชน
“หากรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอทั้ง 3 ข้อนี้ แนวทางในการจัดตั้งบ่อนคาสิโนในประเทศเราคงชัดเจนมากขึ้น เราไม่ได้ดัดจริต แต่คิดว่าต้องสร้างสังคมให้มีวุฒิภาวะก่อนที่จะตัดสินใจเรื่องเพิ่มอบายมุขใดๆ” พงศ์ธร กล่าว
อย่างไรก็ดี “พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาให้สัมภาษณ์ ขานรับแนวคิดการเปิดบ่อนเสรี และเตรียมเปิดเว็บไซต์ส่วนตัวเพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชน
ขอบคุณภาพจาก http://www.aecnews.co.th