กรรมการร่างทีโออาร์เมล์ชานต่ำเผยขสมก.เลื่อนเซ็นสัญญาเหตุถูกจับตาทุจริต
เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่ชี้เหตุขสมก.เลื่อนเซ็นสัญญาเมล์เอ็นจีวี รายละเอียดในสัญญาไม่เรียบร้อย ระบุส่งอัยการตรวจสอบเป็นเรื่องถูกต้อง ย้ำที่ต้องทำงานรัดกุมเพราะถูกจับจ้องจากหลายหน่วยงาน
จากกรณีองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดประมูลซื้อรถโดยสารก๊าซธรรมชาติ (NGV) เป็นเชื้อเพลิงจำนวน 489 คัน วงเงิน 1,784.85 ล้านบาท โดยมีกลุ่มบริษัทร่วมค้า เจวีซีซี ที่มี บริษัท ช.ทวีดอลลาเซียล จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ชนะประมูล ซึ่งมีการกำหนดวันลงนามในสัญญาภายในวันที่ 16 มิ.ย. แต่ในขณะนี้ยังไม่มีการลงนามเซ็นสัญญา
ล่าสุดเมื่อวันที่15 มิ.ย. นางปราณี ศุกระศร รักษาการ ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ระบุถึงสาเหตุที่ไม่สามารถลงนามในสัญญาประมูลรถเมล์ว่าต้องเลื่อนการลงนามสัญญาออกไปก่อน เนื่องจากตัวสัญญาที่ส่งไปให้อัยการตรวจสอบยังไม่แล้วเสร็จ หากสุดท้าย ขสมก.ไม่สามารถทำสัญญาได้ จะต้องกลับไปเริ่มต้นกระบวนการประมูลใหม่
นายสุภรธรรม มงคลสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิพระมหาไถ่ ในฐานะตัวเเทนเครือข่ายคนพิการซึ่งเป็นหนึ่งในกรรมการร่างทีโออาร์จัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี กล่าวกับสำนักข่าวอิศรา ถึงปัญหาดังกล่าวว่า ข้อเท็จจริงหลักๆคือรายละเอียดของการดำเนินงานยังไม่เรียบร้อยและมีความเกี่ยวข้องปรากฏในสัญญา การเปิดการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ (E-Auction) ซึ่งจัดถึง3 รอบนั้น จบตรงที่มี 2 บริษัทที่ทำ E-Auction ได้ ทั้ง 2 บริษัทต่างคนต่างมั่นใจว่ามีข้อเสนอที่ดีที่สุด ขสมก.เองก็ต้องรัดกุมและอุดช่องโหว่ให้ได้ มิฉะนั้นก็จะถูกฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งร้องได้
“ที่สำคัญงวดนี้ทุกสายตาจับจ้องมาที่การทำงานของขสมก. ไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันการทุจริตแห่งชาติ ผู้สังเกตการณ์ บอร์ดชุดใหม่ นี่จึงเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ขสมก.ต้องทำงานอย่างรัดกุม”
นายสุภรธรรม กล่าวด้วยว่า การที่ขสมก.ออกมาระบุที่สาเหตุที่ไม่สามารถลงนามในสัญญาได้ตามระยะเวลาที่กำหนดนั้นเพราะต้องส่งตัวสัญญาไปให้อัยการตรวจซึ่งขณะนี้ยังไม่แล้วเสร็จ นั่นก็เป็นสิ่งที่ขสมก.เองต้องทำเนื่องจากสัญญาต่างๆที่จะเกิดขึ้นโดยเฉพาะในเรื่องค่าบำรุงรักษาจะเป็นภาระผูกพันในระยะยาว และเรื่องการตรวจสอบเอกสารสัญญาให้รอบคอบเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา
สำหรับการร้องเรียนของอีกบริษัทที่ทำหนังสือไปยังพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีนั้น นายสุภรรธรรม กล่าวว่า เป็นเหตุการณ์ปกติ เนื่องจากแต่ละบริษัทจะรู้จุดอ่อนของอีกฝ่าย และพบได้ทั่วไปในการแข่งขัน ที่ไม่มีการฮั้วประมูล หรือเรียกว่ามีการฮั้วประมูลน้อย หากมีเหตุการณ์ปรากฎอย่างเอาจริงเอาจังแปลว่าฮั้วกันไม่ลง ดังนั้นก็จะต้องมีการตรวจสอบยืนยันและขสมก.จะต้องทำหน้าที่ในการรักษาผลประโยชน์ของประชาชนทั่วประเทศเช่นกัน และทางเครือข่ายจะเฝ้าระวังและติดตาม