นายกฯโยน ปม 2 สนช.เอี่ยวจัดซื้อยาฆ่าแมลง -'ประมนต์'จี้จัดการ
'ประยุทธ์' ชี้ 'ไม่ใช่หน้าที่ผม' หลังถูกซักปม 2 สมาชิกสนช.เอี่ยวทุจริตยาปราบศัตรูพืช ขอดำเนินงานตามโรดแมป วอนประชาชน ร่วมแก้ปัญหาทุจริตยึดหิริโอตัปปะไว้ในใจ ด้านประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชั่นฯย้ำหากมีมูล รัฐบาลต้องเข้าไปติดตาม
8 มิถุนายน 2558 ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการประกาศเจตนารมณ์ “ต่อต้านการทุจริตสร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง”
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวตอนหนึ่งว่า ประชาชนคนไทยจะต้องร่วมมือกันพัฒนาประเทศให้มีความทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ สำหรับการจัดการเรื่องปัญหาการทุจริตนั้นแม้จะมีกฎหมายที่รุนแรงแต่หากบังคับใช้ไม่ได้ก็ไม่เกิดประโยชน์อันใด โดยเฉพาะในกลุ่มราชการที่มีปัญหาในการทุจริตมากส่งผลให้ภาพลักษณ์ของข้าราชการในขณะนี้ไม่น่าเชื่อถือ ดังนั้นจะเห็นว่ารัฐบาลของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ได้พยายามจัดการปัญหาในส่วนนี้อย่างจริงจังเพื่อที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์ของข้าราชการกลับคืนมา
พลเอกประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า การทุจริตมีหลายรูปแบบปัญหาสำคัญอยู่ที่คน สภาพแวดล้อม บางทีคิดว่าโกงแต่หากได้แบ่งปันกันก็ไม่เป็นไร ซึ่งความคิดลักษณะนี้เท่ากับเป็นการโกงตัวเอง โกงชาติ มิหนำซ้ำยังเป็นการสอนให้ลูกหลานตัวเองโตขึ้นมาโกงอีกด้วย ดังนั้นคนไทยทุกคนต้องมีหิริโอตัปปะ คือความละอายและเกรงกลัวต่อบาปและต้องรู้จักปรับตัวเองให้ดีขึ้นแล้วทุกอย่างในประเทศก็จะดีขึ้น ประเทศไทยไม่ได้เลวร้ายไปทั้งหมด ทุกวันนี้รัฐบาลก็พยายามปรับปรุงทุกอย่างให้ดีขึ้นอยู่ มีการปรับโครงสร้างกลไกต่างๆ
นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า แม้จะมีผลสำรวจต่างๆออกมามากมายและให้คะแนนการแก้ปัญหาทุจริตดีขึ้น ถามว่าให้คะแนนดีดีใจไหม ก็ดีใจ แต่ยังไม่เป็นที่พอใจเพราะคะแนนในเวทีโลกก็ต้องดีกว่านี้ แต่ก็มีบางพวกที่หวังว่าหมดโรดแมปเมื่อไหร่จะโกงเมื่อนั่น ไม่เข้าใจว่าคนแบบนี้คิดอะไรอยู่
“ตัวอย่างโครงการที่มีปัญหาการทุจริตอย่างโครงการบำบัดน้ำเสียคลองด่านทำให้รัฐสูญเสียเงินเป็นจำนวนมาก ดังนั้นต่อไปนี้โครงการใดๆก็ตามส่อทุจริตมีปัญหา จะมีการตรวจสอบ สอบสวน แล้วตั้งคนใหม่มาทำหน้าที่แทนทันที ไม่อย่างนั้นเสียหายอีก”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีรายชื่อของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติเข้าไปพัวพันคดีทุจริตจัดซื้อยาฆ่าแมลงจะดำเนินการอย่างไร พลเอกประยุทธ์ ตอบเพียงสั้นๆว่า "ใครล่ะ ไม่สนใจ ให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมปพอ ไม่ต้องถามไม่ใช่หน้าที่ผม"
ด้านนายประมนต์ สุธีวงศ์ ประธานองค์กรต่อต้านคอรัปชั่น (ประเทศไทย) และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ กล่าวว่า ภาพรวมการทำงานของรัฐบาลคสช.ที่ผ่านมามีการเอาจริงเอาจังกับการแก้ปัญหาการทุจริตมากขึ้น จะเห็นได้จากการตรวจสอบข้าราชการที่มีคดีทุจริตและสั่งลงโทษในทันที ถือว่าเป็นแนวทางการทำงานที่จริงจังรวมถึงการออกพระราชบัญญัติต่างๆ เช่น พ.ร.บ.อำนวยความสะดวกในการออกใบอนุญาต ซึ่งถือว่าเป็นต้นแบบ ดังนั้น สปช.เองก็พยายามคิดกันว่าจะต่อยอดอย่างไรถึงจะทำให้ยั่งยืน ถึงแม้จะมีการเปลี่ยนรัฐบาลแล้วแต่มาตรการเหล่านี้ยังคงอยู่
ส่วนกรณีที่มีข่าวสมาชิก สนช.เข้าไปพัวพันคดีทุจริตนั้น นายประมนต์ กล่าวว่า ถ้ามีมูลจริง รัฐบาลต้องเข้าไปติดตาม แต่ก็มีคณะกรรมการที่ตั้งมาดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว กับศูนย์ที่พลเอกไพบูลย์ คุ้มฉายา เป็นคนดูแล ถ้ามีมูลคงจะมีการจัดการ
ทั้งนี้ภายในงานประกาศเจตนารมณ์ “ต่อต้านการทุจริตสร้างจิตสำนึกไทยไม่โกง”มีข้าราชการ นักเรียนนักศึกษา ภาคเอกชน เอคอัครราชทูต และเครือข่ายโตไปไม่โกง มาร่วมงานอย่างคับคั่ง