“จตุพร”ลั่น! ปี’59ถ้าไม่เลือกตั้งต้องการอะไร อยู่ต่อให้บอก-โทษสีใดไม่ได้
“จตุพร” เสนอความเห็นต่อ ศปป. ยันหาก รธน. เขียนแบบนี้สร้างวิกฤติในอนาคต ขอความเป็นธรรมปมปิดพีซทีวี ลั่นเปิดพื้นที่เห็นต่างเป็นประโยชน์ ชี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สีใดสีหนึ่ง ลั่นปี’59 ไม่มีเลือกตั้ง ต้องการอะไร หากจะอยู่ต่อให้บอก
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. 2558 ที่สโมสรทหารบก ถ.วิภาวดี-รังสิต ศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.)จัดเสวนาปรองดองสมานฉันท์เพื่อความมั่นคงและยั่งยืนในสังคมไทย ครั้งที่ 2 ในหัวข้อ "อนาคตของประเทศไทย" โดยเชิญนักการเมือง นักวิชาการ และกลุ่มประชาชนเข้ามาร่วมพูดคุยหารือ เพื่อเสนอแนวทางเดินหน้าปฏิรูปประเทศ โดยมี พล.อ.ฉัตรเฉลิม เฉลิมสุข เสนาธิการทหารบก เป็นประธานในเวทีการพูดคุย พร้อมด้วย พล.อ.พิสิทธิ์ สิทธิสาร ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ในฐานะ ผอ.ศปป. เข้าร่วมเสวนาด้วย
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวภายหลังเข้าร่วมประชุมดังกล่าวว่า ได้นำเสนอเป็นประเด็นเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ สิทธิมนุษยชน และปัญหาต่าง ๆ ทั้งนี้ในฐานะตัวแทน นปช. ได้แสดงความเห็นในประเด็นร่างรัฐธรรมนูญ โดยเห็นว่า หากเขียนออกมาแบบนี้จะเกิดวิกฤติในอนาคต และทำให้เกิดการเสียหายขึ้นมาอีก นอกจากนี้คือกรณีการปิดสถานีโทรทัศน์พีซทีวี ซึ่งเป็นสถานีโทรทัศน์ที่มีความหลากหลาย นำเสนอความเห็นต่าง สื่อถึงผู้มีอำนาจอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งเชื่อว่าความเห็นต่างนั้นไม่ได้เป็นการทำลาย แต่เป็นประโยชน์ ดังนั้นจึงฝากเรื่องนี้ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาด้วย สำหรับความเห็นเรื่องโร้ดแม็พของ คสช. นั้น ปัญหาไม่ได้อยู่ที่สีใดสีหนึ่ง พรรคการเมืองใดพรรคการเมืองหนึ่ง หรือพวกใดพวกหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่คนไทยทั้งประเทศต้องรับผิดชอบ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากปี 2559 ไม่มีการเลือกตั้งจะทำอย่างไร นายจตุพร กล่าวว่า เขาต้องการอะไร ถ้าต้องการให้บ้านเมืองสงบก็เขียนรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย แต่ถ้าต้องการจะอยู่ต่อก็บอกกันตรง ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะอยู่ในอำนาจนาน เพราะอำนาจเป็นของร้อน
“ถ้าต้องการให้บ้านเมืองเดินไปข้าหน้า ก็ต้องเขียนรัฐธรรมนูญให้ดี ถ้าเขียนแล้วเกิดปัญหา ก็อย่าทำ เพราะอาจทำให้เกิดความเสียหายทั้งด้านสังคม เศรษฐกิจ ประชาชนเสียชีวิตอีก พฤษภาคม 2 ครั้งที่ผ่านมา มีคนตายไปแล้วกว่า 180 คน ผมไม่มีพื้นที่แบกรับแล้ว” นายจตุพร กล่าว
ส่วนกรณีการทำประชามติ นายจตุพร กล่าวว่า ถ้าเราโชคดีก็มีโอกาสแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ แต่ถ้า กมธ. ไม่ทำ ก็เท่ากับเป็นการชะลอ และสร้างหายนะให้กับอนาคตประเทศ ทั้งนี้มองว่ามีการวิตกกันในส่วนของการทำประชามติ เนื่องจากเกรงว่าทุกฝ่ายที่ไม่พอใจในทุกมิติการดำเนินงาน จะมาลงที่ประชามติ อย่างไรก็ดีถ้าทุกฝ่ายทำให้รัฐธรรมนูญออกมาดี ก็จะสามารถบรรเทาความเสียหายได้