หมอประกิต เผยเคล็ดลับเลิกบุหรี่ จิบน้ำบ่อยๆ กินผลไม้เปรี้ยวช่วยได้
เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เผยเคล็ดลับในการเลิกบุหรี่ แล้วให้จิบน้ำบ่อยๆ กินผลไม้เปรี้ยว อาทิ มะนาว ฝรั่ง หรือ มะม่วงดิบ เวลาอยากบุหรี่เพื่อลดความอยาก ด้านก.สาธารณสุขสหรัฐศึกษาพบบุหรี่ปัจจุบันอันตรายกว่าเมื่อ 50 ปีที่แล้วหลายเท่า
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ กล่าวว่า วันที่ 31 พฤษภาคม ของทุกปี ซึ่งเป็นวันงดสูบบุหรี่โลก มีผู้สูบบุหรี่จำนวนมากตั้งใจเลิกบุหรี่ จากบทเรียนของผู้ที่เลิกบุหรี่สำเร็จ พบว่า เคล็ดลับสำคัญ คือ ต้องตัดใจให้ขาด และทิ้งบุหรี่ไปเลย หากมีอาการอยากบุหรี่ ให้จิบน้ำเปล่าบ่อยๆ หรือรับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่น มะนาว ฝรั่งหรือมะม่วงดิบ ก็จะช่วยได้มาก เพราะผลไม้เหล่านี้ มีวิตามินซีสูง ทำให้ร่างกายสามารถปรับตัวได้เร็วขึ้น ทั้งนี้การเลิกบุหรี่แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่หากพยายามก็จะเลิกได้ โดยการสำรวจเพื่อ พ.ศ. 2557 พบว่า มีคนไทยที่เลิกบุหรี่ได้แล้ว 3.7 ล้านคน และตามสถิติผู้ที่เลิกสูบก่อนอายุ 30 ปี จะมีอายุยืนกว่าผู้ที่สูบต่อไปถึง 10 ปี
“หากผู้สูบบุหรี่เลิกได้เร็วเท่าไหร่ ก็จะเป็นผลดีมากขึ้นเท่านั้น เพราะบุหรี่ในปัจจุบัน มีอันตรายมาก ยิ่งกว่าบุหรี่เมื่อก่อน จากรายงานล่าสุดของกระทรวงสาธารณสุขสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 2557 พบว่า ผู้สูบบุหรี่ในปัจจุบันมีความเสี่ยงต่อการเกิดมะเร็งปอด และโรคถุงลมปอดโป่งพองเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเมื่อ 50 ก่อน แม้จะสูบบุหรี่น้อยมวนกว่า อันเป็นผลจากการ ที่บริษัทบุหรี่มีเทคโนโลยี่ที่พัฒนาขึ้น และเพิ่มส่วนประกอบในบุหรี่เพื่อทำให้สูบง่าย ทำให้ผู้สูบเสพติดนิโคตินอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้สูบบุหรี่เลิกยากขึ้น ซึ่งจะยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดโรคและเสียชีวิต
ศ.นพ.ประกิต กล่าวอีกว่า จากหลักฐานจากงานวิจัยอิสระและจากเอกสารภายในของบริษัทบุหรี่เอง แสดงให้เห็นว่า บริษัทบุหรี่ได้ออกแบบมวนบุหรี่และเติมสารเคมีในขบวนการผลิต เพื่อให้เสพติดง่ายพร้อมทั้งเพิ่มฤทธิ์การเสพติดของนิโคติน ซึ่งเป็นสารเคมี ที่มีฤทธิ์เสพติดที่มีอยู่ตามธรรมชาติในใบยาสูบ โดยเพิ่มระดับนิโคตินและปรับระดับความเป็นกรดด่าง เพื่อให้มีสารนิโคตินอิสระที่จะไปถึงสมองเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเติมแอมโมเนีย ซึ่งจะเร่งความเร็วที่นิโคตินจะขึ้นถึงสมอง เติมเมนทอลเพื่อให้เย็นคำคอ เพื่อให้สูบแล้วไม่สำลัก และแอมโมเนียยังทำให้ควันบุหรี่นุ่มขึ้น ทำให้สูดควันเข้าปอดลึกกว่าเดิม บุหรี่ในปัจจุบันนี้ส่งนิโคตินจากปอดถึงหัวใจและสมองเร็วขึ้นกว่าเดิม
“บุหรี่เป็นสินค้าชนิดเดียวที่ทำร้ายและฆ่าผู้บริโภคของตัวเอง และมีอำนาจการเสพติดสูงมาก บุหรี่จึงไม่ใช่สินค้าปกติ ไม่เหมือนสินค้าทั่วไป แต่เพราะบุหรี่ยังเป็นสินค้าที่ผลิตและขายได้อย่างถูกกฎหมาย รัฐบาลทุกประเทศทั่วโลกจึงพยายามกำหนดมาตรการต่างๆ ในการสกัดกั้นเยาวชนหน้าใหม่จากการเข้าไปเสพติดบุหรี่ และคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พร้อมทั้งจูงใจ และช่วยเหลือผู้สูบบุหรี่ให้เลิกให้สำเร็จ” ศ.นพ.ประกิต กล่าว