ฟังเสียง โรฮีนจา “บ้านผมมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ 100%”
“We are originally from Rakhine (Arakan)”
“ผมเสียใจนิดหน่อย ที่มีการกล่าวว่า ชาวโรฮินจาเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ไร้แผ่นดิน อันนี้ผมปฏิเสธ เพราะผมมีบ้านเกิดของตัวเอง ที่รัฐอาระกัน ประเทศเมียนมาร์ พ่อแม่ และปู่ย่าตายายของผม เป็นคนเมียนมาร์แท้ๆ”
ฮาจี ตัวแทนสมาคมโรงฮิงญาประเทศไทย พูดชัดถ้อยชัดคำ ออกทำนองตัดพ้อ “ผมเป็นคนที่นั่น แต่โลกโซเชี่ยลมีเดีย และสังคมไทยพูดไปพูดมา บอกว่า โรฮินจาไร้สัญชาติ ไม่มีประเทศของตนเอง อันนี้ผมรับไม่ได้”
ฮาจี อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานาน ลุกขึ้นพูดบนเวที "โรฮิงญา รัฐ ชาติ ประวัติศาสตร์ และความหวัง" ซึ่งจัดโดยโครงการเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเร็วๆ นี้ พร้อมไขความเคลือบแคลงสงสัยของใครต่อใครหลายคน อาทิ ชาวโรฮินจา คือคนที่ไหน มาจากไหน บ้านเกิดอยู่ไหน เป็นคนประเทศอะไร และเกิดอะไรที่บ้านเกิด ทำไมชาวโรฮีนจาจึงได้ "ทิ้ง" บ้านเกิด ทิ้งแผ่นดินเกิดของตนเองออกมาเพราะอะไร ?
สารพัดคำถามเหล่านี้ ตัวแทนสมาคมโรงฮิงญาฯ ยืนยันว่า “ผมเป็นคนเมียนมาร์ มีประวัติศาสตร์แท้จริง ที่ต้องทิ้งบ้านเกิด ทิ้งพ่อ ทิ้งแม่ ทิ้งเมีย และออกมาจากบ้าน ก็เพราะบ้านผมมีการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ (genocide) หรือ hidden genocide 100%”
เรื่องราวหลายอย่างที่ชาวโลกไม่รู้ เพราะเมียนมาร์ปิดประเทศมานาน นักข่าวต่างประเทศก็ไม่สามารถเข้าไปทำข่าวในพื้นที่
“ สิ่งที่ทหารเมียนมาร์ทำกับเรา เรียกว่า genocide แบบไม่เปิดเผย ปิดไว้”ฮาจี ยืนยันด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
ส่วนข้อสงสัย ในเมื่อชาวโรฮินจา ไม่ได้อยากจากบ้านเกิดมา แล้วเขาเหล่านั้นออกมาอย่างไร และใครเป็นคนพาคนเหล่านั้นมา ?
ตัวแทนโรฮินจาที่หนีร้อนมาพึ่งเย็นในประเทศไทย ถามย้อนกลับ “ชาวโรฮีนจา ว่ายน้ำมา หรือขึ้นเครื่องบินมาหรือ ? ไม่ใช่ รัฐบาลทหารเมียนมาร์เปิดเส้นทางให้เรา ไฟเขียว ใครอยากออกจากเมียนมาร์ เชิญ!! ขึ้นเรือ โดยทหารเมียนมาร์ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ช่วยอีกต่างหาก อยากได้อะไร น้ำมัน เรือหรือนายหน้า เขาจัดการให้เรียบร้อย เขาเปิดเส้นทางให้เราทุกสิ่งทุกอย่าง เราจึงเดินทางสะดวก”
และเมื่อมาถึงประเทศไทย ชาวโรฮีนจาก็ใช่ว่าจะสบาย เขาเหล่านี้ยังมาเจอความยากลำบากถาโถมเข้าใส่ซ้ำอีก
“นายหน้าคนไทยที่รับมา ใครขึ้นเรือมาฟรีๆ ก็จะถูกกักขังไว้ที่สวนปาล์มหรือตามสถานที่ต่างๆ ถูกทรมาณ ใครมีตังค์ ยืมตังค์ จ่ายตังค์ได้ก็ปล่อยตัว ใครไม่มีตังค์จ่าย ต้องเสียชีวิต” ฮาจี เผย และว่า สิ่งที่เราอยากได้วันนี้ คือ สิทธิความเป็นพลเมือง เอาของเราคืนมา ซึ่งแต่ก่อนก็มีอยู่แต่เขายึดของเราไป
พร้อมกับขอให้หยุดการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่บ้านเกิด “เราพร้อมกลับไปอยู่ที่บ้าน เราคิดถึงพ่อ คิดถึงแม่ คิดถึงญาติ เราอยากกลับไปอยู่ครอบครัวที่บ้านเกิด”
ก่อนจะฝากทิ้งท้ายถึงชาวโรฮีนจาที่บ้านเกิด “การออกมาจากบ้าน ไม่ดี มีแต่เสียหาย ทรมาณ ไม่ต้องออกมาเด็ดขาด”
เช่นเดียกับ “อารี อำหมัด” กรรมการกรุงเทพฯ ชมรมโรฮิงญาแห่งประเทศไทย เข้ามาอยู่ในประเทศไทยกว่า 30 ปี ปัจจุบันมีอาชีพค้าพลอย ร้องขอให้ทุกคนเมตตากับชาวโรฮีจาด้วย
เขายืนยันว่า กรณีมีกระแสข่าวว่าชาวโรฮีจาที่อยู่เมืองไทย เรียกพี่น้องมาอยู่ด้วยนั้น ไม่เป็นความจริง “ทุกคนรักบ้านเมือง ทุกคนรักแผ่นดิน ผมอยู่ที่นี่มีเงินเป็นพันล้าน หมื่นล้าน ก็ไม่สบายใจเท่าบ้านผม บ้านผมมีพ่อแม่อยู่ สิ่งร้ายแรงคือรัฐบาลเมียนมาร์ค้ามนุษย์ อย่างไม่เห็นชาวโรฮีนจาเป็นมนุษย์ ผมพูดผมก็อายมาก ผมเป็นพลเมืองเมียนมาร์ วันนี้ชาวโรฮีนจาสร้างปัญหาภาระและความเดือดร้อนไปทั่วโลก แต่เพราะอะไร ขอให้ท่านไปศึกษาดู”
ส่วนการประชุมวันที่ 29 พ.ค. อารี เห็นว่า ไม่ต้องประชุมหรอก “ ผมขอให้ไปคุยกับรัฐบาลเมียนมาร์ให้สิทธิพลเมือง ให้สิทธิการพิสูจน์สัญชาติ และคืนสิทธิพลเมืองแก่ชาวโรฮีจาเลยได้หรือไม่ เมียนมาร์คุณจะให้สิทธิพลเมืองแก่ชาวโรฮีนจาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาทั่วโลกเข้าไปในเมียนมาร์เยอะมาก ไม่เห็นทำอะไรได้เลย ยิ่งเข้าไปยิ่งเลวร้ายลง”
วันนี้ชาวโรฮินจา ไม่มีอะไรยืนยันหลังบัตรขาว (White cards to Rohingya) หมดอายุตั้งแต่เดือนมีนาคม 2015 ถึงปัจจุบันรัฐบาลเมียนมาร์ยังไม่ได้ออกบัตรใหม่มาทดแทนทำให้โรฮีนจาไปประเทศไหน ไม่มีสถานะว่า เป็นคนของประเทศไหน
“บัตรสีขาวขาวถูกยึดไปหมดแล้ว เราไม่มีอะไรยืนยันได้เลยว่า โรฮีนจาเป็นพลเมืองเมียนมาร์ ขนาดในบัตรขาวก็ระบุ โรฮีนจาอยู่ในสถานะประเทศเมียนมาร์ “ชั่วคราว” ไม่มีการศึกษา ไม่สามารถเรียนหนังสือได้ คิดดูทหารเมียนมาร์กว่า 2.5 แสนนาย ตอนนี้อยู่ในรัฐ Arakan ชาวโรฮีนจาลำบากขนาดไหน”
ส่วนชาวโรฮีนจา 700-800 คน ที่ถูกกักขังทั่วประเทศไทยนั้น อาลี ขอให้มีการปล่อยตัว หลังพี่น้องเขา ซึ่งเป็นผู้หญิงและเด็ก ถูกขังมาเป็นปีๆ แล้ว
ด้านตัวแทนโรฮีจาในประเทศไทยอีกคน ก็ชี้ว่า พี่น้องเขาชาวโรอีนจา ยังเหลืออยู่ในป่า ลอยอยู่ในทะเล พวกเขาขอความช่วยเหลือจะเป็นไปได้หรือไม่ขอให้เขาขึ้นฝั่ง
“ทุกวันนี้สังคมมองพี่น้องชาวโรฮีจา ทั้งแง่ดีและไม่ดี เราเข้ามาในประเทศไทยมีความจำเป็น วันนี้เราขอแค่ที่พักพิงชั่วคราว ดูแลพี่น้องพวกผมนะครับ”
นี่คือเสียงจากชาวโรฮิงญาพูดแทนผู้ถูกกระทำ ที่เป็นทั้งเหยื่อการค้ามนุษย์ ผู้อพยพ และผู้ประสบภัยพิบัติทางการเมือง ที่ประเทศไทยไม่สามารถแก้ปัญหาได้เบ็ดเสร็จ เพียงประเทศเดียวได้....