จนท.เอี่ยวด้วย! ป.ป.ท.สรุปปมข้าวโกดังปทุมฯหาย-ตร.ชี้ อ.ต.ก.เช็คพลาด
ป.ป.ท. สรุปปมข้าวโกดัง “ฟินิกส์อกริเทค” จ.ปทุมธานี หายกว่าแสนกระสอบกลางปี’57 มี จนท.รัฐเอี่ยวด้วย เหตุ ตร.พบพิรุธปมเอื้อเครือญาติสมัครเป็นคลังสินค้ากลาง อ.ต.ก.-กรมการค้าต่างประเทศ ไม่ตรวจสอบข้าวคงเหลือแท้จริงก่อนการประมูล จ่อชง ศอตช. พิจารณาต่อ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า สำนักงานคณะกรรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) รายงานผลความคืบหน้ากรณี ข้าวหายจากคลังสินค้าองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) จ.ปทุมธานี ระบุว่า สืบเนื่องจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบปริมาณและคุณภาพข้าวคงเหลือของรัฐตามคำสั่ง คสช. ที่ 177/2557 ซึ่งมีปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล) เป็นประธาน นั้น
ผลการตรวจสอบเบื้องต้น พบจากการตรวจนับปริมาณข้าวคงเหลือในคลังสินค้าคลาดเคลื่อนกว่ายอดคงเหลือตามบัญชีหน้าคลัง เกินกว่าร้อยละ 5 รวมทั้งสิ้น 176 คลัง แบ่งเป็นคู่สัญญากับองค์การคลังสินค้า (อคส.) 136 คลัง และ อ.ต.ก. 40 คลัง
จากการตรวจสอบดังกล่าว ได้แจ้งเรื่องให้หัวหน้าคลังสินค้าดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีจำนวน 33 คลัง และแจ้งความเป็นหลักฐาน 87 คลัง แต่ อ.ต.ก. แจ้งว่ายังมิได้แจ้งความดำเนินคดี เพียงแต่แจ้งความเป็นหลักฐาน 40 คลัง ส่วนหัวหน้าคลังไปแจ้งความแล้ว 176 คลัง โดยเป็นการแจ้งความดำเนินคดี 33 คลัง และแจ้งเป็นหลักฐาน 127 คลัง ซึ่งมีข้อสังเกตและข้อพิรุธหลายประการถึงการไม่ดำเนินการแจ้งดำเนินคดีแต่อย่างไร และปล่อยให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของรัฐ
ต่อมาศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เข้าตรวจสอบคลังของนายพิชัย พัฒนาพงศ์ชัย นามบริษัท ฟีนิกส์อกริเทค (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งอยู่ที่ 9/1 ต.บางกะดี อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี พบเหตุอันควรสงสัยคือ ไม่มีการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่คลัง มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงของ อ.ต.ก. หรือไม่ และพนักงานสอบสวนมีการสอบสวนขยายผลหรือไม่
ทั้งนี้ น.ส.ธัญลักษณ์ เจริญปรุ รองผู้อำนวยการ รักษาการ ผอ.อ.ต.ก. ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า ที่ผ่านมาคลังสินค้าดังกล่าวได้มีการข่มขู่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ลงไปปฏิบัติงานได้ ซึ่ง อ.ต.ก. ได้ดำเนินการแจ้งความดำเนินคดีและมีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว
ล่าสุด สำนักงาน ป.ป.ท. มีหนังสือเพื่อขอทราบข้อเท็จจริงไปยัง 2 หน่วยงาน ได้แก่ สภ.ปากคลองรังสิต และ อ.ต.ก. โดยมีการแจ้งตอบกลับมา ดังนี้
1.สภ.ปากคลองรังสิต ชี้แจงว่า ได้รับการแจ้งความร้องทุกข์จากเจ้าหน้าที่ อ.ต.ก. รวม 3 ครั้ง รับเป็นคดีอาญา 3 คดี ซึ่งพนักงานสอบสวนได้สรุปความเห็นสั่งฟ้องเป็นคดีอาญาแล้ว โดยตั้งข้อสังเกตว่ามีเจ้าหน้าที่ของรัฐเกี่ยวข้องด้วย เนื่องจากพบพิรุธ 2 เรื่อง ได้แก่ บริษัทดังกล่าว โดยนาย ก. เคยยื่นสมัครเข้าเป็นคลังสินค้ากลางแต่ไม่ทราบผล ต่อมา นาย ข. ซึ่งเป็นเครือญาติของนาย ก. ได้เช่าคลังสินค้าสถานที่เดียวกันพร้อมกับยื่นสมัครคลังสินค้ากลาง และได้รับคัดเลือก ทั้งนี้ภายหลังการกระทำความผิด มีการประมูลขายข้าวในคลังสินค้าซึ่งมีจำนวนข้าวที่มีการแจ้งความร้องทุกข์ว่าถูกลักขโมยไปรวมอยู่ด้วย โดยที่ อ.ต.ก. และกรมการค้าต่างประเทศ ไม่ตรวจสอบปริมาณข้าวสารคงเหลือที่แท้จริงก่อนการประมูล
2.อ.ต.ก. ชี้แจงว่า การพิจารณารับคลังสินค้าดังกล่าวเป็นไปตามผลการพิจารณาและอนุมัติของคณะทำงานพิจารณาคัดเลือกโรงสีและโกดังกลาง ซึ่งจากการตรวจพบการสูญหายรวม 3 ครั้ง โดยได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากคลองรังสิต เพื่อให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดแล้ว
ปัจจุบัน ป.ป.ท. อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดหาผู้ประกอบการคัดแยกข้าวสาร เพื่อตรวจนับจำนวนข้าวสารที่สูญหายและคงเหลือที่แท้จริง และนำไปเก็บในคลังสินค้าที่ปลอดภัยต่อไป ทั้งนี้สำนักงาน ป.ป.ท. จะได้นำข้อเท็จจริงเสนอต่อที่ประชุม ศอตช. เพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2557 นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. สนธิกำลังกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และเจ้าหน้าที่ทหารลงพื้นที่ตรวจสอบโกดังข้าวดังกล่าว ที่เก็บข้าวจำนวน 162,000 กระสอบ พบว่า ช่วงกลางปี 2557 มีข้าวหายไปกว่า 108,480 กระสอบ
หมายเหตุ : ภาพประกอบโกดังข้าวจาก Posttoday