"ประยงค์"เผย 4 องค์กรปราบโกงจ่อชงชื่อขรก.ล็อต 2 ให้“บิ๊กต๊อก”เชือด!
“เลขาฯ ป.ป.ท.” เผยเตรียมหารือ 4 องค์กรปราบทุจริตชงรายชื่อ ขรก. ให้ “บิ๊กต๊อก” เชือด! ล็อต 2 ยันยึดหลักตรวจสอบตาม “วิษณุ” เอาปัญหาก่อน 22 พ.ค. 2557 เป็นตัวตั้ง ลั่นถ้าบอกไม่เป็นธรรม ให้ย้อนดูที่ผ่านมาเสียหายมากแค่ไหน
นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม พร้อมให้มีการจัดประชุมเตรียมสรุปรายชื่อข้าราชการที่ถูกกล่าวหาว่าทุจริตในล็อตที่ 2 ว่า พล.อ.ไพบูลย์ ได้มอบนโยบายให้มีการจัดประชุมทุก 2 เดือน ซึ่งล็อต 2 นี้ พล.อ.ไพบูลย์ ได้ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการตามนโยบายที่ให้แต่ละส่วนไปรวบรวมข้อมูลเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ปรากฏพฤติการณ์เข้าไปเกี่ยวข้องและถ้าอยู่ในตำแหน่งจะก่อให้เกิดปัญหาในเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน และอาจจะก่อให้เกิดความเสียหายต่อเนื่อง ตอนนี้จึงอยู่ระหว่างที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และ ป.ป.ท. รวบรวมรายชื่อส่งมา ก่อนที่ตนจะสรุปเสนอไปยัง พล.อ.ไพบูลย์ อย่างไรก็ดีขณะนี้ขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อมานั้นยังไม่เรียบร้อยครบถ้วน ส่วนจะจัดการประชุมได้เมื่อไหร่นั้นยังไม่แน่ชัด แต่ พล.อ.ไพบูลย์ ได้มอบนโยบายมาแล้วว่าให้รวดเร็ว แต่เราคงไปเร่งรัดมากก็ไม่ได้ เชื่อว่าภายใน 1-2 วันนี้ ขั้นตอนการรวบรวมรายชื่อทั้ง 4 หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงจะเสร็จ
“การตรวจสอบรายชื่อนั้นไม่ได้ดูเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ดูจากเรื่องที่เกิดขึ้นมานานแล้ว ก่อนวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แต่การดำเนินการยังไม่ลุล่วง นายกรัฐมนตรีต้องการทำให้เกิดผลเร็ว เพราะไม่ต้องการให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายประยงค์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า รายชื่อล็อตที่ 2 จะมีข้าราชการระดับใดบ้าง นายประยงค์ กล่าวว่า ไม่อาจทราบได้ เพราะข้อมูลจะอยู่แต่ละหน่วยงาน ไม่มีการกะเกณฑ์ว่าจะต้องเป็นระดับนั้นเท่าไหร่ ระดับนี้เท่าไหร่ ความผิดประเภทไหน แต่ให้ดูที่พฤติการณ์อย่างที่บอกไปข้างต้น และยึดตามหลักของนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย ที่ว่า หากไม่มีความยั้งคิดก็ต้องถูกตรวจสอบ หากพบว่ามีพฤติการณ์ก็จะเสนอให้โยกย้ายและดำเนินการทางวินัย ตามด้วยอาญา
ส่วนการพิจารณาในล็อตที่ 2 จะมีความรอบคอบกว่าล็อตแรกหรือไม่นั้น นายประยงค์ กล่าวว่า ล็อตแรกก็รอบคอบ ทั้ง 4 หน่วยงานทำงานนี้มานานแล้ว ไม่ใช่เพิ่งมาทำ ปัญหาเดิมคือความล่าช้า เพราะการดำเนินการทางอาญานั้นก็ล่าช้าอยู่แล้ว คนกระทำผิดจึงไม่มีความกลัว ไม่ได้รับการแก้ไข นายกรัฐมนตรีจึงให้ดูว่ามีแนวทางดำเนินการทางกฎหมายได้อย่างไรบ้าง จึงมาดูว่านอกจากทางอาญาแล้ว ยังมีการดำเนินการทางวินัยและดำเนินการทางปกครองด้วย จึงได้นำตรงนี้มาใช้ เพราะการดำเนินการทางกฎหมายนั้นทำได้รวดเร็วตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการวิพากษ์วิจารณ์กรณี 45 รายชื่อล็อตแรกถูกโยงกับการเมือง นายประยงค์ กล่าวว่า ไม่มีแน่ เพราะในรายชื่อเหล่านั้นเป็นกลุ่มข้าราชการที่ปรากฏพฤติการณ์อย่างที่บอก และทำเพื่อแก้ปัญหาว่า อาจเข้าไปยุ่งกับพยานหลักฐาน อาก่อให้เกิดปัญหาเพิ่มเติม ไม่มีเรื่องการเมืองแต่อย่างใด อย่างไรก็ดีหากใครคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม พล.อ.ไพบูลย์ ได้บอกไปแล้วว่า หากสงสัยให้ร้องมาที่ท่านเอง และหากยินยอมก็เปิดกันต่อหน้าสื่อไปเลย ทั้งนี้ต้องเอาปัญหาก่อน 22 พฤษภาคม 2557 เป็นตัวตั้ง
“ปัญหานั้นรุนแรงมาก ก่อให้เกิดความเสียหายมาก เพราะการแก้ปัญหาไม่ทัน วันนี้เราจึงต้องปรับการแก้ปัญหาให้เท่าทันกับปัญหา หากจะบอกว่าไม่เป็นธรรมก็ต้องกลับไปคิดถึงวันที่ปัญหารุนแรงมากนั้น สร้างความเสียหายมากแค่ไหน ยืนยันทำในกรอบกฎหมาย และให้ความเป็นธรรมกับทุกส่วน ไม่มีสองมาตรฐานใด ๆ” นายประยงค์ กล่าว