แปลก!นักธุรกิจพัน ล.หุ้นส่วน"เดอะบิ๊ก"ขอใช้บ้านคนรู้จักแจ้งที่อยู่ รับจม.-เอกสาร
ตามไปดูที่อยู่"ส.พิเชษฐ์"เจ้าของเช็คธนาคาร 1.3 พันล้าน ขนร่วมลงทุน บ.อสังหาฯ "เดอะบิ๊ก" 6.5 พันล้าน พิลึกคนในบ้านระบุ แค่คนรู้จักห่างๆ มาขอใช้บ้านเป็นที่อยู่รับซองจดหมายเอกสาร ทำงานบริษัทค้าปุ๋ย?
นายส.พิเชษฐ์ พรหมรัตน์ เป็นใคร? ทำธุรกิจอะไรถึงมีเงินเป็นระดับพันล้านบาท? และมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคดีเงินกู้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นหรือไม่?
คือ คำถามที่ต้องหาคำตอบ ภายหลังจากสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ตรวจสอบพบว่า นายส.พิเชษฐ์ ปรากฎชื่อเป็นเจ้าของเช็คธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาคลอง 16 อำเภอบางน้ำเปรี้ยว เลขที่ 0107570 ลงวันที่ 1 กันยายน 2557 มูลค่า 1,300 ล้านบาท ที่นำมาใช้ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัท มหาชัย มีเดีย จำกัด ร่วมกับ นายสัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ เดอะบิ๊ก นักธุรกิจพันล้าน เจ้าของ บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ตกรุ๊ป จำกัด และหุ้นส่วนอีก 2 ราย ในการเพิ่มทุนจดทะเบียนบริษัทฯ แห่งนี้ จาก 5 ล้านบาท เป็น 6,500 ล้านบาท
(อ่านประกอบ: ตีเช็ค4ใบวันเดียว6.5พันล.!เส้นทางเงิน"เดอะบิ๊ก-พวก"ขนเพิ่มทุนบ.อสังหาปริศนา)
นอกจากนี้ นายส.พิเชษฐ ยังปรากฎรายชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท โอ ดับบลิว เอนเนอร์จี จำกัด ซึ่งเป็นชื่อเดิมของบริษัท โอเชี่ยนเวลธ์ แอร์เวย์ส จำกัด ที่เคยปรากฎชื่อ เป็น 1 ใน 28 ลูกหนี้ ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วงเงินรวมกว่า 1.3 หมื่นโดย บริษัท โอเชี่ยนเวลธ์ แอร์เวย์ส จำกัด ที่ทำสัญญากู้ยืมเงิน จำนวน 720 ล้านบาท เมื่อวันที่ 28 ธ.ค.2553 ซึ่งปัจจุบันใช้หนี้คืนมาแล้วจำนวน 5 แสนบาท เหลือยอดหนี้คงค้างทั้งหมด 719,500,000 บาท
โดย นาย ส.พิเชษฐ์ พรหมรัตน์ เข้าไปปรากฎชื่อเป็นกรรมการและผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.57 และแจ้งเพิ่มวัตถุประสงค์ประกอบธุรกิจเพิ่มเติมหลายด้าน อาทิ ประกอบกิจการพลังงานลม ไฟฟ้า และการจัดการระบบน้ำเพื่อการเกษตรกรรมทั่วประเทศ
(อ่านประกอบ : สุดบังเอิญ! หุ้นส่วน"เดอะบิ๊ก"ขนเงินพันล.เพิ่มทุนบ.อสังหา ที่แท้ลูกหนี้คลองจั่น 720 ล.)
เมื่อวันที่ 18 พ.ค. 58 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา ได้เดินทางไปตรวจสอบข้อมูล นาย ส.พิเชษฐ์ ตามที่อยู่ที่แจ้งไว้ในสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น บริษัท มหาชัย มีเดีย จำกัด กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า คือ เลขที่ 85 ซ.บางแวก 76 แขวงบางแวก เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร (ดูเอกสารประกอบ)
เมื่อเดินทางไปถึงพบว่า ที่อยู่ดังกล่าวมีลักษณะเป็นทาวน์เฮาส์ 2 ชั้น หน้าบ้านต่อเติมห้องกระจก คล้ายออฟฟิศ (ดูรูปประกอบ)
แต่ได้รับแจ้งข้อมูลจากคนที่พักอาศัยในบ้าน ซึ่งเป็นผู้หญิงรายหนึ่งว่า นาย ส.พิเชษฐ์ ไม่ได้พักอาศัยอยู่ที่บ้านหลังนี้
"นายส.พิเชษฐ์ ใช้บ้านหลังนี้เป็นที่อยู่จริง แต่เขาไม่เคยพักอาศัยอยู่ที่นี่ นานๆ ถึงจะเข้ามาเอาจดหมายหรือเอกสารที่ส่งมาให้เขาทีนึง"
"ทุกครั้งที่มีจดหมายหรือเอกสารมาส่งให้ นายส.พิเชษฐ์ เราก็จะสอดไว้ที่ประตูรั้วหน้าบ้าน เมื่อเขามาเอา เขาก็จะกลับไปเลย" ผู้หญิงรายหนึ่งที่พักอาศัยในบ้านหลังนี้ระบุ
เมื่อถามว่า นายส.พิเชษฐ์ทำอาชีพอะไร ผู้หญิงรายนี้ตอบว่า "เท่าที่จำได้เขาทำเกี่ยวกับการขายปุ๋ยอะไรพวกนี้ล่ะ ทำไมเหรอ? มีอะไรรึเปล่า?"
จากนั้น ผู้สื่อข่าวได้แจ้งให้ผู้หญิงรายนี้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจของ นาย ส.พิเชษฐ์ โดยเฉพาะกรณีการนำเช็คธนาคารจำนวน 1,300 ล้านบาท ไปลงทุนหุ้นบริษัท บริษัท มหาชัย มีเดีย จำกัด
ผู้หญิงรายนี้ หยุดคิดนิดหนึ่ง ก่อนจะตอบว่า "รู้จักกับนายส.พิเชษฐ์เพียงห่างๆเท่านั้น ไม่ได้สนิทสนมอะไร และนายส.พิเชษฐ์ได้มาขอใช้ที่อยู่นี้นานแล้ว"
ก่อนจะนำจดหมายที่ถูกส่งมาจากกรมการขนส่งทางบก กรณีการเรียกเก็บค่าใบสั่ง มายืนยันต่อผู้สื่อข่าว โดยจ่าหน้าซองปรากฏชื่อ นายส.พิเชษฐ์ และปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลอะไรอีก
แม้การลงพื้นที่จะยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจนว่า นายส.พิเชษฐ์ เป็นใคร ทำธุรกิจอะไรถึงมีเงินเป็นระดับพันล้านบาท? และมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคดีเงินกู้สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นหรือไม่?
แต่สิ่งที่ปรากฎชัดเจนในขณะนี้ คือ รูปแบบการใช้ชีวิตของนักธุรกิจพันล้านคนนี้
โดยเฉพาะที่อยู่ปัจจุบัน "แปลก" และ "พิสดาร" ยิ่งนัก!