“พิจิตต”โล่ง!ศาลอาญายกฟ้องคดีซื้อที่ดินจอดรถขยะกทม.แพง-เลขาฯคุก 8 ปี
“พิจิตต รัตตกุล-ประเสริฐ สมะลาภา” โล่ง! ศาลอาญายกฟ้องคดีจัดซื้อที่ดินจอดรถขยะ-รถน้ำ กทม. แพงเกินจริงกว่า 36 ล้าน พิพากษาจำคุกแค่ “อดีตเลขาฯ กทม.-อดีต ผอ.เขตบางซื่อ”
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2558 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก นัดฟังคำพิพากษาคดีที่อัยการพิเศษฝ่ายคดีพิเศษ 2 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง นายพิจิตต รัตตกุล อดีตผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร นายประเสริฐ สมะลาภา อดีตปลัด กทม. นายสมคาด สืบตระกูล เลขานุการผู้ว่าฯ กทม. และนายชวน พัฒนวรานนท์ อดีต ผอ.เขตบางซื่อ พร้อมพวกรวม 8 คน เป็นจำเลย
ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ซื้อ ทำ จัดการ หรือรักษาทรัพย์ใด ๆ ร่วมกันใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต อันเป็นการเสียหายแก่ กทม. ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 149 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองและผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการอย่างใด ในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
กรณีถูกกล่าวหาทำให้ กทม. ได้รับความเสียหาย ด้วยการซื้อที่ดินแพงเกินจริงเป็นจำนวนเงินกว่า 36 ล้านบาท เนื่องจากโฉนดที่ดิน 2 แปลงใหญ่ที่ไม่ได้ประเมินในตอนแรกนั้น มีราคาตารางวาเพียง 1.8 หมื่นบาท อีกทั้งที่ดินดังกล่าวรถของ กทม. ไม่สามารถวิ่งเข้าออกได้ เนื่องจากทางเข้าออกไม่ใช่ทางสาธารณประโยชน์ นอกจากนี้ยังร่วมกันเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินโดยรับเงิน เป็นจำนวนเงิน 18 ล้านบาท
โดยกรณีนี้ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การเสนอขายที่ดินให้กับ กทม. ดังกล่าว ไม่ได้เป็นการเสนอขายในราคาที่ดินที่สูงกว่าราคาประเมินจริง เพราะหลังจากนายชวน ได้ประกาศซื้อที่ดินในเขตบางซื่อ ก็ได้สอบถามราคาประเมิน และราคาขายที่ดินทั้งจากสำนักงานที่ดิน กทม. และ ธนาคารพาณิชย์ ซึ่งปรากฎราคาใกล้เคียงกัน และลักษณะที่ดินที่จัดซื้อ เป็นที่ดินพร้อมใช้งานทันที เป็นไปตามวัตถุประสงค์ในการจัดซื้อ จึงไม่ขัดต่อระเบียบ กทม. ในการใช้วิธีซื้อพิเศษ โดยไม่ประกวดราคา ดังนั้น นายพิจิตต และนายประเสริฐ กับพวกจึงไม่มีความผิด พิพากษายกฟ้อง
ส่วนนายสมคาด กระทำความผิดตามมาตรา 149 พิพากษาให้จำคุก 8 ปี และนายชวน กระทำความผิดตามมาตรา 149 และมาตรา 157 พิพากษาให้จำคุก 10 ปี
ส่วนกรณีนายพิจิตต รับเงินจากนายสุพจน์ มโนมัยพันธุ์ เจ้าของที่ดิน และนายชูศักดิ์ ศรีประเสริฐ นายหน้าขายที่ดินเป็นเงินจำนวน 18 ล้านบาทนั้น แม้นายพิจิตต จะไม่ได้ยื่นหลักฐานการโอนเงินดังกล่าวในใบแสดงรายการเสียภาษี และในบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ก็ไม่มีหลักฐานพอฟังได้ว่า เงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อที่ดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีนี้ ระหว่างวันที่ 4 ธ.ค. 2538-16 ก.ย. 2540 นายพิจิตต ดำรงตำแหน่งผู้ว่าฯ กทม. ร่วมกับนายสมคาด และนายชวน วางแผนกันแบ่งหน้าที่ดำเนินการให้ กทม. จัดซื้อที่ดินของนายสุพจน์ และนางสุณี มโนมัยพันธุ์ ด้วยการให้นายประเสริฐ สั่งการให้สำนักงานเขตชั้นใน จัดหาสถานที่ เพื่อใช้เป็นที่จอดรถขยะ และรถน้ำของ กทม. นายชวน จึงออกประกาศให้ประชาชนเสนอขายที่ดินแก่ กทม.
ต่อมา นายชวนรายงานถึงนายประเสริฐว่า มีผู้เสนอขายที่ดินราย 2 ราย รายแรกนายสุพจน์ และนางสุณี เสนอขายที่ดินจำนวนทั้งสิ้น 17 แปลง เนื้อที่ดิน 11 ไร่ 1 งาน 76 ตารางวา พร้อมอาคารและสิ่งก่อสร้าง ที่ดินตั้งอยู่ในซอยเรียงปรีชา ถนนประชาราษฎร์ 1 แขวงและเขตบางซื่อ กทม. เสนอขายตารางวาละ 6 หมื่นบาท ส่วนรายที่สอง บริษัท วินโล จำกัด เสนอขายที่ดิน เนื้อที่ 9 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา อยู่ที่แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กทม. เสนอขายตารางวาละ 6.5 หมื่นบาท
หลังจากนั้น นายชวนมีหนังสือสอบถามราคาประเมินที่ดินของนายสุพจน์เพียงรายเดียว และสอบถามราคาประเมินโฉนด รวม 15 โฉนดไปยังพนักงานที่ดิน กทม. โดยมิได้สอบถามที่ดินแปลงใหญ่ 2 โฉนด ต่อมาเจ้าพนักงานที่ดิน กทม. ตีราคาประเมินที่ดินดังกล่าว 4.2 หมื่นบาท ขณะที่ธนาคารอาคารสงคราะห์ (ธ.อ.ส.) ตีราคาประเมินตารางวาละ 6 หมื่นบาท
นอกจากนี้ไม่ปรากฏหลักฐานว่าทางเข้าออกมีการจดทะเบียนโอนเป็นทางสาธารณประโยชน์ แต่ทางเข้าออกตกเป็นภาระจำยอม หาก กทม. ซื้อที่ดินทั้ง 17 แปลง ย่อมสามารถใช้ทางเข้าออกที่ดินแปลงนั้น ๆ ได้
ต่อมานายพิจิตตได้รับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าฯ กทม. อีกครั้ง ได้แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาความเหมาะสมในการจัดซื้อ เช่าที่ดิน และอาคารเพื่อประโยชน์ของข้าราชการ กทม. (คณะกรรมการ กซช.) มีนายญาณเดช ทองสิมา รองผู้ว่าฯ กทม. (ขณะนั้น) เป็นประธาน และนายประเสริฐ เป็นรองประธานกรรมการ รวมถึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบที่ดินหรืออาคารซึ่ง กทม. จัดซื้อหรือเช่าเพื่อประโยชน์ของข้าราชการ กทม. (คณะกรรมการ ตซช.) มีนายมหินทร์ ตันบุญเพิ่ม ที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. (ขณะนั้น) เป็นประธาน ทำหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ ทำเล ความเหมาะสม ตามที่คณะกรรมการ กซช. มอบหมาย
ทั้งนี้ นายชวนเสนอให้นายประเสริฐเห็นชอบในการจัดซื้อที่ดินเสนอขาย ก่อนมีการพิจารณาตามลำดับชั้น โดยเสนอให้นายพิจิตตพิจารณาอนุมัติจัดซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างดังกล่าวโดยวิธีการพิเศษ ตามข้อบัญญัติ กทม. เรื่องการพัสดุ พ.ศ. 2538 โดยมีนายสมควร รวิรัฐ ผอ.สำนักการคลัง กทม. เป็นประธานกรรมการจัดซื้อโดยวิธีพิเศษ ก่อนมีมติให้จัดซื้อที่ดินดังกล่าวในราคาตารางวาละ 59,900 บาท เนื้อที่ 11 ไร่ 1 งาน 76 ตารางวา รวมราคาหลังต่อรองแล้วเป็นจำนวน 270 ล้านบาท
แต่เนื่องจาก กทม. ไม่มีงบประมาณเพียงพอ จึงขอยืมเงินสะสม กทม. โดยนายพิจิตต เสนอขออนุมัติยืมเงินสะสมต่อสภา กทม. ต่อมาสภา กทม. มีมติเห็นชอบให้ยืมเงินสะสม จึงอนุมัติจัดซื้อที่ดินตามที่นายสุพจน์เสนอขาย กระทั่งวันที่ 16 ก.ย. 2540 นายพิจิตตมอบอำนาจให้นายชวนทำสัญญาจัดซื้อที่ดินจากนายสุพจน์ดังกล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายพิจิตต จาก hiclass