โอไอซีจ่อส่งคณะผู้แทนพิเศษตรวจสอบปัญหาโรฮีนจาในไทย
องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ในฐานะองค์กรประชาชาติมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดในโลก อาจส่งคณะผู้แทนพิเศษเข้าตรวจสอบปัญหาโรฮีนจาในประเทศไทย ขณะที่ตำรวจลุยค้น 15 จุด รวมบ้านผู้กว้างขวางเมืองสตูล หวังรวบตัวแก๊งค้ามนุษย์ตามหมายจับ
การพบศพชาวโรฮีนจาจำนวนมาก รวมทั้งชาวโรฮีนจาที่ยังมีชีวิตในสภาพเป็นเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ กลายเป็นแรงกดดันให้องค์การความร่วมมืออิสลาม หรือโอไอซี ต้องแสดงบทบาทเรื่องนี้
นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาประจำประเทศไทยของ ฮิวแมน ไรท์ วอทช์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวาระหารือในโอไอซี แต่มีโอกาสสูงที่โอไอซีจะตัดสินใจส่งคณะผู้แทนพิเศษเดินทางมาประเทศไทย เพราะสถานการณ์ของชาวโรฮีนจาในไทยในช่วงที่ผ่านมาเป็นเรื่องใหญ่มาก และโอไอซีให้ความสนใจเรื่องนี้มาก่อน
โอไอซี ได้แสดงความกังวลต่อปัญหาชาวโรฮีนจาอย่างต่อเนื่อง เคยมีแถลงการณ์เรียกร้องให้เมียนมาแก้ไขปัญหาที่รัฐยะไข่ ซึ่งมีการปะทะกันระหว่างชาวพุทธกับมุสลิมโรฮีนจา จนฝ่ายหลังต้องอพยพทิ้งถิ่นฐานนับแสนคน จากนั้นโอไอซียังเคยเรียกร้องให้ทางการไทยแก้ไขปัญหาโรฮีนจาโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน เมื่อครั้งที่ไทยจับกุมชาวโรฮีนจาได้เป็นจำนวนมาก โดยเน้นย้ำไม่ให้เนรเทศออกนอกราชอาณาจักร และขอให้ตั้งค่ายพักพิงเพื่อดูแลชาวโรฮีนจา
แต่หลังจากการแสดงท่าทีดังกล่าว ปัญหาโรฮีนจาในไทยไม่ได้ดีขึ้น ล่าสุดถึงขั้นพบศพผู้เสียชีวิตจำนวนมาก ทำให้สมาชิกโอไอซีหลายประเทศให้ความสนใจ และเรียกร้องให้ตั้งคณะผู้แทนพิเศษเข้ามาตรวจสอบ
นายสุณัย กล่าวด้วยว่า หลังจากนี้ต้องจับตาบทบาทของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีอิทธิพลสูงในโอไอซี ว่าจะแสดงท่าทีอย่างไร เพราะมาเลเซียก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับปัญหาโรฮีนจาด้วย ต้องรอดูว่ามาเลเซียจะพยายามกันตัวเองออกมา แล้วทำให้ปัญหานี้เป็นเรื่องของไทยกับเมียนมาเท่านั้นหรือไม่
โรฮีนจาเหยื่อค้ามนุษย์โผล่รายวัน
สำหรับชาวโรฮีนจาที่หลบหนีเข้าเมือง และบางส่วนถูกลอยแพจากขบวนการนำพาซึ่งเป็นเครือข่ายขบวนการค้ามนุษย์นั้น เจ้าหน้าที่ยังคงพบตัวและควบคุมตัวได้รายวัน โดยเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2558 พบผู้อพยพชาวโรฮีนจาอีก 26 คนบนเทือกเขาแก้ว ตำบลฉลุง อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ซึ่งมีทั้งเด็กและผู้ใหญ่ เป็นกลุ่มที่ถูกนายหน้าลอยแพและเดินพลัดหลงอยู่ในป่ามากว่า 14 วัน มีเพียงเม็ดมะขามสำหรับดำรงชีพ จากการสอบถามทราบว่าจุดหมายคือประเทศมาเลเซีย
ออกหมายจับผู้กว้างขวางเมืองสตูล
ด้านความคืบหน้าทางคดี ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า พลตำรวจเอกเอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แถลงว่า ได้มีการออกหมายจับผู้กระทำความผิดทั้งหมดที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงในคดีแล้วจำนวน 50 คน โดยรายล่าสุดที่ได้รับการอนุมัติหมายจับเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม คือ นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือ โกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุม และเร็วๆ นี้อาจจะมีการออกหมายจับเพิ่มเติม ซึ่งเป็นผลมาจากการจับกุม นายอาบู ฮะอุรา อดีตสมาชิกสภาจังหวัดสตูล พื้นที่อำเภอควนโดน ซึ่งให้การรับสารภาพ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคมเช่นกัน
ส่วนการติดตามจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับที่ยังหลบหนีอยู่อีก 33 ราย เมื่อช่วงเช้าวันจันทร์ที่ 11 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นพิสูจน์ทราบพื้นที่ 15 จุดในจังหวัดสตูล เพื่อติดตามผู้ต้องหาตามหมายจับ 6 ราย โดยล่าสุดได้มีการยึดและอายัดทรัพย์สินบางส่วน
นอกจากนั้น ยังมีผู้ต้องหาตามหมายจับเดินทางเข้ามามอบตัวสู้คดีอีก 1 ราย คือ นายสุวรรณ แสงทอง หรือ โกหนุ่ย อายุ 66 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90/54 หมู่1 ตำบลปากน้ำ อำเภอเมือง จังหวัดระนอง เบื้องต้นเจ้าตัวยังให้การปฏิเสธ
ฝากขัง 2 ส.อบจ.สตูลโยงค้ามนุษย์
วันเดียวกัน ตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ควบคุมตัว นายสมยศ อังโชติพันธุ์ และ นายอาบู ฮะอุรา สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เขตอำเภอควนโดน ซึ่งเป็น 2 ผู้ต้องหาเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจในจังหวัดสตูล ไปยื่นผัดฟ้องฝากขังต่อศาลผลัดแรก ที่ศาลจังหวัดนาทวี จังหวัดสงขลา เป็นเวลา 12 วัน และคัดค้านการประกันตัว
สำหรับนายอาบูนั้น ภายหลังถูกจับกุมได้เมื่อวันเสาร์ที่ 10 พฤษภาคม ทางเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาสอบสวนเพิ่มเติมกว่า 3 ชั่วโมง โดยนายอาบูให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเชื่อมโยงขบวนการค้ามนุษย์ทั้งหมดได้
ข้อมูลจากการสืบสวนของตำรวจระบุว่า นายอาบูอยู่ในระดับหัวหน้าขบวนการค้ามนุษย์ในจังหวัดสตูล รองจาก นายปัจจุบัน หรือ ”โกโต้ง” ที่ถูกออกหมายจับและอยู่ระหว่างการหลบหนี ส่วนนายสมยศนั้น เป็นหลานของนายปัจจุบันที่ช่วยดูแลกิจการทั้งหมดบนเกาะหลีเป๊ะ
ผบ.ตร.สั่งย้ายเพิ่ม 10 ตำรวจ ตม.สะเดา
สำหรับความคืบหน้าการค้นหาแหล่งพักพิงชั่วคราวของชาวโรฮีนจา เจ้าหน้าที่จากกองทัพเรือได้นำเรือ ต.214 ออกลาดตระเวนพื้นที่ทางทะเล ตามเกาะแก่งต่างๆ ที่มีข่าวว่าเป็นแหล่งพักพิงของชาวโรฮีนจา โดยเฉพาะเกาะปาหนัน กับเกาะแรดใหญ่ แต่ไม่พบหลักฐานใดๆ ชัดเจนนัก
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจเอกสมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยว่า ได้ลงนามในคำสั่งย้ายตำรวจตรวจคนเข้าเมือง หรือ ตม.สะเดา จำนวน 10 นาย ตามที่รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเสนอมา หลังมีกระแสข่าวเรียกรับผลประโยชน์จากแรงงานต่างด้าว
ก่อนหน้านั้น เมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พลตำรวจเอกสมยศ ได้มีคำสั่งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ 265/2558 ย้ายข้าราชการตำรวจจำนวน 14 นาย ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก.ตร.) โดยให้ขาดจากตำแหน่งเดิม
ได้แก่ พ.ต.อ.เรืองเดช สุวรรณพิกุล ผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.ปากน้ำ อ.เมืองระนอง พ.ต.อ.สงกรานต์ เพชรน้อย ผกก.สภ.กะเปอร์ จ.ระนอง พ.ต.อ.สำราญ อุชุภาพ ผกก.สภ.ปากจั่น จ.ระนอง พ.ต.อ.ธีรยุทธ สันติวิสัฎฐ์ ผกก.สภ.คุระบุรี จ.พังงา พ.ต.ท.คมสัน แสงไกร รองผู้กำกับการสืบสวนสอบสวน (รอง ผกก.สส.) สภ.เมืองสตูล พ.ต.ท.ต่อลาภ เล็งฮะ รองผู้กำกับการป้องกันและปราบปราม (รอง ผกก.ป.) สภ.ควนโดน จ.สตูล พ.ต.ท.บุญเลิศ ตรัสศิริ รอง ผกก.สส. สภ.ควนโดน พ.ต.ท.พรชัย เกื้อเม่ง สว.สส.สภ.ควนโดน พ.ต.ท.สุพจน์ บุญศิริ สารวัตรปราบปราม (สวป.) สภ.ควนโดน พ.ต.ท.พลกูล ชอบกิจ สารวัตร สภ.เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล
ร.ต.ท.ลิขิต แนบเนียด รอง สวป.สภ.ควนโดน ร.ต.อ.จาตุรัตน์ คำศรี ผบ.ร้อย (สบ 2) กก.ตชด.43 ร.ต.อ.สมบัติ บัวจีน ผบ.มว. (สบ 1) กก.ตชด.43 และ ส.ต.อ.อับดุลมานับ สาริปา ผบ.หมู่ ตชด.43
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ :
1 สัญลักษณ์โอไอซี หรือ องค์กรความร่วมมืออิสลาม
2 ชาวโรฮีนจาที่ถูกนายหน้าลอยแพ (พรางภาพเพื่อเคารพสิทธิเหยื่อค้ามนุษย์)