วิปรัฐบาลตีกลับร่างพ.ร.บ.สำนักงานสลากฯ เหตุหลายประเด็นไม่สอดคล้องคำสั่งคสช.
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เผยวิปรัฐบาลมีมติส่งคืนร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กระทรวงการคลังและกฤษฎีกา หลังพบร่างกฎหมายไม่สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคสช.
หลังจากพ.ร.บ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (ฉบับที่..) พ.ศ. ... ที่กระทรวงการคลังเสนอ และส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาและผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อส่งต่อให้กับสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณานั้นต่อนั้น ล่าสุด นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) โพสต์เฟชบุ๊กส่วนตัวชื่อนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ถึงร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลที่เข้าพิจารณาในวิปรัฐบาลเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พ.ค. 2558
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ระบุว่า ขณะนี้วิปรัฐบาลมีมติส่งคืนร่างพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลให้กระทรวงการคลังและกฤษฎีกาประสานกับรองนายกรัฐมนตรี นายวิษณุ เครืองาม เพื่อปรับแก้ร่างกฎหมายให้สอดคล้องกับคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ฉบับที่11/2558 ลงวันที่ 1 พ.ค.58 ในเรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลากกินแบ่งรัฐบาล เพราะรายละเอียดไม่ตรงกันหลายประเด็นและไม่ใช่กฎหมายเร่งด่วน โดยเฉพาะประเด็นกองทุน ซึ่งคำสั่งหัวหน้าคสช.ให้นิยาม"กองทุน"ว่าหมายถึงกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อพัฒนาสังคม ในขณะที่ร่างพ.ร.บ.ที่ส่งมาพิจารณากลับให้นิยาม"กองทุน"ว่า เป็นกองทุนบริหาร จัดการสลากกินแบ่งรัฐบาลเพื่อรับซื้อสลากฯที่สำนักงานสลากฯจำหน่ายเองแต่จำหน่ายไม่หมด
นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ ระบุอีกว่า องค์ประกอบของคณะกรรมการก็มีความแตกต่างกัน ร่างพ.ร.บ.ให้ปลัดกระทรวงการคลังเป็นประธาน แต่คำสั่งหัวหน้าคสช.ให้ผู้ที่หัวหน้าคสช.แต่งตั้งมาเป็นประธาน (ในคำสั่งวันเดียวกันมีคำสั่งแต่งตั้ง พล ต.อภิรัชต์ คงสมพงษ์เป็นประธาน)ในร่างพ.ร.บ.มีกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 3 คน ซึ่งครม.แต่งตั้ง แต่ไม่มีในคำสั่งหัวหน้าคสช.ซึ่งแต่งตั้งผู้แทนกระทรวงพัฒนาสังคมสังเคราะห์แทนสภาสังคมสงเคราะห์
“ประเด็นสำคัญที่แตกต่างกัน คือการจัดสรรเงินของสำนักงานสลาก ที่ร่างพ.ร.บ.จัดสรรให้เป็นรายได้แผ่นดินร้อยละ 22 แต่คำสั่งหัวหน้าคสช.ให้จัดสรรร้อยละ 20 ส่วนค่าใช้จ่ายในการบริหารรวมค่าใช้จ่ายในการจำหน่ายสลากของร่างพ.ร.บ.ร้อยละ 15 ส่วนของหัวหน้าคสช.ร้อยละ 17 (ร้อยละ 60 เป็นเงินรางวัล)” นพ.เจตน์ กล่าว และว่า ในขณะเดียวกันกองทุนสลากฯเพื่อพัฒนาสังคม มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการศึกษาและวิจัยปัญหาที่เกี่ยวกับการพนัน สาเหตุและผลกระทบมาตรการป้องกันและวิธีแก้ปัญหา ส่งเสริมเผยแพร่ความรู้และทัศนคติ สนับสนุนกิจกรรมป้องกันและลดผลกระทบเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจำหน่ายสลาก
ส่วนที่มีเหมือนกันระหว่างร่างพ.ร.บ.และคำสั่งหัวหน้าคสช. สมาชิกสนช. ระบุว่า คือมีบทกำหนดโทษผู้ขายสลากเกินราคาเหมือนกัน โดยจำคุกไม่เกิน 1 เดือนปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาทหรือทั้งจำและปรับ และถอนกลับไปเพื่อพิจารณาให้รอบคอบว่า ออกกฎหมายแล้วจะต้องแก้ไขปัญหาการขายสลากเกินราคาเหลือคู่ละ 80บาทได้ตามเจตนารมณ์ของหัวหน้าคสช.
ขอบคุณภาพและข้อมูลจากเฟชบุ๊กนพ.เจตน์ ศิริธรานนท์