4 องค์กรสื่อตั้งกก.สอบกรณีนักข่าวรับเงินเอแบคฯ4.4 ล.-"เจษฎา อนุจารี" ปธ.
4 องค์กรสื่อ ตั้งคณะกรรมการสอบสวน กรณีข่าวนักข่าวรับเงินเอแบคโพลล์ 4.4 ล้าน "เจษฎา อนุจารี" นั่งเก้าอี้ประธาน ดึงตัวแทน มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค ชี้ต้องทำให้เกิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้กระทบความน่าเชื่อถือวิชาชีพ
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า ในช่วงเย็นวันที่ 11 พ.ค.58 ที่ผ่านมา สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ได้เผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์ ระบุว่า ตามที่มีข่าวเผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักข่าวอิศรา ระบุว่า มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ ตรวจสอบการดำเนินงานของสำนักวิจัยเอแบคโพลล์ ในเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณนอกวัตถุประสงค์และรายการงบประมาณ
โดยมีการรายงานว่าสำนักวิจัยเอแบคโพลล์จ่ายค่าตอบแทนสื่อมวลชน จำนวน 163 รายการ รวมเป็นเงิน 4,420,500 บาท รายงานระบุรายชื่อนักข่าวของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่ง ว่าเป็นผู้ที่รับเงินค่าตอบแทนมากที่สุด เป็นเงิน 2,150,866 บาท
กรณีดังกล่าว องค์กรสื่อ 4 องค์กร ซึ่งประกอบด้วย สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เห็นว่าเป็นเรื่องกระทบต่อความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบวิชาชีพข่าว เพื่อให้เกิดความชัดเจนและเป็นธรรมกับทุกฝ่ายจึงตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ดังนี้
1. นายเจษฎา อนุจารี กรรมการ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนฯ
2. นายปฏิวัติ วสิกชาติ กรรมการ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
3. นายชาย ปถะคามินทร์ เลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
4. นายเสด็จ บุนนาค รองเลขาธิการ สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ
5. นายบรรยงค์ สุวรรณผ่อง กรรมการควบคุมจริยธรรมสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
6. นายมานพ ทิพย์โอสถ อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
7. นายคทาธร อัศวจิรัฐติกรณ์ รองเลขาธิการ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
8. นายสุปัน รักเชื้อ อุปนายกฝ่ายสิทธิ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย
9. นางสาวกรรณิการ์ กิจติเวชกุล มูลนิธิเพื่อผู้บริโภค
ก่อนหน้านี้ นายสุปัน รักเชื้อ กรรมการสมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย เปิดเผยสำนักข่าวอิศราว่า เมื่อมีการลงนามแต่งตั้งกรรมการอย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้น กรรมการตรวจสอบก็จะขอความร่วมมือกับทางมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญเพื่อของรายงานข้อเท็จจริงดังกล่าว รวมทั้ง เชิญนายนพดล กรรณิกา อดีตผู้อำนวยการสำนักวิจัยเอแบคโพลล์มาให้ข้อมูลด้วย รวมทั้งเชิญสื่อที่ถูกระบุตามรายงานมาร่วมให้ข้อมูล
นายสุปัน กล่าวว่า นอกจากนั้นจะขอความร่วมมือจากสื่อสิ่งพิมพ์ วิทยุ โทรทัศน์ เว็บไซต์ ให้มีการตรวจสอบภายในของตนเอง ว่ากระบวนการนำเสนอโพลล์ โดยเฉพาะในส่วนของเอแบคโพลล์นั้น เป็นการนำเสนอที่ถูกต้องและเป็นไปตามเงื่อนไขการนำเสนอข่าวหรือไม่ แต่ในกรณีนี้ ถ้าสื่อมีการทำสัญญาซื้อขายพื้นที่โฆษณากันอย่างถูกต้องเราก็ต้องเคารพเขา
แต่แม้ถ้าเขามีการซื้อพื้นที่เราก็ต้องดูรูปแบบว่านำเสนออย่างไร เป็นพื้นที่โฆษณา หรือพื้นที่ข่าว ถ้าเป็นพื้นที่ข่าวก็ไม่น่าจะใช่
“ประเด็นนี้จะขอความร่วมมือให้องค์กรสื่อร่วมกันตรวจสอบ เพราะก็ยังย้ำว่า ถ้าโพลล์น่าสนใจ มีการสุ่มตัวอย่างชัดเจน มีคุณภาพของคำถาม เราก็เผยแพร่ให้อยู่แล้ว ไม่ต้องมาทำแบบนี้” นายสุปันระบุ
เมื่อถามว่า ในรายงานระบุว่านักข่าวรายหนึ่งรับค่าตอบแทน 2 ล้านบาท แต่นักข่าวปฏิเสธว่าไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ เพียงทำหน้าที่ในฐานะนักวิจัยและอาจารย์ และแยกแยะบทบาทชัดเจน ไม่ใช้ความเป็นนักข่าว ขณะเดียวกันอดีตทีมวิจัยเอแบคกล่าวว่านักข่าวเป็นตัวกลางในการผสานซื้อพื้นที่ข่าวในสื่อหนังสือพิมพ์และโทรทัศน์ จะตรวจสอบข้อมูลส่วนนี้อย่างไรและกรณีนี้ส่งผลกระทบต่อจริยธรรมสื่ออย่างไร
นายสุปัน กล่าวว่า "เราเคารพในข้อมูลของทั้งสองฝ่าย แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายจะทำให้ข้อมูลมีน้ำหนัก ก็จะต้องมาให้ความร่วมือ กับ คณะกรรมการตรวจสอบเพื่อให้เรื่องนี้กระจ่าง ส่วนที่ถามว่าเรื่องนี้ มีผลกระทบไหม ตอบว่ามีเพราะถูกเผยแพร่ไปแล้วว่าสื่อรับเงิน และกระทบต่อการทำโพลล์ทั้งหมดด้วย มันไม่ใช่เพียงแค่เอแบคโพลล์แล้ว แต่ส่งผลต่อโพลล์ทั้งหมด เพราะคนที่รับข้อมูลข่าวสารก็อาจจะมองว่าเวลาทำโพลล์ เขาทำกันแบบนี้หรือ ดังนั้นเรื่องนี้ต้องทำให้โปร่งใสเพราะเกี่ยวพันกับทั้งชื่อเสียงของโพลล์และจรรยาบรรณวิชาชีพ"
เมื่อถามว่าหากนายสุปันร่วมเป็นกรรมการตรวจสอบ จะกดดันหรือไม่ ที่ต้องตรวจสอบสื่อด้วยกันเอง
นายสุปันตอบว่า “ไม่ เพราะเราให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย และต้องมาดูว่าข้อเท็จริงเป็นอย่างไร สื่อก็ไม่ได้ทำอะไรถูกต้องทั้งหมด ถ้าเราไม่กล้าตรวจสอบกันเอง เราก็คงไม่ต้องไปเรียกร้องการปฏิรูป ถ้าเรายังไม่กล้าตั้งคำถามกับคนในแวดวงเดียวกัน กับคนวิชาชีพเดียวกัน ถ้าเขาว่าเขาถูกต้อง ก็ต้องมาดูหลักฐานกัน นายสุปันระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายสุปัน รักเชื้อ เป็นหนึ่งในรายชื่อที่สมาคมวิทยุโทรทัศน์ไทยเสนอเป็นกรรมการตรวจสอบ