ศอตช.ตั้ง 2 ประเด็นสอบสกสค. อนุมัติ 2.1พันล.ให้เดอะบิ๊ก-สาวลึกเงิน "ขรก."
ศอตช. ตั้ง 2 ประเด็นหลักสอบ สกสค. อนุมัติเงิน 2.1 พันล้าน ให้ "เดอะบิ๊ก"ลงทุนโครงการโรงงานไฟฟ้า "ขั้นตอนอนุมัติ -ข้อมูลบริษัทเอกชน" บูรณาการข้อมูลหน่วยงานตรวจสอบทุกช่องทาง ปปง.สาวลึกเส้นทางเงิน ทั้งขรก.-เอกชน!
จากกรณีรศ.นพ.กำจร ตติยกวี ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ออกมาระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้ สำนักงานส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ยกเลิกการทำธุรกรรมในทุกประเภทกับบริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ตกรุ๊ป จำกัด และมอบหมายให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เข้าไปตรวจสอบปัญหาการทุจริต จากกรณีบอร์ด สกสค.อนุมัติวงเงินจำนวน 2.1 พันล้านบาท นำเงินไปลงทุนโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี กับ บริษัท บิลเลี่ยนฯ นั้น
แหล่งข่าวระดับสูงจาก ศอตช. เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า การตรวจสอบข้อมูลในเรื่องนี้ ของ ศอตช. จะดูใน 2 ประเด็น หลัก คือ 1. กระบวนการอนุมัติเงินของ บอร์ด สกสค. ที่นำไปลงทุนในโครงการนี้ ว่ามีขั้นตอนปฏิับัติถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ โดยเฉพาะเรื่องความคุ้มค่าในการลงทุน 2. ข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่ได้รับอนุมัติเงินกู้ไปเป็นอย่างไร และนำเงินที่ได้รับจาก สกสค.ไปใช้ทำอะไรบ้าง มีการทำโครงการโรงงานไฟฟ้าจริงหรือไม่
"ส่วนในขั้นตอนการดำเนินงานจะมีการบูรณาการงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานตรวจสอบ ทั้งในส่วนของ ป.ป.ช. ปปง. สตง. ดีเอสไอ รวมถึง ป.ป.ท.ด้วย ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลอยู่ในมือระดับหนึ่งแล้ว ส่วนเรื่องเส้นทางการเงิน ปปง.จะเข้ามารับผิดชอบ ตรวจสอบข้อมูลผู้เกี่ยวข้องทั้งในส่วนข้าราชการและเอกชน"
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า บริษัท บิลเลี่ยน อินโนเวเท็ด กรุ๊ป จำกัด เพิ่งจดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555 ทุนปัจจุบัน 2,000 ล้านบาท (ช่วงจัดตั้งบริษัทฯ แจ้งทุนไว้ที่ 100 ล้านบาท ก่อนปรับเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.56) ตั้งอยู่เลขที่ 57 อาคารปาร์คเวนเชอร์ อีโคเพล็กซ์ ชั้น 11 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
แจ้งประกอบธุรกิจ การซื้อและการขายอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นของตนเองที่ไม่ใช่เพื่อเป็นที่พักอาศัย
ปรากฎชื่อ นาย สิทธินันท์ หลอมทอง และนาย มงคล เยี่ยงศุภพานนทร์ เป็นกรรมการผู้มีอำนาจ นาย สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา และนายณิศร์ เดินตามแบบ รวมเป็นกรรมการ
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 มี 4 ราย นาย สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา ถือหุ้นใหญ่สุด 15,000,000 หุ้น มูลค่า 1,500,000,000 บาท(ดูเอกสารประกอบ)
ทั้งนี้ บริษัทฯ นำส่งงบการเงินแสดงผลประกอบการธุรกิจล่าสุด ปี 2556 แจ้งว่ามีรายได้รวม 16,760,733.80 บาท รวมรายจ่าย 19,535,907.82 บาท ขาดทุนสุทธิ 2,775,174.02 บาท
ส่วนปี 2555 แจ้งว่า มีรายได้รวม 5,776.63 บาท รวมรายจ่าย 1,487,766.77 บาท ขาดทุน 1,481,990.14 บาท
ส่วนสินทรัพย์ ปี 2555 แจ้งว่า มีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 187,460.30 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง 17,390,862.51 บาท มีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 5,295,719.68 บาท มีหนี้สินรวม 148,010.81 บาท
ส่วนสินทรัพย์ ปี 2556 (นายสัมฤทธิ์ ให้การยืนยันว่า สกสค.นำเงินมาลงทุนด้วยจำนวน 2,100 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการกู้ยืมเงิน) ระบุว่ามีเงินสดและรายการเทียบเท่าเงินสด 1,800,328,176.97 บาท มีเงินให้กู้ยืมระยะสั้นแก่บุคคลที่เกี่ยวข้อง 183,159,019.98 บาท รวมสินทรัพย์หมุนเวียน 1,986,080,822.50 บาท รวมที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ 9,029,514.88 บาท มีหนี้สินรวม 144,231.69 บาท
ทั้งนี้ หากโฟกัสงบการเงินของบริษัทฯ โดยเฉพาะในปี 2556 จะพบว่า มีเงินสดเป็นหลักพันล้านบาทไหลผ่านเข้ามา ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่มีการระบุข้อมูลว่า สกสค.นำเงินมาลงทุนด้วยจำนวน 2,100 ล้านบาท ขณะที่บริษัทฯมีการเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็นเงิน 2 พันล้านบาท
แต่สิ่งที่น่าสนใจ อยู่ที่ข้อมูลในส่วนของ มีที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ ซึ่งบริษัทฯ ระบุว่ามีมูลค่ารวมกันแค่ 5,295,719.68 บาท ทั้งในงบการเงินปี 55 และ 56
ขณะที่บริษัทฯ อ้างว่า จัดทำโครงการโรงงานไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยใช้ที่ดินจำนวน 1,200 ไร่ ในพื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี งบประมาณ 6,500 ล้านบาท
(อ่านประกอบ : ผ่าปมร้อนเงินกู้ช.พ.ค.2.1พันล."เดอะบิ๊ก"ยันถูกขู่ฆ่าเรียกสินบน ล้มบอร์ดสกสค.?)