เปิดประวัติผู้ต้องหาถูกวิฯที่บานา สงสัยโยงทีมคาร์บอมบ์สมุย
สถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงตึงเครียด มีการปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่กับกลุ่มติดอาวุธอย่างต่อเนื่อง โดยกรณีล่าสุดที่ปัตตานี มีรายงานว่าผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่เสียชีวิตในเหตุปะทะ เชื่อมโยงกับทีมคาร์บอมบ์เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี
เมื่อเวลา 05.00 น.วันเสาร์ที่ 2 พฤษภาคม 2558 กำลังผสมทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองประมาณ 60 นาย ได้เข้าปิดล้อมอาคารโรงอาหารที่กำลังก่อสร้าง ภายในโรงเรียนดาตุลบารอดะห์ โรงเรียนเด็กกำพร้า บ้านสุไหงปาแน หมู่ 1 ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ได้กันไม่ให้บุคคคลภายนอกเข้าไป
ปฏิบัติการตรวจค้นดังกล่าว เกิดขึ้นหลังได้รับรายงานว่า มีบุคคลไม่ทราบกลุ่ม เป็นคนนอกพื้นที่ 6 คน เข้าไปเคลื่อนไหวอย่างผิดปกติ เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปปิดล้อมและเรียกให้ออกมาเพื่อขอตรวจสอบ แต่ ไม่มีเสียงตอบรับ
กระทั่งเวลา 05.30 น. หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่อยู่ภภายในได้วิ่งออกจากตัวอาคาร และกำลังปีนกำแพงเพื่อหลบหนี แต่เห็นเจ้าหน้าที่ปิดล้อมอยู่ ผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวจึงใช้อาวุธปืนยิงเปิดทาง 3 นัด เจ้าหน้าที่จึงใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้จนผู้ต้องสงสัยรายดังกล่าวเสียชีวิต ตกลงไปข้างกำแพงด้านนอกของโรงเรียน
จากการตรวจสอบทราบชื่อคือ นายมาฮามะซู เจะหะ อายุ 31 ปี เป็นผู้ต้องหาคดีความมั่นคง มีหมายจับทั้งที่ออกตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) และหมายที่ออกตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) นอกจากนั้นยังสามารถควบคุมตัวผู้ที่อยู่ในอาคารได้อีก 2 ราย และเจ้าหน้าที่ใช้เวลาอีกหลายชั่วโมงเพื่อเจรจากับผู้ต้องสงสัยที่ยังหลบอยู่ภายในให้มอบตัว
พล.ท.กิตติ อินทสร รองแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้ใช้เวลาเพื่อดำเนินการตามนโยบายและขั้นตอนที่ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคที่ 4 (ผอ.รมน.ภาค 4 หมายถึง พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4) กำหนด
พ.อ.บรรพต พูลเพียร โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) แถลงว่า ในชั้นต้นได้รับการยืนยันว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา และตั้งแต่เริ่มปฏิบัติภารกิจ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะรอง ผอ.รมน. ได้กำชับให้ดำเนินการด้วยความระมัดระวังอย่างรอบคอบตามขั้นตอน จากเบาไปหาหนัก พยายามให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้ เพื่อให้เกิดการยอมรับจากทุกฝ่าย
เปิดแฟ้มประวัติมาฮามะซู ส่อโยงทีมคาร์บอมบ์สมุย
จากแฟ้มข้อมูลของฝ่ายความมั่นคง นายมาฮามะซู เจะหะ ผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุปิดล้อมที่ ต.บานา อ.เมือง จ.ปัตตานี เป็นบุคคลตามหมายจับ ป.วิอาญา 2 หมาย จากผลดีเอ็นเอตรงกับ 2 เหตุการณ์รุนแรงที่เคยเกิดขึ้น คือ
1.เหตุลอบวางเพลิงองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อ 23 ก.พ.2556
2.เหตุลอบวางระเบิดและก่อกวน 27 จุด ในพื้นที่ อ.เมือง จ.ปัตตานี เมื่อ 24 พ.ค.2557
นายมาฮามะซู เคยถูกจับกุม 3 ครั้ง และเคยถูกจำคุก (ถูกขังระหว่างพิจารณาคดี) เป็นเวลา 2 ปี คดีตรวจพบระเบิดแสวงเครื่องบนรถจักรยานยนต์ ต่อมาศาลพิพากษายกฟ้อง ให้ปล่อยตัว และถูกจับกุมล่าสุดเมื่อ 15 ก.ค.2557 ตามกฎอัยการศึก ผลการซักถามยอมรับว่าร่วมก่อเหตุวางเพลิง อบต.ยะหริ่ง เพียงกรณีเดียว
ต่อมาวันที่ 21 ก.ค.2557 นายมาฮามะซู ได้หลบหนีการควบคุมตัวระหว่างที่เจ้าหน้าที่นำตัวส่งศูนย์พิทักษ์สันติ (ศูนย์ซักถามของตำรวจ) ตามหมาย พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ยังสงสัยว่า นายมาฮามะซู อาจเกี่ยวข้องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง หลังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นปอเนาะแห่งหนึ่งใน ต.สะดาวา อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เมื่อ 18 ก.พ.2558 และพบอาวุธสงครามจำนวนหนึ่งในพื้นที่เขตต่อเนื่องกับปอเนาะ ผลตรวจดีเอ็นเอวัตถุพยานชี้ว่านายมาฮามะซูอาจเคยไปที่นั่น
ขณะเดียวกัน นายมาฮามะซู ยังตกเป็นผู้ต้องสงสัยร่วมทีมคาร์บอมบ์เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ 10 เม.ย.2558 โดยเขาอาจรับหน้าที่เป็นคนขับรถฮอนด้าซีวิค ระวังหลังให้กับรถคาร์บอมบ์ ซึ่งทั้งขบวนมีรถนำและตามรวม 4 คัน
จี้ปล่อย "มูหาหมัดยากี" หลังถูกรวบอ้างโยงบึ้มสมุย
ก่อนหน้านั้น มีกรณีที่อาจเชื่อมโยงกัน คือ การควบคุมตัว นายมูหาหมัดยากี สาและ ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง โดยอ้างว่าอาจเกี่ยวข้องกับคดีคาร์บอมบ์สมุย
อย่างไรก็ดี องค์กรภาคประชาสังคม 8 องค์กรได้ออกแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องขอให้ปล่อยตัวนายมูหาหมัดยากี เพราะเขาเป็นประธานเครือข่ายผดุงธรรมเพื่อสันติ ซึ่งเป็นกลุ่มอดีตผู้ต้องหาคดีความมั่นคงที่ตั้งขึ้นเพื่อดูแลกันเองด้านสิทธิมนุษยชน
แถลงการณ์ระบุว่า เมื่อวันที่ 24 เม.ย.2558 เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว นายมูหาหมัดยากี ไปพบที่ สภ.เมืองยะลา โดยอ้างว่ามีหมายจับเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิดเมืองยะลา ซึ่งศาลได้พิพากษายกฟ้องไปแล้ว แต่เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ นายมูหาหมัดยากีได้เดินทางเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายมูหาหมัดยากี ไปซักถามที่ค่ายอิงคยุทธบริหาร ต.บ่อทอง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ครบกำหนดการกักตัวตามกฎอัยการศึกเป็นเวลา 7 วันเมื่อวันที่ 1 พ.ค.2558 และได้มีการขอขยายการควบคุมตัวต่อตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยยังไม่มีกำหนดว่าจะมีการปล่อยตัวนายมูหาหมัดยากีเมื่อใด
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอ้างว่านายมูหาหมัดยากี มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ระเบิดที่เกาะสมุย และให้ข้อมูลข่าวต่อสื่อมวลชนด้วยว่า นายมูหาหมัดยากี เป็นผู้ต้องสงสัยเกี่ยวกับเหตุการณ์ระเบิด อย่างไรก็ดี หน่วยงานความมั่นคงมักใช้อำนาจกักตัวบุคคลตามกฎอัยการศึก 7 วัน และควบคุมตัวภายใต้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สูงสุด 30 วันในการสืบหาข่าวและควบคุมบุคคลโดยพลการ การจำกัดสิทธิเสรีภาพโดยกฎหมายพิเศษนั้นต้องดำเนินการด้วยความระมัดระวังและไม่เกินกว่าความจำเป็น
องค์กรภาคประชาสังคม 8 องค์กร นำโดยมูลนิธิผสานวัฒนธรรม จึงขอเรียกร้องให้ทางการปล่อยตัวนายมูหาหมัดยากีโดยทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข ทั้งนี้เพื่อดำรงไว้ซึ่งความไว้วางใจ ไว้เนื้อเชื่อใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยทุกฝ่ายยินดีให้ความร่วมมือและทำงานในแนวทางที่สร้างสรรค์ กรณีเหตุระเบิดที่เกาะสมุยหากทางการมีข้อกล่าวหาหรือมีพยานหลักฐานตามกระบวนการยุติธรรมต่อนายมูหาหมัดยากี ขอให้มีการดำเนินการอย่างเป็นธรรม และนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยต้องไม่เป็นการกลั่นแกล้ง
ซุ่มยิง อส.บันนังสตาเจ็บ 5
เมื่อกลางดึกคืนวันเสาร์ที่ 2 พ.ค.2558 ตำรวจ สภ.บันนังสตา จ.ยะลา รับแจ้งเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดซุ่มยิงชุดอาสารักษาดินแดน (อส.) บันนังสตา ชุดสิงห์ดำ เป็นเหตุให้ อส.ได้รับบาดเจ็บ 5 นาย เหตุเกิด ที่บ้านบันนังกูแว หมู่ 4 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา โดยมีรายงานว่า อส.ชุดดังกล่าวเป็นชุดของ อส.ฮากิม ดาราเซะ ซึ่งเคยเป็นคู่ขัดแย้งและก่อเหตุรุนแรงตอบโต้กันไปมากับกลุ่มติดอาวุธในพื้นที่ อ.บันนังสตา
------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : รายงานของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เกี่ยวกับเหตุปะทะจน นายมาฮามะซู เจะหะ เสียชีวิต ที่ ต.บานา อ.เมืองปัตตานี