ยอดอายัดคดียูฟันล่าสุด727ล้าน! สะพัด"บิ๊กดีเอสไอ"รับ3ล.แลกช่วยกันเป็นพยาน
เช็คยอดอายัดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องคดีแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน" ล่าสุด 727 ล้าน "โน๊ต" รัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ โดนเยอะสุด 184 ล้าน อาทิตย์ ปานแก้ว เจอจิ๊บๆ 4 ล้าน ส่วน พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน 14 ล้าน สะพัด"บิ๊กดีเอสไอ" รับเงิน 3 ล้าน แลกช่วยกันตัว"นักธุรกิจ"ชาวต่างชาติ เป็นพยาน

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า นับตั้งแต่เกิดปัญหาคดีแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน"ของบริษัท ยูฟันสโตว์ จำกัด ในช่วงต้นเดือนเมษายน 2558 เป็นต้นมา สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ออกคำสั่งอายัดทรัพย์สินของผู้เกี่ยวข้องในคดีนี้ เป็นจำนวน 727,640,000 บาท แยกเป็นทรัพย์สิน จำนวน 420,640,000 บาท และเงินในบัญชีฝาก จำนวน 307,000,000 บาท
โดยบุุคคลที่ถูกออกคำสั่งอายัดทรัพย์และเงินฝากมากที่สุด คือ นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ จำนวน 184 ล้านบาท
แบ่งเป็น ทรัพย์สินที่ได้จากการบุกค้นบ้าน เมื่อวันที่ 10 เม.ย.58 จำนวน 32 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อ Lamborgini 15 ล้านบาท คอนโดเดอะริเวอร์ เจริญนคร 25 ล้านบาท รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า 2 ล้าน บ้านบางกอกบูเลอวาท 2 หลัง 53 ล้านบาท ทรัพย์สินที่ได้จากการเปิดเซฟ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.58 จำนวน 26,200,000 บาท และทองคำแท่งหนัก 80 บาท 1,440,000 บาท และมีเงินฝากในบัญชี 1,347,966 ล้านบาท
ขณะที่นายอภิชณัฏฐ์ แสนกล้า ถูกอายัดทรัพย์ เป็นจำนวน 55 ล้านบาท เป็นทรัพย์สินในตู้เซฟ จำนวน 26 ล้านบาท รถยนต์ 12 ล้านบาท และบ้าน 1 หลัง มูลค่า 17 ล้านบาท
พล.ท.อธิวัฒน์ สุ่นปาน จำนวน 14 ล้านบาท เป็นรถยนต์ 3 คัน มอเตอร์ไซต์ 2 คัน เงินในบัญชี 621,286 บาท
ส่วนนายอาทิตย์ ปานแก้ว ซึ่งถือระบุว่าเป็นเจ้าของบริษัท ยูฟันฯ ตัวจริง และเข้ามาสวมบัตรประชาชนคนไทย ถูกอายัดทรัพย์ไว้จำนวน 4 ล้าน เป็นรถจำนวน 3 คัน เงินในบัญชี อีก 892,716 บาท (ดูรายละเอียดในตารางประกอบ)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ มีชื่อเล่นว่า "โน๊ต" เคยถูกระบุว่า ผู้นำเบอร์ 1 ในการทำธุรกิจของ UFUN THAILAND ได้รับรางวัลผู้บริหารแห่งปี 2014 มาแล้ว
ขณะที่การตรวจสอบความเสียหายในคดีนี้ ล่าสุด ผู้เสียหายก็ยังคงเดินทางเข้ามาแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภายใต้การนำของ พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร.อย่างต่อเนื่อง ส่วนการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ความร่วมมือในการส่งมอบข้อมูลสนับสนุนที่เป็นประโยชน์จากหน่วยงานตรวจสอบอื่นๆ อาทิ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)
(อ่านประกอบ : เปิดครบ!ผลปฏิบัติการกวาดล้างแชร์ลูกโซ่ "ยูฟัน"ล่าสุด เสียหายยับ2 หมื่นล.)
อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวแจ้งว่า ในส่วนการดำเนินงานของดีเอสไอ กำลังมีการสอบสวนทางลับ ผู้บริหารระดับสูงรายหนึ่ง ซึ่งถูกระบุว่าได้รับเงินจากผู้เกี่ยวข้องในคดียูฟันรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักธุรกิจชาวต่างชาติ จำนวน 3 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ดำเนินคดี และให้ช่วยกันตัวไว้เป็นพยาน และเป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้การสอบสวนคดีนี้ของดีเอสไอ เป็นไปด้วยความล่าช้า ทั้งที่ มีผู้เสียหายเข้าร้องเรียนเป็นทางการมานานแล้ว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาดำเนินการสอบสวนคดีนี้ในปัจจุบัน
