โชว์หนังสือ“ฟ้าวันใหม่”ถึงกสท. “เรานำเสนอข้อเท็จจริง ไม่ได้ปลุกปั่นสังคม”
“…สถานีเห็นว่าไม่ถึงขั้นทำให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด ก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม ไม่มีการยุยงปลุกปั่น จึงขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการกสท.ว่า เนื้อหาทั้งสองรายการไม่ถึงขั้นจะลงโทษ สถานีในสถานหนัก…”
หมายเหตุ สำนักข่าอิศรา www.isranews.org : เป็นหนังสือจากสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) ขอความเป็นธรรม กรณีเนื้อหาในรายการสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่เสนอข่าวสารส่อขัดคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่ 103/2557
(อ่านประกอบ : “ฟ้าวันใหม่”ขอความเป็นธรรมกสท. ยันไม่เคยบิดเบือน-สร้างความแตกแยก)
----
วันที่ 1 พฤษภาคม 2558
เรื่องขอความเป็นธรรม
เรียนคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและโทรทัศน์ (กสท.)
ตามที่สำนักงานเลขาธิการ กสทช.ได้เชิญ บริษัท บลูสกาย แชนเนล จำกัด เข้าชี้แจงข้อเท็จจริงต่อคณะอนุกรรมการด้านผังรายการและเนื้อหารายการ เมื่อวันจันทร์ ที่ 27 เมษายน 2558 โดยระบุว่า เนื้อหารายการของสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่อันได้แก่ รายการถอนพิษ ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2558 รายการข่าวฟ้ายามเย็น ออกอากาศ เมื่อวันที่ 17 และ 20 มีนาคม 2558 และรายการวิเคราะห์คอลัมนิสต์ ออกอากาศเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2558
โดยกล่าวหาว่า มีการนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่ทำให้ประชาชนเกิดความสับสนเข้าใจผิดก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม เป็นการออกอากาศเนื้อหารายการที่อาจขัดกับประกาศ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ฉบับที่ 97/2557 และ ฉบับที่ 103/2557
ในฐานะผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ฟ้าวันใหม่ จึงทำหนังสือฉบับนี้เพื่อชี้แจงเพิ่มเติม และขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ กสท. ดังนี้
1)ในวันที่อนุกรรมการฯเชิญตัวแทนของสถานีฯเข้าชี้แจง ประธานในที่ประชุม (พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการ กสท.) มีท่าที แข็งกร้าว เกรี้ยวกราด แสดงท่าทีคล้ายมีอคติ มีการใช้คำพูดที่ไม่สุภาพ ไม่คำนึงถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ที่เท่าเทียมกัน เช่น “พวกคุณทำบ้าอะไรกันวะ” “นี่พวกคุณยังไม่เข้าใจอีกหรือวะ”เป็นต้น และไม่เปิดโอกาสให้ตัวแทนสถานีชี้แจงอย่างเต็มที่
จากท่าทีของประธานในที่ประชุมในวันดังกล่าวทำให้ตัวแทนของสถานีเกรงว่ามติของอนุกรรมการฯวันนั้นจะลงโทษทางปกครองกับสถานีฯในสถานหนัก เกินกว่าขั้นตอนการลงโทษทางปกครอง เช่น เริ่มต้นจากการตักเตือนด้วยวาจา ตักเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร สั่งปรับ ระงับใบอนุญาตชั่วคราว และ เพิกถอนใบอนุญาต (ตามที่ พันเอก นที ศกุลรัตน์ ประธานกสท.ได้ชี้แจงไว้ ในกรณีของสถานีพีซทีวี)
2)ตัวแทนของสถานีมีโอกาสชี้แจงรายละเอียดเนื้อหารายการเพียงรายการเดียว คือรายการถอนพิษ ส่วนรายการอื่นๆได้เพียงตอบข้อซักถามของที่ประชุมว่า เป็นรายการที่ออกอากาศทางสถานีจริงหรือไม่ เป็นรายการที่ออกอากาศสด หรือบันทึกเทปเท่านั้น จึงเห็นว่า การซักถามข้อมูลเพียงเท่านั้นไม่เพียงพอที่จะใช้ เป็นข้อมูลในการลงมติกำหนดโทษในทางปกครองกับทางสถานีฯ
3)ในการชี้แจงรายละเอียดเนื้อหารายการถอนพิษ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2558 เป็นกรณีที่ศาลจังหวัดพัทยา พิพากษาลงโทษจำคุก นาย อริสมันต์ พงษ์เรืองรอง กับพวก กรณีบุกการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนปี 2553
ประธานในที่ประชุม เห็นว่า เป็นการนำเสนอเรื่องเก่าทำให้เกิดการแตกแยก ขัดแย้งในสังคม
ตัวแทนของสถานีได้ชี้แจงว่า ข้อมูลและคลิปวิดีโอที่นำเปิดในรายการมิใช่เป็นการนำเรื่องเก่ารื้อฟื้นแต่เนื่องจากศาลจังหวัดพัทยาเพิ่งมีการพิพากษาตัดสินคดีดังกล่าวจึงอยู่ในความสนใจของประชาชนในขณะนั้น นอกจากนี้คลิปและข้อมูลที่นำมาใช้เป็นเรื่องจริงมิได้มีการบิดเบือน
อนุกรรมการฯท่านหนึ่งระบุว่า แม้เป็นเรื่องจริงก็นำเสนอไม่ได้เพราะ ทำให้เกิดการแตกแยกไม่เสริมสร้างความปรองดอง ในขณะที่ประธานอนุกรรมการฯ อ้างว่าเป็นนโยบายของคสช.ที่แม้เป็นเรื่องจริงก็ไม่ให้นำเสนอเพราะทำให้เกิดความแตกแยกเพิ่มขึ้นอีก
ข้อเท็จจริง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้สัมภาษณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2558 ที่ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ว่า “ผมไม่เคยไปห้ามให้เสนออะไรไม่ได้เลยแต่อะไรที่ขัดแย้งกันแล้วเป็นเรื่องจริงผมไม่ว่า แต่หากไม่ใช่เรื่องจริงต้องสังคายนากันหน่อย”
สถานีฟ้าวันใหม่จึงเกรงว่าคณะอนุกรรมการฯจะมีความเข้าใจคำว่า “ปรองดอง” คลาดเคลื่อนไปจากนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ และมีการลงมติเสนอลงโทษทางปกครองด้วยความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ไม่เป็นธรรม
4)ในส่วนของรายการอื่นๆ อีก 2 รายการ คือรายการ ข่าวฟ้ายามเย็น และ รายการ วิเคราะห์คอลัมนิสต์ นั้นตัวแทนของสถานีฯยังไม่มีโอกาสชี้แจงรายละเอียดต่อคณะอนุกรรมการฯมีเพียงการสอบถามว่าเป็นรายการที่ออกอากาศทางสถานีฯ จริงหรือไม่ เป็นรายการสดหรือรายการบันทึกเทปเท่านั้น
สถานีขอชี้แจงเพิ่มเติมว่าหากคณะกรรมการกสท.เห็นว่าเนื้อหาของรายการทั้งสองมีข้อความส่อเสียดไม่เหมาะสม ทางสถานีขอน้อมรับนำมาปรับปรุงแก้ไขและตักเตือนผู้ดำเนินรายการทั้งสองรายการให้ระมัดระวังในการใช้คำพูดมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามสถานีเห็นว่าไม่ถึงขั้นทำให้เกิดความสับสน เข้าใจผิด ก่อให้เกิดความขัดแย้งแตกแยกในสังคม ไม่มีการยุยงปลุกปั่น จึงขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการกสท.ว่า เนื้อหาทั้งสองรายการไม่ถึงขั้นจะลงโทษ สถานีในสถานหนัก
5)สถานีให้ความร่วมมือ กสทช.ด้วยดีเสมอมาในการปรับปรุงผังรายการ เนื้อหารายการ ให้มีเนื้อหาสอดคล้องกับบันทึกข้อตกลง ระหว่าง สถานี และ สำนักงาน กสทช. อาทิเช่น เพิ่มรายการที่มีเนื้อหาสาระสร้างสรรค์ มีการจัดการแข่งขันประกวดความคิดของ เยาวชนในการปฏิรูปประเทศไทย รายการคิดสร้างชาติ และสถานีได้มีความพยายาม ที่จะตักเตือนผู้ดำเนินรายการของสถานีให้ใช้ความระมัดระวังในการวิพากษ์วิจารณ์ หลายครั้งหลายโอกาสได้มีความพยายามในการนำเสนอข้อมูลสองด้านเช่น สัมภาษณ์อดีต นักการเมืองจากพรรคเพื่อไทย เป็นต้น
สถานีฯขอยืนยันว่า สถานีฯให้ความร่วมมือในการเสริมสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้นในชาติตามนโยบายของคสช.อย่างเต็มที่ตลอดมาและให้ความร่วมมือกับคณะอนุกรรมการฯด้วยดีตลอดมา การนำเสนอข่าวสารของสถานีเป็นการนำเสนอข้อเท็จจริง มิได้มีการบิดเบือนความจริง หรือมีวัตถุประสงค์ที่จะยุยงปลุกปั่นให้เกิดความแตกแยกขึ้นในสังคม
ทั้งนี้สถานียังไม่เคยได้รับการตักเตือนจากกสทช.เป็นลายลักษณ์อักษรแต่อย่างไร จึงขอความเป็นธรรมจากคณะกรรมการ กสท.
จึงเรียนมาเพื่อทราบและโปรดพิจารณาให้ความเป็นธรรม
ขอแสดงความนับถือ
(นายเถกิง สมทรัพย์/นายวิทเยนทร์ มุตตามระ)
กรรมการบริหารบริษัท บลูสกาย แชนเนล จำกัด