“ปู-ปลอดประสพ”ระทึก! ป.ป.ช.ลุยสอบปมพูดเหยียดคนเห็นต่างโครงการน้ำ

“ยิ่งลักษณ์-ปลอดประสพ” ระทึก! ป.ป.ช. แจ้งคำสั่งตั้งองค์คณะไต่สวน ลุยสอบปมปราศรัยบนเวทีเพื่อไทย จ.เชียงใหม่ ปี’56 พูดจาเหยียดความเป็นมนุษย์-ใช้วาจาใส่ร้ายคนเห็นต่างโครงการน้ำ

ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้เป็นองค์คณะไต่สวน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 1 และนายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี ผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 กรณีกล่าวหานายปลอดประสพปราศรัยบนเวทีพรรคเพื่อไทย เมื่อปี 2556 ไม่เหมาะสม

โดยกรณีดังกล่าว มีผู้ร้องเรียนขอให้วุฒิสภามีมติตามมาตรา 274 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ถอดถอน น.ส.ยิ่งลักษณ์ และนายปลอดประสพ ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติการณ์ส่อว่าจงใจใช้อำนาจหน้าที่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ

มีข้อเท็จจริงคือ นายปลอดประสพ ได้พูดบนเวทีปราศรัยของพรรคเพื่อไทย “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2556 มีพฤติการณ์ที่ชี้ให้เห็นว่า นายปลอดประสพ มิได้สนใจในกฎหมายบ้านเมือง ไม่เคารพหลักความเสมอภาคของประชาชน และมีพฤติกรรมที่เลือกปฏิบัติ

ขณะที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ในฐานะผู้บังคับบัญชา เมื่อทราบพฤติกรรมของนายปลอดประสพจากสื่อมวลชน สังคม และรัฐสภาแล้ว กลับเพิกเฉย ซึ่งเป็นการแสดงเจตนายืนยันได้ว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีส่วนรู้เห็นเป็นใจ และสมคบคิดกับนายปลอดประสพ

โดยคดีนี้ ป.ป.ช. ได้รับเรื่องเมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2556 ล่าสุด ได้ไต่สวนข้อเท็จจริง และมีหนังสือแจ้งให้ผู้ถูกกล่าวหารับทราบการที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นองค์คณะไต่สวนแล้ว 2 ครั้งด้วยกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 2 มิ.ย. 2556 นายปลอดประสพ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวที “เพื่อไทย เพื่ออนาคตประเทศไทย” ที่สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี จ.เชียงใหม่ โดยกล่าวถึงการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific Water Summit) และกล่าวถึงผู้เห็นต่างในแผนการจัดการน้ำที่รัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ในขณะนั้น

ทั้งนี้เครือข่ายประชาชนในลุ่มน้ำภาคเหนือและภาคอีสาน ได้ทำหนังสือถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุว่า การปราศรัยของนายปลอดประสพดังกล่าว ใช้วาจาที่ไม่สุภาพเหมาะสม แสดงให้เห็นถึงเจตนาการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่สมควรที่ผู้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีจะกล่าวออกมา มีการใช้วาจาใส่ร้ายสร้างความเสียหาย ข่มขู่ คุกคาม และยั่วยุให้เกิดความรุนแรง เป็นต้น