"ธีระชัย" ชงข้อสงสัยแปรรูป"ปตท." ให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษ หลังถูกฟ้อง!
"ธีระชัย" ปักหลักสู้! ร่อนหนังสือความยาว 16 หน้า ระบุข้อสงสัยการละเว้นปฏิบัติหน้าที่แปรรูป ปตท. รวมถึงส่งคืนสาธารณสมบัติไม่ครบถ้วนกรณีท่อก๊าซธรรมชาติ เผยเปิดชื่อผู้เกี่ยวข้อง หลักฐานประกอบ ละเอียดหยิบ ถึงดีเอสไอ ขอให้รับเป็นคดีพิเศษ หลังถูกฟ้องเป็นจำเลย โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียพาดพิงบริษัทน้ำมันยักษ์ใหญ่เสียหาย พร้อมสำเนาเรื่องถึง "ประยุทธ์-ประธานคตง.-ป.ป.ช." รับทราบ
จากกรณี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้ดำเนินการฟ้องร้องบุคคลหลายราย รวมทั้ง นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในความผิดตามพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ จากกรณีที่โพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดียพาดพิง ปตท. ในทางเสียหาย โดยกล่าวหาว่าปตท. ฉ้อฉล ใช้หลักฐานเท็จ ในคดีคืนท่อก๊าซปตท.ในทะเล นั้น
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 27 เม.ย.58 ที่ผ่านมา นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล ได้ทำหนังสือถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อแจ้งข้อสงสัยว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการแปรรูป ปตท. และข้อสงสัยว่ามีความร่วมมือกันเพื่อทำให้รัฐได้รับสาธารณสมบัติไม่ครบถ้วนกรณีท่อก๊าซธรรมชาติ พร้อมขอให้รับคดีนี้ไว้เป็นคดีพิเศษและทำการสอบสวนอย่างเร่งด่วนต่อไป
ระบุข้อสงสัยใน 2 ประเด็น หรือ กรณีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในการแปรรูป ปตท. ซึ่งพบมีความพยายามของคนบางกลุ่ม ในการไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อหวังผลให้เกิดประโยชน์ต่อราคาหุ้นของบริษัท ปตท.ฯ ภายหลังการแปรรูปเป็นสำคัญ
นอกจากนี้ ยังเป็นประเด็นกรณีการทำให้รัฐได้รับสาธารณสมบัติไม่ครบถ้วนกรณีท่อก๊าซธรรมชาติ โดยมีการกล่าวอ้างถึงหลักฐานสำคัญ ว่ามีความร่วมมือกันของคนบางกลุ่มนำเสนอคณะรัฐมนตรีให้โอนสาธารณสมบัติน้อยกว่าที่กฎหมายบัญญัติ ด้วยรวมถึงมีการหยิบยกผลการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ขึ้นมาใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงข้อมูลบางส่วน อาทิ
"ในวันที่ 2 พ.ค.54 สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ได้ทำหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ ตผ 0023/1935 ถึงปลัดกระทรวงการคลัง โดยสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินย้ำความเห็นว่า มีทรัพย์สินที่อยู่ในบทบัญญติแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ที่ยังโอนไม่ครบถ้วน และแนะนำให้กระทรวงการคลังดำเนินการให้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ส่งมอบและโอนให้กระทรวงการคลังต่อไป และแจ้งด้วยว่าถ้าหากกระทรวงการคลัง ไม่เห็นด้วยกับข้อพิจารณาของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ก็ควรให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นผู้พิจารณาให้มีข้อยุติ ซึ่งเป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2550 แต่ก็ไม่ปรากฎว่ากระทรวงการคลังได้มีการดำเนินการให้บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ส่งมอบและโอนทรัพย์สินเพิ่มเติมให้กระทรวงการคลัง หรือถ้าหากกระทรวงการคลังไม่เห็นด้วยกับข้อพิจารณาของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ก็ไม่ปรากฎว่ากระทรวงการคลังได้ขอให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาให้มีข้อยุติแต่อย่างใด"
ดังนั้น บุคคล ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพลังงาน กระทรวงการคลัง และบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงอาจจะเข้าข่ายเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนการกระทำความผิด โดยพฤติกรรมของผู้ที่เกี่ยวข้องส่อเจตนาเพื่อเอื้อประโยชน์ เกินกว่าที่กฎหมายอนุญาตโดยเล็งผลเพื่อทำให้เกิดผลดีต่อราคาหุ้นของบริษัทดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หนังสือของ นายธีระชัย ที่แจ้งถึงอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มีความยาวกว่า 16 หน้า และมีการสำเนาเรียนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้รับทราบ พร้อมกับ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน และประธานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ด้วย