“บุญทรง”แจงสนช.ขายข้าวจีทูจีไม่เก๊! ลั่นสุจริต-บริษัทตัวแทนจากจีนจริง
“บุญทรง” แจงทุกปมระบายข้าวจีทูจีไม่เก๊! ยันเช็คสถานะแล้วเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ รัฐบาลจีนถือหุ้นจริง อ้างตอน ป.ป.ช. สอบไม่เคยเรียกบริษัทเหล่านั้นมาให้ถ้อยคำ แต่ฟังความข้างเดียว ลั่นทำโดยสุจริต เพื่อผลประโยชน์ของรัฐ ระบุการจ่ายเงินแบบแคชเชียร์เช็คไม่ใช่สาระสำคัญ ขอให้จ่ายครบเป็นพอ
นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ กล่าวตอนหนึ่งคัดค้านการแถลงเปิดคดีถอดถอนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กรณีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ว่า สำหรับการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับบริษัทของจีนนั้น ได้รับรายงานว่าเริ่มต้นจากที่บริษัทของจีน ได้เสนอราคาซื้อข้าวสารในสต็อกของรัฐ และเจรจาซื้อขายข้าว พร้อมแนบหนังสือแสดงสถานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ภายหลังได้รับข้อเสนอ กรมการค้าต่างประเทศ มีหนังสือถึงกรมส่งเสริมการค้าต่างประเทศ และหน่วยงานพาณิชย์ในต่างประเทศ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงของสถานะหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดังกล่าว และขอบเขตการดำเนินธุรกิจ เพื่อยืนยันว่าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจนั้นถือหุ้นโดยรัฐบาลจีน 100 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหน่วยงานควบคุมบริหารทรัพย์สินแห่งรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง และหน่วยงานควบคุมบริหารทรัพย์สินแห่งรัฐบาลมณฑลไห่หนาน ต่างยืนยันว่าเป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจของจีนจริง โดยตามกรอบยุทธศาสตร์การระบายข้าว ให้ระบายข้าวกับรัฐวิสาหกิจได้ ถือเป็นเรื่องปกติที่เคยปฏิบัติกันมา ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ หรือแตกต่างกับรัฐบาลที่ผ่านมาแต่อย่างใด ดังนั้นการซื้อขายสินค้าแบบจีทูจีที่ทำมาในอดีตถึงปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ถูกต้องทั้งสิ้น เหตุใดจะเว้นวรรคให้มาเอาผิดกับรัฐบาลที่ตนปฏิบัติหน้าที่อยู่
“แม้แต่รัฐบาลปัจจุบันก็ขายยางพาราแบบจีทูจีกับไห่หนาน และเป็นการขายที่ต่ำกว่าการรับซื้อจากเกษตรกร และต่ำกว่าราคาตลาดเช่นเดียวกัน นอกจากนี้บริษัทของจีนในฐานะผู้ซื้อไม่เคยได้รับโอกาสจาก ป.ป.ช. ให้เข้ามาชี้แจงข้อเท็จจริง ทราบว่าตัวแทนของบริษัทดังกล่าวมีหนังสือถึง ป.ป.ช. เพื่อชี้แจง แต่ ป.ป.ช. ปฏิเสธที่จะรับฟัง การกระทำดังกล่าวจึงเป็นความยุติธรรมฟังความฝ่ายเดียว ไม่เป็นธรรมอย่างยิ่ง ไม่สมกับผู้ที่ทำหน้าที่อำนวยความยุติธรรม ที่ต้องดำเนินการอย่างเป็นกลาง ไม่เลือกปฏิบัติ” นายบุญทรง กล่าว
นายบุญทรง กล่าวอีกว่า ส่วนการขายข้าวต่ำกว่าราคาที่ฝ่ายไทยเสนอ หรือต่ำกว่าราคารับจำนำข้าวนั้น เมื่อพิจารณาแล้ว การขายข้าวแบบจีทูจี เป็นประโยชน์และระบายข้าวในสต็อกได้มาก ที่สำคัญเกณฑ์ราคาขายได้พิจารณาเทียบเคียงกับราคาส่งออกข้าวของประเทศคู่แข่ง รวมถึงสภาวะของตลาดโลก นอกจากนี้การขายสินค้าเกษตรแบบจีทูจีที่ผ่านมา โดยเฉพาะสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (อดีตนายกรัฐมนตรี) หรือ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ (อดีตนายกรัฐมนตรี) ก็ขายข้าวแบบจีทูจีด้วยราคาต่ำมาก รวมทั้งไม่เคยปรากฏว่า การขายสินค้าเกษตรด้วยวิธีการจีทูจี รัฐบาลเคยได้ราคาที่สูงกว่าราคาตลาดหรือราคาที่เคยรับจำนำ ดังนั้นตนจึงเห็นชอบ และทำสัญญาซื้อขายข้าวกับรัฐวิสาหกิจจากจีน
“ยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวกระทำโดยสุจริต เพื่อผลประโยชน์ของรัฐ ไม่ได้ทำเพื่อประโยชน์ผู้หนึ่งผู้ใด” นายบุญทรง กล่าว
ส่วนการชำระเงินเป็นแคชเชียร์เช็คไม่ใช้วิธีการจ่ายเงินผ่านธนาคาร (L/C) นั้น นายบุญทรง กล่าวว่า การจ่ายเงินด้วยแคชเชียร์เช็คเป็นหนึ่งในวิธีการรับเงิน ซึ่งตกลงกันในสัญญาซื้อข้าวกับหน่วยงานรัฐวิสาหกิจดังกล่าว เมื่อสัญญากำหนดวิธีการนี้ ผู้ซื้อจะเลือกชำระเงินแบบใดก็ได้ จะชำระเงินแบบไหนไม่สำคัญ ขอให้ชำระครบถ้วน ซึ่งพยานจากฝ่าย ป.ป.ช. ก้ได้ให้ถ้อยคำยอมรับในเรื่องนี้ ดังนั้นการชำระเงินด้วยวิธีเปิด L/C ไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะที่ผ่านมามีรัฐบาลผู้ซื้อเปิด L/C แล้วไม่ได้ชำระตามกำหนดก็มี จึงเป็นเหตุผลที่กรมการค้าต่างประเทศชำระราคาสินค้าเป็นแคชเชียร์เช็ค เพราะเราได้รับเงินทันที และได้รับเงินค่าสินค้าอย่างแน่นอน
อ่านประกอบ :
“วิชา”ชำแหละจีทูจีเก๊ถอด“บุญทรง-พวก”ต่อสนช.-ยันไม่มีระบายข้าวจริง
มติ สนช.ไม่อนุญาต“มนัส”ขอหลักฐานเพิ่มสู้คดีจีทูจีเก๊-แถลงเปิด 23 เม.ย.
“วิชา”นำทีมป.ป.ช.แถลงเปิดคดีจีทูจีเก๊ต่อสนช.ถอดถอน“บุญทรง-ภูมิ-มนัส”
ป.ป.ช.ขีดเส้นต้น เม.ย.ส่งสำนวนจีทูจี“บุญทรง”เพิ่ม-ร้อยบริษัทโดนกราวรูด
อัยการยื่นฟ้อง"บุญทรง-พวก"คดีจีทูจีแล้ว โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต-ปรับ3.5หมื่นล.