“วิชา”ชำแหละจีทูจีเก๊ถอด“บุญทรง-พวก”ต่อสนช.-ยันไม่มีระบายข้าวจริง
“วิชา” ชำแหละระบายข้าวจีทูจีเก๊! ถอดถอน “บุญทรง-ภูมิ-มนัส” ต่อสนช. ยันพบพิรุธมาก ไม่มีการขายข้าวให้ตัวแทนต่างประเทศโดยตรง ไม่มีการชำระราคา ไม่มีการส่งออกข้าวจริง แต่กลับนำมาหมุนเวียนในประเทศ เพิ่มความเสียหายเท่าทวีคูณ ส่งผลกระทบต่อประเทศร้ายแรง
ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org รายงานว่า เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2558 มีการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพื่อแถลงเปิดสำนวนคดีถอดถอนนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ นายภูมิ สาระผล อดีต รมช.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรณีถูกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ โดยมีนายวิชา มหาคุณ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้แถลงคัดค้าน
โดยนายวิชา กล่าวว่า วิธีการระบายข้าวตามยุทธศาสตร์ของคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ถือว่าการระบายข้าวแบบจีทูจีเป็นการขายให้กับผู้แทนของหน่วยงานรัฐ หรือหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลของทุกประเทศ ซึ่ง ส.ส. รวมทั้งนักวิชาการ สื่อมวลชน และประชาชน ได้มีหนังสือ มีการอภิปราย และแสดงความคิดเห็นทักท้วงปัญหาการทุจริต ชี้ให้เห็นว่าการค้าขายี่มิใช่เป็นการค้าแบบจีทูจีอย่างแท้จริง มีข้อพิรุธผิดปกติมาก ไม่มีการขายข้าวให้กับตัวแทนหรือผู้มอบหมายจากต่างประเทศโดยตรง ไม่มีการชำระราคาจากตัวแทนหรือผู้รับมอบหมายจากต่างประเทศ ที่สำคัญไม่มีการส่งออกข้าวแบบจีทูจีไปต่างประเทศ ตามประเพณีมีการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีจริง
นายวิชา กล่าวอีกว่า ส่วนการจำนำข้าวเปลือกตามกระบวนการที่อ้างว่าขายในรูปแบบจีทูจี ถือได้ว่าผิดวิธีมาตั้งแต่ต้นที่มีการจำนำข้าวเปลือกในราคาสูงกว่าราคาท้องตลาดมาก เมื่อนำไปสีเป็นข้าวสารนำขายท้องตลาดปกติ ก่อให้เกิดผลขาดทุนเป็นจำนวนมาก และเมื่อพิจารณาการระบายข้าวในรูปแบบจีทูจี มีการกำหนดราคาขายข้าวให้ต่ำกว่าปกติ เพราะเป็นการขายในราคามิตรภาพ หากเป็นการส่งออกโดยตรง ย่อมมีผลกระเทือนต่อการขายข้าวภายในมากมายนัก แต่เมื่อกล่าวอ้างว่าเป็นการขายแบบจีทูจี ซึ่งที่จริงแล้วเป็นการขายเพื่อเวียนในประเทศ ย่อมเพิ่มมูลค่าความเสียหายเป็นเท่าทวีคูณให้แก่โครงการรับจำนำข้าวเปลือก ที่อาศัยงบประมาณแผ่นดิน อันเป็นเงินภาษีของประชาชน มาเป็นทุนหมุนเวียนโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพิ่มมากขึ้นอีก และส่งผลกระทบต่อประเทศอย่างร้ายแรง
นายวิชา กล่าวด้วยว่า เมื่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณารายงานและสำนวนการไต่สวนข้อเท็จจริงทั้งหมด จึงมีมติชี้มูลความผิดนายภูมิ ร่วมกับนายบุญทรง นายมนัส พร้อมพวกซึ่งเป็นข้าราชการระดับสูง นักธุรกิจ และภาคเอกชน รวม 21 ราย มีส่วนร่วมวางแผนในการทุจริตทุกขั้นตอนดังกล่าว โดยแบ่งหน้าที่กันทำเป็นขั้นตอน ร่วมกันเอาบริษัทจีน 2 บริษัท ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน มาทำสัญญาซื้อขายข้าวแบบจีทูจีกับกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ โดยอ้างว่า 2 บริษัทดังกล่าวเป็นผู้แทนจากจีน ซึ่งไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด และ 2 บริษัทนี้ไม่ใช่หน่วยงานวัตถุประสงค์ในการขายข้าวโดยตรงของจีน เพราะหน่วยงานที่จีนตั้งขึ้นคือ COFGO พร้อมยืนยันว่าหากไม่ใช่ COFGO ไม่สามารถทำข้อตกลงใด ๆ กับรัฐบาลต่างประเทศได้
อ่านประกอบ :
มติ สนช.ไม่อนุญาต“มนัส”ขอหลักฐานเพิ่มสู้คดีจีทูจีเก๊-แถลงเปิด 23 เม.ย.
“วิชา”นำทีมป.ป.ช.แถลงเปิดคดีจีทูจีเก๊ต่อสนช.ถอดถอน“บุญทรง-ภูมิ-มนัส”
ป.ป.ช.ขีดเส้นต้น เม.ย.ส่งสำนวนจีทูจี“บุญทรง”เพิ่ม-ร้อยบริษัทโดนกราวรูด
อัยการยื่นฟ้อง"บุญทรง-พวก"คดีจีทูจีแล้ว โทษสูงสุดคุกตลอดชีวิต-ปรับ3.5หมื่นล.