ย้ำ“นายกฯคนนอก”ใช้ตอนวิกฤติ! “บวรศักดิ์”เห็นด้วยข้อเสนอกมธ.การเมือง
“บวรศักดิ์” ย้ำหลายรอบ! รธน. เปิดช่อง “นายกฯคนนอก” ใช้ตอนวิกฤติเท่านั้น ป้องใช้มาตรา 7 รบกวนเบื้องพระยุคลบาท ขออย่านึกแต่ปี 2535 ให้ดูตัวอย่างปี 2549-2557 ด้วย เห็นด้วย กมธ.การเมือง ชงหากเลือกนายกฯไม่ได้ใน 1 เดือนหลังเปิดประชุมสภา ให้เอาเสียงข้างมาก ไม่ต้องถึง 2 ใน 3
นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวตอนหนึ่งระหว่างสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญ กรณีที่มาของนายกรัฐมนตรีที่ สปช. หลายคนกังวลจะมีการเปิดทางให้คนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่งว่า สาเหตุที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญเช่นนั้น เนื่องจากหากเกิดวิกฤตต้องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความอีกเป็นเดือน ต้องเสียเลือดเสียเนื้ออีกเท่าไหร่ เกิดวิกฤตซ้อนวิกฤต คือต้องตีความ ดังนั้นเลยเขียนไว้ว่า หาก ส.ส. 450 คน เอาคนที่ไม่ใช่ ส.ส. เป็นนายกรัฐมนตรี ถ้าเกิดวิกฤตทางตันจริง ๆ ก็ไปเอาคนนอกมาได้ แต่ถ้ายุบสภาแล้ว ส.ส. ทำหน้าที่ไม่ได้ ก็ให้ ส.ว. ทำแทนไป ที่เขียนไว้เพราะเป็นข้อยกเว้นที่คงไม่เกิดขึ้นบ่อย ๆ แต่กลับไปพูดกันจนกลายเป็นหลัก และไปพูดว่าเป็นนายกรัฐมนตรีคนนอก
“ถ้าไม่เขียนอย่างนี้จะเกิดจุดเสี่ยง คือจุดเสี่ยงนำไปสู่การที่ออกจะต้องไปพูดมาตรา 7 เป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท หรือไม่ก็ต้องยกเลิกรัฐธรรมนูญอีก กมธ.ยกร่างฯ พิจารณาดูแล้วอย่าให้ถึงขั้นยกเลิกรัฐธรรมนูญเลย จึงเปิดโอกาสเอาไว้” นายบวรศักดิ์ กล่าว
นายบวรศักดิ์ กล่าวอีกว่า สปช. หลายท่านพูด พูดตั้งแต่วันแรก และเมื่อวานนี้ก็มาพูดตอนเย็น ถึงขนาดเปรียบเปรยว่าทำไมต้องกางร่มในห้องนอน แต่นี่เป็นการเตรียมร่มไว้ในบ้าน ไม่ใช่เอามากางในห้องนอน ถ้าฝนตก แล้วออกไปข้างนอก ได้กางร่มได้ อย่าเปียก ด้วยเหตุนี้ จึงไม่ใช่นายกรัฐมนตรีคนนอก เป็นคนในทั้งสิ้น นายกรัฐมนตรีต้องเป็น ส.ส. อยู่แล้ว จากเสียงของ ส.ส. 450 คน และพรรคการเมืองก็ต้องเอาหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว เหมือนที่ สปช. ต้องเลือกคน 20 คนมาดำรงตำแหน่ง กมธ.ยกร่างฯ
นายบวรศักดิ์ ยังกล่าวถึงกรณีที่นายสมบัติ ธำรงธัญวงศ์ ประธาน กมธ.ปฏิรูปการเมือง ที่อภิปรายร่างรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 21 เม.ย. 2558 ด้วยว่า ข้อทักท้วงของ กมธ.ปฏิรูปการเมือง น่าฟัง กมธ.ยกร่างฯ จะนำไปปรับใช้ คือที่บอกว่า ในมาตรา 173 กรณีพ้น 30 หลังจากการประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ไม่ปรากฏบุคคลใดมีคะแนนเสียงเกิน 2 ใน 3 ให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้สามารถนำบุคคลที่มีคะแนนเสียงสูงสุดทูลเกล้าฯขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ซึ่งเป็นช่องว่างให้คนนอกเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้ ดังนั้นจะไปเขียนให้เลยว่า ส.ส. คนใดได้เสียงข้างมากจะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ แต่ถ้ากรณีไม่ใช่ ส.ส. จะต้องใช้คะแนนเสียง 2 ใน 3 เช่นเดิม จะใช้หลักเสียงข้างมากปกติเหมือนที่เลือก ส.ส. ไม่ได้
“เพราะฉะนั้น อดีตที่ขมขื่น อย่านึกถึงแค่ปี 2535 ต้องนึกถึงปี 2549 และ 22 พ.ค. 2557 ด้วย ประเด็นนายกฯคนนอกจึงขอตอบแค่นี้” นายบวรศักดิ์ กล่าว
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายบวรศักดิ์ จาก aecnews