"เนวิน" ยัน"บุรีรัมย์ยูไนเต็ด" ไม่เคยรับเงิน"อบจ."ขนคนเดินสายเชียร์ 20 ล.
"บุรีรัมย์ยูไนเต็ด" ร่อนหนังสือแจง "อิศรา" ปม "อบจ.บุรีรัมย์"ควักเงิน 20 ล. ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์แข่งฟุตบอลบอลจังหวัดต่างๆ ประมาณ 500-4,950 คน รวม 16 ครั้ง ยันไม่เคยได้รับเงินอุดหนุน-ด้าน "สตง." ชง "คตง." พิจารณาผลการตรวจสอบเป็นทางการแล้ว
จากกรณีปรากฎข้อมูลว่าสำนักตรวจเงินแผ่นดินจังหวัดบุรีรัมย์ ได้สรุปผลการตรวจสอบงบการเงินของ องค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ พบว่ามีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน ถือเป็นการใช้จ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากเป็นการให้เงินสนับสนุนแก่เอกชน ไม่ใช่การใช้เงินเพื่อดูแลและจัดทำบริการสาธารณเพื่อประโยชน์ของประชาชนในท้องถิ่น ไม่อยู่ในอำนาจหน้าที่ของ อบจ.บุรีรัมย์ ตามพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัด พ.ศ.2540 มาตรา 45 ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้ว
(อ่านประกอบ: พบอบจ.บุรีรัมย์ควักเงิน20ล.ช่วย "ขนคน" เดินสายเชียร์ "บุรีรัมย์ยูไนเต็ด")
ล่าสุด นายทองเจือ ชาติกิจเจริญ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและสื่อสาร บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ได้ทำหนังสือชี้แจงข้อเท็จจริงข่าวระบุว่า ตามที่สำนักข่าวอิศรา เสนอข่าวสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ตรวจพบ อบจ.บุรีรัมย์ จ่ายเงินอุดหนุนให้แก่สมาคมกีฬาจังหวัดบุรรีรัมย์ เป็นค่าใช้จ่ายพาแฟนบอลไปเชียร์ทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เป็นการจ่ายเงินที่ไม่ถูกต้อง ขัดกฎหมาย นั้น
สโมสารบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ขอเรียนชี้แจงว่าสโมสรบุรีรัมย์ และบริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนและเงินใดๆ จาก อบจ.บุรีรัมย์ มาก่อน
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ และนำเสนอข่าวให้ประชาชนทราบด้วย จักขอบพระคุณยิ่ง (ดูหนังสือชี้แจงท้ายข่าว)
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่า ในการตรวจสอบของสตง.บุรีรัมย์ พบว่า อบจ.บุรีรัมย์ มีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุน จำนวน 20 ล้านบาท ให้สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนร่วมชมและเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ดที่เดินทางไปแข่งขันตามจังหวัดต่างๆ รวม 16 ครั้ง ครั้งละประมาณ 500-4,950 คน มิได้มีการระบุว่า จ่ายเงินให้กับสโมสรบุรีรัมย์ และบริษัทบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด ตามข้อมูลที่ทางบริษัทฯ ทำหนังสือชี้แจงมาแต่อย่างใด
ขณะที่นายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดแถลงข่าวกรณีที่มีข่าวออกมาว่า สตง.บุรีรัมย์ พบการเบิกจ่ายเงินจำนวน 20 ล้านบาท จาก อบจ.บุรีรัมย์ ให้ สมาคมกีฬาจังหวัดบุรีรัมย์ ใช้ในการเดินทางของกองเชียร์บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ตามจังหวัดต่างๆ ว่า ตนเองไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ และสโมสรไม่เคยนำเงินดังกล่าวมาใช้อย่างแน่นอน
"ในนามของสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หรือ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ผมต้องขอเรียนชี้แจงว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆจาก อบจ.บุรีรัมย์ และไม่เคยได้รับเงินอุดหนุนใดๆจากสมาคมกีฬาจังหวัด"
"ตั้งแต่เราก่อตั้งสโมสรมา รายได้หลักของเรามาจาก ค่าบัตรผ่านประตู สปอนเซอร์ ซึ่งตรวจสอบได้จาก งบดุลบัญชี ที่บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้ส่งให้สรรพากรในทุกๆ ปี เราไม่เหมือนสโมสรอื่นๆ เราไม่เคยรับเงินใดๆ จากทางสมาคมกีฬา เราไม่เคยรับเงินอุดหนุนใดๆ จากอบจ.จังหวัด เรายืนอยู่บนลำแข้งของเราเอง"
ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าได้มีการนำเงินจากอบจ.บุรีรัมย์แล้วนำไปใช้ในการเดินทางของกองเชียร์จริงหรือไม่ เนวิน ตอบว่า "สโมสรไม่เคยรับรู้และไม่เคยเกี่ยวข้องกับเรื่องเหล่านี้เลย อย่างที่บอกว่ารายได้ทั้งหมดของเราสามารถตรวจสอบได้จากงบดุลที่นำเสนอต่อสรรพากรบุรีรัมย์"
ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอิศรา ตรวจสอบพบว่า นายไชยชนก ชิดชอบ (ลูกชายคนโตของนายเนวิน ชิดชอบ ประธานบริหารสโมสรฟุตบอลบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กับ นางกรุณา ชิดชอบ ภรรยาซึ่งดำรงตำแหน่งเป็นนายก อบจ.บุรีรัมย์) ปัจจุบันปรากฎรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ บริษัท บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จำกัด แจ้งจดทะเบียนเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2555 ทุนปัจจุบัน 55 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 2159/8 ถนนพหลโยธิน แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจสโมสรฟุตบอล (บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด)
รายชื่อผู้ถือหุ้น ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 มีจำนวน 4 คน นายไชยชนก ชิดชอบ ถือหุ้นใหญ่สุด 479,800 หุ้น มูลค่า 47,980,000 บาท นาย กนกศักดิ์ ปิ่นแสง ถืออยู่ 50,000 หุ้น มูลค่า 5,000,000 บาท นาย วินิจ เลิสรัตนชัย ถืออยู่ 20,000 หุ้น มูลค่า 2,000,000 บาท และ นาย โสฬส วรรณโกวิท ถืออยู่ 200 หุ้น มูลค่า 20,000 บาท
(อ่านประกอบ : เปิดตัวหุ้นใหญ่“บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ไฉน!ไร้ชื่อ “เนวิน ชิดชอบ” ,
"ทายาทเนวิน" รุกธุรกิจไฟฟ้า! หลังบุรีรัมย์ยูไนเต็ดโกยรายได้ล่าสุด 405 ล.)
ล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้ง สตง.ว่า สตง.ได้รับทราบผลการตรวจสอบข้อมูลเรื่องนี้ จาก สตง.บุรีรัมย์ ตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม 2558 และมีการนำเสนอเรื่องให้คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน (คตง.) พิจารณาแล้ว ซึ่งในเร็วๆ นี้ นายชัยสิทธิ์ ตราชูธรรม ประธาน คตง. จะเปิดแถลงข่าวผลการตรวจสอบต่อสาธารณชนเป็นทางการอีกครั้ง
(หนังสือชี้แจง)