สธ.ตื่นโฆษณาเตือนคนไทยแห่ฝังแร่รักษามะเร็งที่จีน
สมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาฯ ออกคำแนะนำสำหรับบุคลากรสุขภาพ เมื่อพบผู้ป่วยที่มีประวัติไปฝังแร่ชนิดถาวรจากจีน ควรแจ้งแพทย์ผู้รักษา-เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสีทราบ เพื่อทำการวัดปริมาณรังสีที่ระยะ 1 เมตรจากตัวผู้ป่วย
จากกรณีปัจจุบันมีผู้ป่วยมะเร็งจำนวนหนึ่ง ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ไปรักษาด้วยการฝังแร่งชนิดถาวร เช่น การฝังแร่กัมมันตรังสีไอโอดีน-125 (I-125)ที่ประเทศจีน และเมื่อเดินทางกลับมา ได้รับการตรวจวัดปริมาณรังสีในร่างกายเกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อเด็ก สตรีมีครรภ์ คนในครอบครัว และบุคลากรสุขภาพที่ให้การดูแลรักษาใกล้ชิดเป็นเวลานาน
ล่าสุด มีรายงานด้วยว่า กระทรวงสาธารณสุข โดยนายแพทย์สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มอบให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แจ้งโรงพยาบาลรักษามะเร็งแห่งหนึ่ง ประเทศจีนและทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) และขอรายชื่อ ผู้ป่วยที่เดินทางไปรักษา ที่จีน และให้กรมการแพทย์ออกมาตรการดูแลผู้ป่วยในประเทศ พร้อมเตือนประชาชน และจัดทำแอฟพลิเคชั่น รู้ทันมะเร็ง
ก่อนหน้านี้ สมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทย ได้ออกคำแนะนำสำหรับบุคลากรสุขภาพ เมื่อพบผู้ป่วยที่มีประวัติไปฝังแร่ชนิดถาวรจากประเทศจีน ควรแจ้งแพทย์ผู้รักษาและเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสีของโรงพยาบาลทราบ เพื่อทำการวัดปริมาณรังสีที่ระยะ 1 เมตรจากตัวผู้ป่วย
พร้อมกับออกคำแนะนำสำหรับประชาชน ดังนี้
1.ผู้ป่วยต้องไม่อยู่ใกล้กับสตรีมีครรภ์และเด็ก เป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะในช่วงเดือนแรก
2.ในช่วงหนึ่งเดือนแรกควรให้ผู้ป่วยแยกพักต่างหาก ไม่ควรพักรวมกับบุคคลอื่น ยกเว้นกรณีที่ผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
3.ในกรณีที่เข้ารับการรักษาต่อเนื่องในโรงพยาบาลผู้ป่วยต้องแจ้งให้โรงพยาบาลทราบว่าผู้ป่วยได้รับการรักษาโดยการฝังแร่ไอโอดีน - 125
4.กรณีที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ญาติผู้ป่วยจะต้องแจ้งแพทย์ผู้ให้การรักษา เพื่อขอคำแนะนำในการดำเนินการเพื่อความปลอดภัย
5.กรณีการฝังศพ สามารถดำเนินการฝังได้ โดยให้ดำเนินการตามข้อแนะนำ ของทางโรงพยาบาล
6.กรณีการฌาปนกิจศพสามารถดำเนินการได้ หากฝังแร่ไอโอดีน - 125 มาไม่น้อยกว่า 1 ปี หากไม่สามารถทำได้ ผู้ที่เก็บอัฐิหรือเถ้ากระดูกหลังจากการฌาปนกิจศพ ควรสวมหน้ากากและถุงมือ เพื่อป้องกันอันตรายจากรังสี โดยอัฐิและเถ้าถ่านที่เหลือควรจัดเก็บไว้ในภาชนะโลหะอย่างน้อย 1 ปี
7.ไม่ควรแพร่กระจายอัฐิสู่สิ่งแวดล้อม จนกว่าระยะเวลาผ่านไปประมาณ 20 เดือน
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า กรณีมีผู้ป่วยฝังแร่รักษามะเร็งจากประเทศจีนนั้น ปัจจุบันมีการโฆษณา เรื่องการรักษามะเร็ง ที่โรงพยาบาลรักษามะเร็งแห่งหนึ่ง ประเทศจีน โดยมีการเปิดสำนักงานที่กรุงเทพ และมีแพทย์ชาวจีน ให้คำแนะนำ มีการโฆษณาทางทีวี อินเตอร์เน็ต และสื่อต่างๆ มากมาย รวมทั้งมีการโฆษณาว่ารักษามะเร็งฟรี เพื่อเฉลิมพระเกียรติฯ อีกด้วย
มีการคาดกันว่า คนไทยที่ป่วยเป็นมะเร็งสนใจเข้าไปรักษาจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 500 คน โดยมีการจัดบริการบินไปส่งเพื่อรักษาที่เมืองจีน และพากลับมาเมืองไทย โดยแร่ที่ฝังคือ I-125 มีค่าเวลาที่สารกัมมันตรังสีใช้ในการสลายตัวเหลือครึ่งหนึ่งของที่มีอยู่เดิม (halflife) 60 วัน
มีรายงานด้วยว่า โรงพยาบาลศิริราช แจ้งว่า มีผู้ป่วยหลายราย มีปริมาณรังสี แพร่กระจายออกมาทางผิวหนังมาก เนื่องจากฝังแร่หลายจุด
ขณะที่บุคคลากรทางการแพทย์ของไทย ไม่ได้ป้องกันต่อ I-125 เนื่องจาก ผู้ป่วยไม่บอก หมอผ่าตัดหลายรายสัมผัสโดยไม่รู้ตัว รวมไปถึงคนในครอบครัวมีโอกาสสัมผัสได้
ในส่วนของทางการไทยก็ไม่สามารถดำเนินการกับสถานพยาบาลแห่งนี้ ได้ เนื่องจากผู้ป่วยไปรักษาที่จีน แพทยสภาไม่สามารถทำอะไรได้ อีกทั้งเมื่อผู้ป่วย ฝังแร่ I-125 แล้ว เอาออกไม่ได้ ยิ่งเมื่อผู้ป่วยเสียชีวิต สารกัมมันตภาพรังสียังอยู่ในศพ และเถ้ากระดูก