“อรรถวิชช์”ขู่ฟ้องกลับ“สีหนาท”ปมอายัดทรัพย์“แม่”-ยันบริสุทธิ์ 100%

“อรรถวิชช์” ขู่ฟ้องกลับ “สีหนาท” เลขาฯ ปปง. ปมอายัดทรัพย์ “แม่” ยันไม่ใช่การโกงเงิน แต่ปล่อยสินเชื่อแล้วลูกค้าไม่คืน ลั่นใช้กฎหมาย ปปง. ดำเนินคดีไม่ได้ เชื่อ “แม่” บริสุทธิ์ 100%

จากกรณีคณะกรรมการธุรกรรม สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มีมติให้อายัดทรัพย์สินนางภคินี สุวรรณภักดี มารดา นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ จำนวน 300 ล้านบาท กรณีถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สถาบันทางการเงิน โดย พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการ ปปง. เตรียมแถลงรายละเอียดในวันที่ 10 เมษายน 2558 เวลา 14.00 น. นั้น

ล่าสุด นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ให้สัมภาษณ์สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ถึงกรณีที่นางภคินี (มารดา) อดีตรองกรรมการผู้จัดการสายสินเชื่อ ธนาคารมหานคร โดนดำเนินคดีข้อหายักยอกทรัพย์สิน ว่า ยอมรับว่าคดีดังกล่าวขาดอายุความจริง ส่วนคดีแพ่งเราชนะ โดยที่ ปปง. กับธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) รับรู้ว่านางภิคินีปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า มันไม่ใช่การยักยอก เป็นเรื่องการจัดการ แต่ ปปง. กลับเลือกที่จะใช้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยการรื้อคดีนี้ขึ้นมาทำใหม่

“บอกเลยว่า ไม่มีทรัพย์มาเกาะติดที่เรา การที่เขาจะดำเนินคดี ซึ่งเป็นคดีเก่า ค้างมาตั้งแต่รัฐบาลที่แล้ว ต้องสู้ในชั้นศาล และงานนี้มีฟ้องร้องแน่นอน” นายอรรถวิชช์ กล่าว

เมื่อถามว่า หมายถึงฟ้องร้อง พ.ต.อ.สีหนาท ใช่หรือไม่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ใช่ แต่จะฟ้องเพิ่มอีกกี่คนยังไม่ขอเปิดเผย แต่ยืนยันว่ามีการฟ้องดำเนินคดีในเรื่องนี้อย่างแน่นอน

เมื่อถามว่า ยืนยันความบริสุทธิ์ของนางภิคินีใช่หรือไม่ นายอรรถวิชช์ กล่าวว่า ยืนยันแน่นอน 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะเป็นการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า แต่ลูกค้าไม่ได้คืนนางภคินี ไม่ใช่เป็นการปล่อยให้ตัวเอง ไม่ใช่การยักยอกเงินแบบคดีอื่น ๆ แต่เราปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้า แล้วลูกค้าเกิดวิกฤติการณ์ปี 2540 แล้วเขาไม่คืน แล้วจะใช้กฎหมาย ปปง. ได้อย่างไร นี่ไม่ใช่การโกง เพราะเงินไม่ได้กลับคืนมาที่นางภคินี

"ผมติดใจคดีนี้มาก เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องธนาคารปล่อยกู้แต่ลูกค้าไม่สามารถคืนได้ เพราะธุรกิจเสียหายจากวิกฤติปี 2540 ไม่ใช่ว่าคุณแม่โกงปล่อยกู้เอาเงินมาใช้เอง ปปง. ก็รู้ว่าเงินไม่ได้มาที่เรา แต่กลับจะดำเนินคดีให้ได้ ผมพร้อมสู้คดีแน่" นายอรรถวิชช์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางภคินี เป็นอดีตรองกรรมการผู้จัดการสายสินเชื่อ ธนาคารมหานคร ที่ถูกกล่าวหาว่ายักยอกทรัพย์สินในช่วงที่เป็นผู้บริหารธนาคารมหานคร ด้วยการปล่อยกู้ให้กับบริษัท แสงสงวนพาณิชย์ โดยใช้หลักทรัพย์ไม่พอเพียงกับหลักประกันเงินกู้ 4.1 พันล้านบาท ทำให้ธนาคารเสียหายจนต้องปิดกิจการ ซึ่งธนาคารดังกล่าว รัฐบาลได้นำเงินภาษีมาช่วยเหลือเพื่อให้มีสภาพคล่อง ต่อมามีการออกหมายจับนางภคินีในคดีอาญา แต่นางภคินีหลบหนี และคดีเพิ่งหมดอายุความเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2555