เกษตรฯ หนุนงบฯ 2 พันล้าน ช่วยเกษตรกรส่งเสริมการผลิต
เกษตรฯ หนุนงบกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรกว่า 2 พันล้าน ผ่านสหกรณ์/กลุ่มสหกรณ์ เร่งแก้วิกฤตโคเนื้อขาดแคลน สร้างกลไกตลาดเกลือทะเล เปิดช่องเกษตรกรเข้าถึงปัจจัยการผลิต เตรียมเสนอครม.เห็นชอบสัปดาห์หน้า
นายชวลิต ชูขจร ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า จากผลการประชุมคณะกรรมการสงเคราะห์เกษตรกรที่ผ่านมา ที่ประชุมมีมติเห็นชอบสนับสนุนเงินทุนจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรในเรื่องการส่งเสริมการผลิต จำนวนเงิน 2,067.70 ล้านบาท ให้กับสถาบันเกษตรกร (สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนเมษายน 2558 จำนวน 3 โครงการ ได้แก่
1.โครงการฟาร์มโคเนื้อสร้างอาชีพ วงเงิน 1,005.2 ล้านบาท
2.โครงการสร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของสถาบันเกษตรกรด้วยวิธีการยกระดับราคาให้ยั่งยืน วงเงิน 52.50 ล้านบาท
3. โครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาด วงเงิน 1,010 ล้านบาท
สำหรับโครงการฟาร์มโคเนื้อสร้างอาชีพ ปลัดกระทรวงเกษตรฯ ระบุว่า กรอบระยะเวลาดำเนินงาน 7 ปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2558 – 2567 เป็นโครงการบูรณาการงานร่วมกันของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงเกษตรฯ โดยมีเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อสหกรณ์ และกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน โดยใช้งบประมาณจากกองทุนสงเคราะห์เกษตรกรจำนวน 1,005.2 ล้านบาท ในการจัดหาปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร ได้แก่ แม่โคเนื้อพันธุ์ดี โรงเรือน และการจัดการอาหารสัตว์ ผ่านการกู้ยืมเงินของสหกรณ์หรือกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคเนื้อที่เป็นสมาชิก ในวงเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำปลอดการชำระหนี้เงินต้นและดอกเบี้ยในช่วงระยะเวลา 3 ปีแรก และกำหนดระยะเวลาเริ่มคืนเงินในปีที่ 4 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างอาชีพการเลี้ยงโคเนื้อให้แก่สมาชิกสหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร 4,000 ราย เพิ่มแม่โคเนื้อพันธุ์ดี 20,000 ตัว
ขณะเดียวกัน เกษตรกรยังมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการนำมูลโคไปผลิตปุ๋ยอินทรีย์และก๊าซชีวภาพเพื่อใช้ในการผลิตภาคเกษตร ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาขาดแคลนโคเนื้อแม่พันธุ์ ที่ถือเป็นนโยบายเร่งด่วนของกระทรวงเกษตรฯ ในการเพิ่มจำนวนโคเนื้อในประเทศไทยซึ่งลดลงอย่างมากในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จาก 8.03 ล้านตัว ในปี 2549 เหลือเพียง 4.31 ล้านตัว เนื่องจากปริมาณความต้องการที่เพิ่มขึ้นทั้งในและต่างประเทศ ทั้งยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหาร ลดการนำเข้า และเป็นแหล่งวัตถุดิบผลิตปุ๋ยอินทรีย์และพลังงานทดแทนให้แก่เกษตรกรด้วย
นายชวลิต กล่าวด้วยว่า ขณะที่โครงการสร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลของสถาบันเกษตรกร ด้วยวิธีการยกระดับราคาให้ยั่งยืน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์ วงเงิน 52.50 ล้านบาท มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สหกรณ์/กลุ่มเกษตรกร เป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหาราคาเกลือที่ตกต่ำในช่วงปริมาณผลผลิตมาก ซึ่งอยู่ในช่วงเดือนมีนาคม – พฤษภาคม และสร้างกลไกต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลางให้กับสมาชิกสหกรณ์ผู้ผลิตเกลือ 297 ราย 3 สหกรณ์ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม และจังหวัดเพชรบุรี ปริมาณเกลือ 26,250 เกวียน ซึ่งโครงการดังกล่าวจะส่งผลให้เกษตรกรจะมีรายได้เพิ่มขึ้นไม่น้อยกว่า 13,125,00 บาท หรือเฉลี่ยรายได้ที่เพิ่มขึ้น ครอบครัวละ 44,491.53 บาท
ส่วนโครงการสุดท้าย คือ โครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาด ของกรมส่งเสริมสหกรณ์ ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (ปี 2558 - 2563) วงเงิน 1,010 ล้านบาท เพื่อกลุ่มเกษตรกรไปจัดหาปัจจัยการผลิตทางการเกษตร ปุ๋ย พันธุ์พืช พันธุ์สัตว์ ฯลฯ จำนวน 2,000 กลุ่ม ส่งผลให้กลุ่มเกษตรกรในการรวมซื้อ-ขาย ทำให้ลดต้นทุนการผลิต และรายได้เพิ่มขึ้น ในอนาคตกลุ่มมีความเข้มแข็ง ช่วยเหลือตนเองและสมาชิกได้
ทั้งนี้ โครงการสร้างระบบการผลิตและการตลาดเกลือทะเลฯ หลังคณะกรรมการฯ อนุมัติกรอบวงเงินสามารถดำเนินการได้ทันที เนื่องจากอยู่ในวงเงินจำนวนไม่เกิน 100 ล้านบาท ขณะที่อีก 2 โครงการ คือ โครงการฟาร์มโคเนื้อสร้างอาชีพ และโครงการสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเกษตรกร เพื่อเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการผลิตและการตลาด ซึ่งวงเงินเกิน 100 ล้านบาท จะต้องเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติซึ่งคาดว่าจะเข้าสู่ที่ประชุมครม.ในสัปดาห์หน้าต่อไป.
ภาพประกอบ:secretary.dld.go.th