เอ็นจีโอซัดกองสลาก “ผุดบ่อนบาป” สูบเลือดคนจน
เอ็นจีโอออกโรงจวกกองสลาก “ผุดบ่อนทุ่งกุลา หาช่องสูบเลือดคนจน” เดินตามก้นต่างชาติ ไม่สนปัญหาสังคม เยาวชนชี้นักการเมือง-นายทุนรวมหัวดันกาสิโน ย้ำสังคมไทยยังไม่พร้อมรับมือธุรกิจสีเทา เตรียมบุกคลังทำพิธีฌาปนกิจสาปส่งเอ็นเตอร์เทนเม้นคอมแพล็ก 30 ก.ย.นี้
นายธนากร คมกฤส ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวถึงกรณีนายวันชัย สุระกุล ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (กองสลาก) เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล พ.ศ.2517 เพื่อให้มีการดำเนินการก่อสร้างกาสิโนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ หรือ “โครงการเอ็นเทอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์” ว่ากระบวนทรรศน์บาปของรัฐไทยที่คิดวนเวียนอย่างนี้มาหลายยุคหลายสมัย ไม่แก้ปัญหาของประเทศชาติ แต่กลับมีเบื้องหลังแสวงประโยชน์ให้กลุ่มนายทุน ที่มักโยงใยไม่พ้นนักการเมือง และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
หากรัฐบาลยังเดินหน้าโครงการนี้นี้ต่อไป สังคมคงต้องตั้งคำถามกับนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของไทย ที่ถูกคาดหวังว่ามีความเป็นสุภาพสตรี มีความเป็นแม่ และความอ่อนโยนว่าจะจัดการปัญหานี้อย่างไร ไม่อยากให้แนวคิดของบางหน่วยงานที่หิวเงินทำความแปดเปื้อนถึงรัฐบาล
นายธนากร กล่าวอีกว่าคำพูดที่ออกจากปาก ผอ.สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ถือเป็นความคิดที่น่าเป็นห่วง แสดงความหิวเงินโดยไม่คำนึงมนุษย์ วิธีคิดเช่นนี้จึงเกิดอาการตาโต เห็นแทบทุกอย่างในประเทศสร้างมูลค่าเป็นตัวเงินได้โดยไม่เคยเอ่ยถึงความพร้อมเชิงสังคมว่าเพียงพอที่จะรับมือกับธุรกิจสีเทานี้หรือไม่
“การหิวเงินที่คิดอยู่บนฐานการหารายได้จากผู้อ่อนแอในสังคม มาจากการขายฝันขององค์กรรัฐอย่างสำนักงานสลากกินแบ่ง ด้วยความเคยชินว่า การหาเงินจากคนยากจนเป็นเรื่องง่าย ขณะที่แนวคิดที่จะหาเงินจากคนรวย โดยการเก็บภาษีที่ดิน ภาษีมรดก หรือการใช้อัตราภาษีก้าวหน้า หรือการเพิ่มสัดส่วนของรายได้รัฐจากการเก็บภาษีทางตรงต่างๆ กลับเป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยไม่คิดจะทำ” นายธนากร กล่าว
ผู้ประสานงานเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน กล่าวต่ออีกว่าจากการสำรวจความคิดเห็นเด็กและเยาวชนชายในศูนย์ฝึกฯบ้านกาญจนาภิเษกทั้งหมด 189 รายพบว่า เยาวชนกว่า 84.7 % เคยมีประสบการณ์เล่นการพนัน ขณะเดียวกันเกินกว่าครึ่งหนึ่ง หรือ 53.1% ระบุว่าเริ่มเล่นการพนันครั้งแรกตอนอายุเพียง10 ปี สำหรับพนันที่เล่นบ่อยที่สุด คือ ไพ่ ลองลงมา ตู้ม้า ตู้สล็อต ไฮโล หวย เป็นต้น สำหรับผลกระทบที่ตามมาคือ ต้องหาเงินใช้หนี้พนันด้วยวิธีที่ผิด เช่น การปล้น การค้ายาเสพติด ลักขโมย หรือแม้แต่ บังคับให้แฟนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อใช้หนี้พนัน
อย่างไรก็ตามแนวทางในการแก้ไขปัญหาการเล่นพนัน เยาวชน 32.3 % แสดงความเห็นว่า กฎหมายต้องเข้มงวด เพิ่มบทลงโทษที่รุนแรง 22.2 % เจ้าหน้าที่รัฐต้องทำหน้าที่อย่างสุจริต ขณะเดียวกันเยาวชนมองว่ามีเพียงส่วนน้อยที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและกระทรวงศึกษาจะเข้ามาดูแลแก้ไขปัญหาเหล่านี้อย่าง จริงจัง นอกจากนี้เยาวชนกว่าส่วนใหญ่ หรือ 88.4 % บอกว่าไม่ต้องการให้เมืองไทยมีบ่อนเสรี
ด้านนายกิติวัฒน์ สุทธิรักษ์ ที่ปรึกษากลุ่มนักศึกษากฎหมายเพื่อสังคม มหาวิทยาลัยรามคำแหง กล่าวว่านักศึกษาเชื่อว่าเป็นเรื่องนี้ถูกทำกันอย่างเป็นระบบ และมีการเตรียมการไว้นานแล้ว เพียงแต่รอจังหวะ เป็นการแตะมือกันของนายทุนกับนักการเมืองและนักวิชาการบางกลุ่ม และการที่มีข้ออ้างและมองว่าแหล่งคาซิโนล้อมบ้านเราไว้หมดแล้วนั้นเป็นการสะท้อนภาวะอับจนปัญญา สังคมไทยต้องตั้งหลักให้ดี
“ปัญหาการพนันสร้างรอยร้าวให้ครอบครัว ชุมชน สังคมมากมาย ถามว่าถ้ามีใครสักคนในครอบครัวเล่นการพนัน ถึงจะถูกกฎหมายมีใครกล้ารับประกันว่าครอบครัวนั้นมีความสุข อย่างไรก็ตามในวันศุกร์ 30 ก.ย. 10.00 น. ทางกลุ่มและเพื่อนๆนักศึกษาที่ทำกิจกรรมเพื่อสังคมจากหลายสถาบันจะเดินทางไปที่บริเวณฟุตบาธริมคลองข้างประตูทางออกกระทรวงการคลังเพื่อยื่นข้อคัดค้านพร้อมทั้งร่วมกันแสดงกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์โดยทำพิธีฌาปนกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นคอมแพล็ก” นายกิติวัฒน์ กล่าว .
ที่มาภาพ : http://www.khalong.com/board2/redirect.php?tid=10979&goto=lastpost