ไม่มีหลักฐานมัดสั่งเขียนจม.น้อย! "วรพจน์" แจงเหตุเสียงข้างน้อยสั่งพักงาน "หัสวุฒิ"
"อุดม" ยอมรับเป็นเสียงน้อย มติ ก.ศป. 8: 3 ให้ "หัสวุฒิ"พักงาน เนื่องจากเห็นว่ายังติดขัดข้อกฎหมายบางประการ ส่วนรายละเอียดของเรื่องไม่มีปัญหา เผย "ชาญชัย" รับหน้าที่เป็นปธ.การประชุม เตรียมแจ้งผลทางการ ส่วน "วรพจน์" ยันวินิจฉัยตามทำนองคลองธรรม สำนวนสอบชี้หาหลักฐาน ประธานศาลปกครองสูงสุด สั่งให้เขียนจดหมายน้อยไม่ได้
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการตุลาการศาลปกครอง (ก.ศป.) เมื่อวันที่ 30 มี.ค.58 ที่ผ่านมา ได้มีมติ 8ต่อ 3 เสียง ให้สั่งพักราชการ นายหัสวุฒิ วิฑิตวิริยกุล ประธานศาลปกครองสูงสุด จากกรณีนายดิเรกฤทธิ์ เจนครองธรรม เลขาธิการ สำนักงานศาลปกครอง ได้ทำบันทึกส่วนตัวหรือ “จดหมายน้อย” ถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และรอง ผบ.ตร. ขอให้สนับสนุนนายตำรวจยศ พ.ต.ท. รายหนึ่ง ให้เลื่อนเป็นยศ พ.ต.อ. โดยอ้างว่าเป็นความต้องการของประธานศาลปกครองสูงสุด
โดยปรากฎรายชื่อ ก.ศป.เสียงข้างน้อย 3 เสียง ได้แก่ นายวรพจน์ วิศรุตพิชญ์ และ 2 ตัวแทน ก.ศป. จากสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คือ นายอุดม รัฐอมฤต รองอธิการบดี ม.ธรรมศาสตร์ ,นายวีรวิทย์ วิวัฒนวานิช อดีตผู้ว่าราชการ จ.น่าน ตามที่สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org นำเสนอไปแล้วนั้น
(อ่านประกอบ: ก.ศป.มีมติ 8:3 สั่งพักราชการ “ปธ.ศาลปกครองสูงสุด"คดีจม.น้อยฝาก ตร.)
ในช่วงเช้าวันที่ 31 มี.ค.58 นายอุดม รัฐอมฤต ให้สัมภาษณ์ยืนยันสำนักข่าวอิศรา ว่า เป็น 1 ใน 3 ก.ศป.เสียงข้างน้อย ในมติ 8 ต่อ 3 ที่สั่งให้พักราชการนายหัสวุฒิ ประธานศาลปกครองสูงสุด จากกรณีจดหมายน้อยจริง เนื่องจากโดยส่วนตัวเห็นว่ายังติดขัดข้อกฎหมายบางประเด็นอยู่ ส่วนรายละเอียดของเรื่องว่ามีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ตรงนั้นไม่ได้ติดขัดอะไร อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมเห็นว่าอย่างไร ก็คงต้องเป็นไปตามนั้น
"ในการพิจารณของผม ผมมองที่ประเด็นเรื่องกฎหมายเป็นสำคัญ เมื่อเห็นว่ามันยังมีข้อกฎหมายบางประการติดขัดอยู่ ผมก็แสดงความเห็นไปตามที่ผมมอง เพราะเราต้องมีจุดยืนของตนเอง ไม่ใช่ใครว่าเขาอะไรก็ว่าไปตามนั้น"
เมื่อถามว่า ในทางกฎหมายภายหลังจากที่ ก.ศป.มีมติออกมาชัดเจนแล้ว ประธานศาลปกครองสูงสุดต้องสั่งพักงานในทันทีหรือไม่ นายอุดม ตอบว่า "ก็ต้องดูว่าจะให้มีผลทันทีในช่วงไหน จะหลังจากที่ก.ศป.มีมติออกมาหรือ หลังจากที่ ก.ศป.ทำหนังสือแจ้งมติที่ประชุม ก.ศป.เป็นทางการไปให้รับทราบ ซึ่งอันนี้คงเป็นหน้าที่ของ นายชาญชัย แสวงศักดิ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานในการประชุม ก.ศป.ครั้งนี้ จะรับหน้าที่เป็นผู้ดำเนินการในเรื่องนี้
ด้านนายวรพจน์ วิตศรุตพิชญ์ กรรมการตุลาการศาลปกครองผู้ทรงคุณวุฒิ อีกหนึ่งใน ก.ศป.เสียงข้างน้อย กล่าวกับสำนักข่าวอิศราว่า "ผมชี้มูลไปว่าผมวินิจฉัยไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏไปตามสำนวนการสอบสวน ผมไม่ได้มโน เนื่องจากสำนวนการสอบสวนชี้ว่าไม่มีพยานหลักฐานแน่ชัดว่าประธานศาลปกครองสูงสุดให้เลขาอ้างชื่อในจดหมายน้อยที่ถูกส่งไปถึงนายตำรวจทั้งสองท่าน เมื่อผมเคยชี้มูลไปแล้วผมก็พิจารณาไปตามนั้น"
"ผมไม่กลัววันนี้ วันพรุ่งนี้ ผมเชื่อว่าสิ่งที่ผมชี้ที่ผมวินิจฉัยไปนั้นถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ถ้าวันนี้ถูกต้องก็ไม่ต้องกลัววันพรุ่งนี้ นี่คือความเห็นในส่วนของผมที่อาจจะต่างจากคนอื่น" นายวรพจน์