หนังสือ 6 ฉบับ“อาจารย์สาว”อดีตเหยื่อคดีล่วงละเมิด “ผู้มีอำนาจ”ไม่ได้ฟัง!
เรียงลำดับหนังสือร้องเรียน 6 ฉบับ “อาจารย์สาว”วิทยาลัยพิจิตร อดีตเหยื่อคดีทำร้าย ส่งถึงนายกฯ-เลขาฯ สกอ.-ผู้บังคับบัญชา ผวาไม่ปลอดภัย ขอย้ายพ้นพื้นที่ เสียงเล็กๆ วอน ต้องให้เป็นอะไรไปก่อนหรือถึงจะรับฟัง
กรณีนางปณิชา ศรีจักร์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ง ครู สังกัดวิทยาลัยชุมชนพิจิตร สำนักบริหารวิทยาลัยชุมชน และอดีตอาจารย์ช่วยราชการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ (มรภ.นครสวรรค์) ได้ทำหนังสือถึงนายสมศักดิ์ ตันติแพทยางกูร ผู้อำนวยการสำนักบริหารงานวิทยาลัยชุมชน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมาการการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และนายกรัฐมนตรี ร้องเรียนถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตอันเนื่องมาจากเธอเคยตกเป็นเหยื่อคดีล่วงละเมิด (แต่ต่อสู้ขัดขืนจนรอดมาได้อย่างปลอดภัย) และคู่กรณีพ้นโทษออกมาจากจำคุก และเธอยังได้ฟ้องร้องดำเนินคดีผู้บริหาร มรภ.นครสวรรค์ ในข้อหาเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบกรณีไม่จัดชั่วโมงให้สอนที่ มรภ.นครสวรรค์ ทำให้ต้องเดินทางกลับต้นสังกัดและเผชิญหน้ากับความหวาดกลัวในพื้นที่จังหวัดพิจิตรอีกครั้ง
โดยขอให้ผู้บังคับบัญชาพิจารณาโอนย้ายหรือช่วยราชการในพื้นที่ จ.นครสวรรค์ซึ่งเป็นภูมิลำเนา และในช่วงที่ผ่านมาได้ถูกบุคคลนิรนามแสดงความคุกคามเกรงว่าชีวิตจะไม่ปลอดภัย แต่ทว่าจนถึงขณะนี้ยังไม่ได้รับการพิจารณาจากผู้บังคับบัญชาแต่อย่างใด
เรียบเรียงหนังสือร้องเรียนดังนี้
22 ธ.ค.57 นางปณิชา ทำหนังสือถึง นายบรรจง พงษ์ประเสริฐ ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนพิจิตร แจ้งความประสงค์จะขอช่วยปฏิบัติราชการต่อ ณ วิทยาลัยสงฆ์นครสวรรค์ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย
7 ม.ค.58 ทำหนังสือถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมเร่งรัดการตัดโอนตำแหน่งและเยียวยาบรรเทาความเดือดร้อนให้ช่วยปฏิบัติราชการต่อ
(อ่านประกอบ : อาจารย์สาวเหยื่อคดีล่วงละเมิด ร้องนายกฯขอย้ายหนี ผวา!ไม่ปลอดภัย)
22 ม.ค.58 ทำหนังสือถึงผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนพิจิตร ขอความอนุเคราะห์พิจารณาคำสั่งช่วยปฏิบัติราชการ
29 ม.ค.58 ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา ขอความอนุเคราะห์พิจารณาคำสั่งช่วยปฏิบัติราชการ
19 ก.พ.58 แจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สภ.เมืองนครสวรรค์ กรณีถูกบุคคลลึกลับขับรถติดตาม 2 ครั้ง
10 มี.ค.58 แจ้งความลงบันทึกประจำวันสถานีตำรวจโพทะเล จ.พิจิตร กรณียางรถยนต์รั่วผิดปกติ
10 มี.ค.58 ทำเรื่องถึงเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) เพื่อขอเข้าโครงการคุ้มครองพยานตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองพยานในคดีอาญาเพราะมีบุคคลน่าสงสัยขับรถติดตามเป็นจำนวน 2 ครั้ง ระหว่างเดินทางกลับจากวิทยาลัยชุมชนพิจิตรไปยังภูมิลำเนาที่ จ. นครสวรรค์
12 มี.ค. 58 ทำหนังสือถึงเลขาธิการคณะกรรมการอุดมศึกษา เพื่อขอทราบคำสั่งการปฏิบัติราชการ ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสาร โดยระบุว่า หลังจากแจ้งความประสงค์ขอช่วยราชการ แต่เวลาลวงเลยมานานแล้ว ไม่ปรากฏว่าคณะกรรมการการอุดมศึกษาได้มีคำสั่งในการขอช่วยปฏิบัติราชการดังกล่าว และมิได้แจ้งข้อขัดข้องให้ทราบ จึงมีความประสงค์ขอทราบคำสั่งการช่วยปฏิบัติราชการดังกล่าว ตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 ก.พ.52 นางปณิชาถูกครูอัตราจ้างสถานศึกษาแห่งเดียวกันทำร้ายร่างกายและพยายามล่วงละเมิด แต่นางปณิชาขัดขืนทำให้รอดมาได้อย่างปลอดภัย ศาลชั้นต้นตัดสินจำคุกคู่กรณี 2 ปี 12 เดือน จำเลยสารภาพ ลดโทษเหลือ จำคุก 1 ปี 6 เดือน ศาลฎีกาพิพากษายืน
ล่าสุดเธอสะท้อนว่า ชีวิตช่วงที่ผ่านมาได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก ไม่มีที่พัก ต้องเดินทางไปกลับจากพิจิตร-นครสวรรค์ทุกวันเป็นระยะทางนับร้อยกิโลเมตร และไม่ได้รับความเป็นธรรม
และทิ้งท้ายว่า“จะต้องเป็นอะไรไปก่อนใช่หรือไม่ ผู้มีอำนาจจะสนใจรับฟังปัญหา”
กรณีของ "ปณิชา" สะท้อนให้เห็นว่าถ้าไม่เกิดขึ้นกับตัวเองหรือคนใกล้ชิด คงไม่เข้าใจ?
อ่านประกอบ:
อาจารย์สาวเหยื่อคดีทำร้ายผวา!“ถูกคุกคามหนัก”วอนผู้บังคับบัญชาย้ายกลับภูมิลำเนา
อาจารย์สาวเหยื่อคดีล่วงละเมิด ร้องนายกฯขอย้ายหนี ผวา!ไม่ปลอดภัย