ทีมกม.อดีตกก.บ.คิว ทีวี ซัดสัญญากู้ 600ล.ส่อเท็จ! ชงดีเอสไอสอบ "ศุภชัย"
ทีมกฎหมายอดีตกรรมการ บ.คิว ทีวี เตรียมทำหนังสือถึง "ดีเอสไอ" ชี้แจงข้อเท็จจริงปมเงินกู้ 600 ล้าน สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน ยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะขายบริษัทให้ "ศุภชัย ศรีศุภอักษร" ไปก่อนหน้าจะมีสัญญาเกิดขึ้น หลังธุรกิจประสบปัญหาขาดทุน ส่วน กก. ที่ลงนามก็ไม่เคยทราบข้อมูลอะไรด้วย
จากกรณีบริษัท คิว ทีวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ปรากฎรายชื่อเป็นหนึ่งในลูกหนี้ 28 ราย วงเงินกว่า 13,123,383,534 บาท ของ สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ซึ่งปรากฎหลักฐานเป็นสัญญาเงินกู้จำนวน 600,000,000 บาท ลงวันที่ 28 ธ.ค.53 ปัจจุบันมีการใช้เงินต้นคืนมาแล้วจำนวน 500,000 บาท ยอดหนี้คงเหลือ 599,500,000 บาท ขณะที่บริษัทฯ ได้แจ้งเลิกกิจการไปแล้ว นั้น
ล่าสุด ทีมกฎหมาย อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท คิว ทีวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ในช่วงต้นสัปดาห์หน้านี้ อดีตกรรมการบริษัท คิวทีวีฯ จะทำหนังสือแจ้งไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญากู้เงินกับสหกรณ์ฯ วงเงิน 600 ล้านบาทดังกล่าว และพร้อมจะเป็นพยานในคดีนี้ให้ด้วย
ทีมกฎหมาย ระบุว่า ในช่วงปี 2551-2552 อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท คิว ทีวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ร่วมกับกลุ่มเพื่อนตั้งบริษัทเพื่อทำธุรกิจเคเบิลทีวี แต่ออกอากาศรายการได้เพียงแต่ 2 เดือน ก็ติดปัญหาด้านเทคนิค ขาดทุน ไม่สามารถทำกิจการต่อไปได้ จึงได้ขึ้นป้ายประกาศขายบริษัท ทั้งตัวตึก และอุปกรณ์ต่างๆ
ทีมกฎหมาย ยังระบุด้วยว่า ภายหลังจากที่อดีตกรรมการและผู้ถือหุ้นบริษัท คิว ทีวี คอร์ปอเรชั่น จำกัด ตัดสินใจขายบริษัท และขึ้นป้ายประกาศขายเป็นทางการ ได้มีตัวแทนของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนียนคลองจั่น เข้ามาติดต่อขอซื้อ ในช่วงปลายปี 2553 ก่อนจะตกลงราคาซื้อขายกันอยู่ที่ประมาณ 1-2 ล้านบาท ซึ่งเป็นช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะมีข้อมูลปรากฎว่า บริษัท คิว ทีวีฯ จะไปทำสัญญากู้ยืมเงินกับสหกรณ์
"การซื้อขายบริษัท เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการทำสัญญากู้เงิน ในวันที่ 28 ธ.ค.53 ซึ่งทางผู้บริหารชุดเก่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือเคยรับรู้รับทราบอะไรด้วยเลย ขณะที่ช่วงเวลาก่อนหน้าที่จะมีการซื้อขายบริษัทกัน ทางฝ่ายผู้บริหารชุดเดิม ได้ทำการชำระบัญชีที่ค้างอยู่ทั้งหมด และให้ผู้บัญชีตรวจสอบ ก่อนจะนำส่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้ารับทราบ ซึ่งก็ปรากฎว่าไม่มียอดหนี้ จำนวน 600 ล้านบาท รวมอยู่ด้วย ชี้ให้เห็นว่าเราไม่มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องนี้ด้วยเลย "
ทีมกฎหมาย ยังระบุด้วยว่า หลังจากที่มีข่าวปรากฎออก ว่า บริษัท คิวทีวีฯ เป็นหนึ่งในลูกหนี้ของสหกรณ์ฯ และมีชื่อของกลุ่มผู้บริหารชุดเดิมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย ทั้งที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องอะไรกับการกู้เงินก้อนนี้ด้วย เพราะในขั้นตอนการขายบริษัท ผู้บริหารทุกคนได้มีการโอนลอยหุ้นกันไปทุกคน และไม่ทราบว่ามีใครนำข้อมูลไปใช้ทำประโยชน์อะไรบ้าง ทำให้เกิดความไม่สบายใจและมีผลกระทบต่อชื่อเสียง
"ส่วนกรณีที่ปรากฎชื่อกรรมการบริษัท เป็นตัวแทนในการลงนามในสัญญา จากการสอบถามข้อมูลกรรมการบริษัทรายนี้ ก็ไม่เคยรับรู้รับทราบสัญญาฉบับนี้เลย จึงไม่แน่ใจว่าสัญญาฉบับนี้จะเป็นของจริงหรือไม่ และก็พร้อมที่จะเข้าให้ข้อมูลเป็นพยานกับดีเอสไอด้วยเช่นกัน" ทีมกฎหมายระบุ
-
file download