โลกมีหลายขั้ว ดร.เอนก ชี้นโยบายต่างประเทศไทยสนใจอเมริกาอย่างเดียวไม่ได้
ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ชี้อเมริกากำลังเผชิญกับการต่อต้านจากทั่วโลก เรียกสถานการณ์แพ้ในทุกที่ พร้อมแนะนโยบายต่างประเทศไทยเลิกไร้เดียงสา กล้าคิดอะไรมากขึ้น คิดให้ไกลกว่าแค่เรื่องในประเทศ
17 มีนาคม 2558 สถาบันคลังปัญญาเพื่ออภิวัฒน์ประเทศไทยในยุคบูรพาภิวัฒน์ และสถาบันการทูตและการต่างประเทศ วิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต จัดงานเวทีสาธารณะ ในหัวข้อ “โลกเปลี่ยนขั้วกับอนาคตประเทศไทย” ณ ห้องกมลทิพย์ 3 โรงแรม เดอะ สุโกศล กรุงเทพฯ
นายสุรพงษ์ ชัยนาม อดีตเอกอัครราชทูต กล่าวถึงความเสี่ยงด้านอุดมการณ์ของสหรัฐอเมริกา คือ ตัวที่จะกัดกร่อนอำนาจของสหรัฐเอง ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ด้านประชาธิปไตย นิติรัฐ นิติธรรม มนุษยธรรม เนื่องจากพฤติกรรมในเชิงประจักษ์กับที่เทศนาหรือประกาศออกมาสวนทางกัน ซึ่งเข้าใจว่าประเทศใดประเทศหนึ่งปรารถนามุ่งมั่นจะครองอำนาจเบ็ดเสร็จ ครองความเป็นใหญ่ในโลกได้นั้น 1.มีแนวโน้มการใช้อำนาจเหนือผู้อื่น หลีกเลี่ยงการใช้อำนาจร่วม 2.มีความพยายามทุกวิธีทางที่จะครอบงำ สั่งการ บ่งการ บัญชาการทางการเมือง
อดีตเอกอัครราชทูต กล่าวว่า สิ่งที่สหรัฐอเมริกามีอำนาจเหนือว่าประเทศอื่น นั่นคือ อำนาจทางการทหาร แต่อำนาจนี้ก็ใช้ได้บ้างบางครั้งบางคราว และชัยชนะทางด้านการทหารไม่ได้หมายถึงชัยชนะทางการเมือง หรือ เศรษฐกิจเสมอไป ดังนั้นการมองเป้าประสงค์ของสหรัฐอเมริกาต้องมองภาพใหญ่ ดูผลลัพธ์นโยบายด้านต่างๆ อย่าดูแค่โครงสร้างเพราะจะไม่ช่วยอะไรเลย เขาดำเนินนโยบายอย่างไรเอามาวิเคราะห์เพื่อกำหนดจุดยืนแต่ละสถานการณ์ให้ชัดเจนและนำมาใช้กำหนดในการตอบสนองเพื่อปกป้องความมั่นคงของชาติ
ด้านดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อธิการวิทยาลัยรัฐกิจ มหาวิทยาลัยรังสิต สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ และกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวว่า ในอดีตเมื่อประเทศตะวันตกกล่าวอะไรคนก็มักจะเชื่อไว้ก่อน แต่ไม่ได้คิดว่าเป็นไปตามที่เขาพูดหรือไม่ วันนี้หลายอย่างทำให้เราต้องเริ่มคิดและทบทวนเป็นอย่างมาก สังคมโลกส่วนอื่นๆเริ่มเข้มแข็งและไม่ยอมรับการครอบครอง ทำให้อเมริกากำลังเผชิญกับการต่อต้านจากทั่วโลก และเป็นสถานการณ์ที่แพ้ในทุกที่ ดังนั้นวันนี้ต้องสอนอเมริกาให้เห็นว่าอะไรที่ถูกต้อง ถึงเวลาแล้วที่เราต้องสอนเขาบ้าง
“สิ่งที่เรียกว่าสากล ไม่จำเป็นต้องเป็นสากลตะวันตก การที่ชาติในยุโรป ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ หรืออเมริกาที่มาจุ้นจ้านอยากรู้รัฐธรรมนูญถือว่าดูถูก เพราะเปิดให้มาฟังในห้องกรรมาธิการยกร่างก็ไม่เคยมา ดังนั้นรูปแบบที่เราเคยเชื่ออยู่เสมอว่า ต้องนับถืออเมริกามากสุดเป็นแค่รูปแบบที่เชื่อตามๆกันมา”
ดร.เอนก กล่าวอีกว่า มาตรฐานหลายอย่างบนโลกใบนี้ไม่ใช่มาตรฐานเดียวกันทั้งโลก เมื่อโลกมีหลายขั้ว ก็มีหลายเรื่องที่ไทยต้องทำ และสิ่งที่ควรจะทำคือนโยบายต่างประเทศต่อไปนี้จะสนใจแต่อเมริกาอย่างเดียวไม่ได้ ต้องสนใจทั้งโลก ไม่ว่าจะเป็นชาติตะวันออก ตะวันตก หรือแม้กระทั่งประเทศเพื่อนบ้าน เมื่อก่อนยกให้ทูตไทยประจำสหรัฐอเมริกาเป็นหมายเลขหนึ่ง วันนี้ควรจะเป็นประเทศเพื่อนบ้าน ต้องเริ่มติดต่อกับบราซิล เป็นมิตรกับรัสเซีย จะเข้าข้างยุโรปหรืออเมริกามากๆต้องระวัง อีกทั้งจำเป็นต้องรักษาสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศมุสลิม ไม่ใช่เขาต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงไทยก็ตามเขาไปหมด
“ไทยต้องรักษาประเทศเขตสันติภาพเอาไว้ ถ้าตามใครแล้วเดือนร้อนลำบากก็อย่าไปตาม อย่าเป็นคนไทยที่เดียงสาการต่างประเทศ พูดโลกาภิวัฒน์แต่กลับไม่รู้จักโลก"
กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง อยู่ระหว่างมหาสมุทร 2 ฝั่ง แต่มหาสมุทรเป็นเพียงชายทะเลที่ไม่คิดจะมีท่าเรือน้ำลึก คิดเรื่องการเดินเรือสมุทร คิดอะไรเล็กๆ ไม่กล้าคิดเรื่องใหญ่ๆ ดังนั้นนโยบายต่างประเทศต้องกล้าคิดอะไรมากขึ้นและไม่คิดแค่เรื่องในประเทศ