ต่อให้แม่น้ำร้อยสายก็แก้ปัญหาคอร์รัปชั่นไม่ได้! "วิชา"ปลุกพลังปชช.สู้โกง
“…เกือบ 9 ปีที่ได้เดินบนเส้นทางของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อยากเรียนว่า มันรุนแรงและร้ายแรง และกินลึกเกินกว่าที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็น สนช. สปช. ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหนึ่งใด ป.ป.ช. หรือแม่น้ำ 5 สาย 6 สาย ร้อยสาย ก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ ถ้าทุกคน สังคมไทย ไม่ผนึกกำลังกันอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า ต้องการโค่นล้มการทุจริตจริงจัง จริงใจ…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นการบรรยายของนายวิชา มหาคุณ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในหัวข้อ วิสัยทัศน์และทิศทางการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น เนื่องในงานรำลึก 100 ปีชาตกาล อ.ป๋วย อึ๊งภากรณ์
----
เราต้องเข้าถึงปัญหาของการทุจริตคอร์รัปชั่น สำหรับปัญหาของการทุจริต จะเห็นได้ว่า ภาพรวมมีความรุนแรง ร้ายแรงเกินกว่าที่เราจะคาดคิด เกือบ 9 ปีที่ได้เดินบนเส้นทางของการป้องกันและปราบปรามการทุจริต อยากเรียนว่า มันรุนแรงและร้ายแรง และกินลึกเกินกว่าที่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
ไม่ว่าจะเป็นสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) สภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหนึ่งใด ป.ป.ช. หรือแม่น้ำ 5 สาย 6 สาย ร้อยสาย ก็ไม่อาจแก้ไขปัญหาได้ ถ้าทุกคน สังคมไทย ไม่ผนึกกำลังกันอย่างชนิดที่เรียกได้ว่า ต้องการโค่นล้มการทุจริตจริงจัง จริงใจ
หมายความว่า มีอะไรกระทบถึงตัวเรา เราต้องตัดออกไปในทันทีว่า ผลประโยชน์ส่วนตนจะต้องไม่มีอย่างเด็ดขาด เพราะการทุจริต มาจากสิ่งที่ อ.ป๋วย ก็เคยพูดถึงที่มีความสำคัญมาก ท่านบอกว่า อะไรเล่า ที่จะเป็นปัญหาอุปสรรคในการพัฒนาประเทศ ขอเสนอว่า อุปสรรคคือความเหลวไหล รั่วไหล ซึ่งเกิดจากความโลภ และปัญหาอุปสรรคเหล่านี้ ก็ขจัดได้ด้วยการที่จะต้องไม่ใช้อำนาจในทางที่ผิด จะต้องทำทุกอย่างด้วยความรับผิดชอบ ถูกต้อง ตรงตามหลักของจริยธรรม
นี่คือวิสัยทัศน์และทิศทางที่เราจะขับเคลื่อนต่อไป เพราะทุกวันนี้ประชาชานเราตกอยู่ท่ามกลางสิ่งที่เรียกว่าระบบอุปถัมภ์ที่ครอบงำเรามายาวนาน และไม่สามารถสกัด หรือกำจัด หรือตัดทิ้งออกไปได้ เพราะเรายังมีผลประโยชน์ส่วนตนเกี่ยวข้องด้วยอย่างสำคัญ
เมื่อเราเข้าไปสู่อำนาจ เราก็ใช้อำนาจนั้นตอบสนองความต้องการของเรา ไม่ได้ตอบสนองความต้องการของประชาชนผู้ทุกข์ยาก พบว่า ตลอดระยะเวลาเกือบจะ 9 ปี คดีต่าง ๆ ที่ขึ้นมาสู่ ป.ป.ช. มันเป็นคดีที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบอย่างสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ หรือพัฒนา เพราะงบประมาณรั่วไหล ไปใช้ทางอื่น ที่ไม่ใช่พัฒนาประเทศ
ไม่นานมานี้ ได้รับข้อมูลอย่างสำคัญจากวิศวกรที่เกี่ยวข้องในกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง หรือกระบวนการประมูลทางหลวง เส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ เขาบอกว่า ลองไปคำนวณให้ดี มันได้ผนวกเงินที่เมื่อก่อนนี้จะต้องจ่ายใต้โต๊ะ มันใส่ไว้ในกระบวนการทั้งหมด ถ้าท่านไม่แก้ตรงนี้ พินาศ เห็นแล้วสะท้อนใจมาก เขาบอกว่า ไม่รู้จะไปร้องเรียนที่ไหน เพราะเขารู้สึกว่ามันสิ้นหวัง ผมเห็นผมก็สิ้นหวังด้วย
ความยากจนดำรงอยู่ เป็นระยะเวลายาวนาน เพราะคนก็ยังไม่มีที่ดินทำกิน เกษตรกรก็ยังถูกแอบอ้าง ท่านคงไม่ทราบว่า ผมไปคุยกับชาวนา ไปคุยกับคนที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตจำนำข้าว เขาบอกว่า ตัวเลขล้วนแต่สร้างขึ้นมาทั้งนั้น เช่นการลงทะเบียนว่า ชาวนามีเท่าไหร่ มาขายข้าวเท่าไหร่ มันผนวกเข้าไปทั้งนั้นเลย เจ้าของโรงสีเป็นคนเก็บตัวเลขเอาไว้ เสร็จแล้ว ชาวนามีความพึงพอใจ แต่คนที่ได้รับประโยชน์คือเจ้าของโรงสี
สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่า ปัญหายังอยู่ ความยากจนยังคงอยู่ และจะแก้ปัญหาได้อย่างไร หากไม่เข้าถึงกระบวนการจริง ๆ ในการแก้ไขปัญหา มันต้องรู้ปัญหาที่แท้จริง และเข้าถึงการแก้ไขปัญหาที่แท้จริง และต้องมีวิธีการแก้ไข แต่ว่าเราเข้าใจ การแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ต้องเจ็บปวด แต่ว่า เราก็ต้องผ่านความเจ็บปวด เหมือนกับผ่านความร้อนความหนาว ทุกคนต้องยินยอมพร้อมใจกัน เหมือนกรณีของเราว่าจะเดินหน้าถอนรากถอนโคน เช่น อย่างที่มีการพูดกันว่า วัฒนธรรมต้องเปลี่ยนแปลง และให้ผู้หลักผู้ใหญ่ดลบันดาลให้ ต้องยกเลิก อย่างนี้เจ็บปวดหรือไม่ เจ็บแน่นอน เจ็บอย่างถึงที่สุดเลย แต่ว่า เราไม่แก้อย่างนี้ก็ไม่ได้ เพราะคิดว่าปัญหาใหญ่ที่สุดของประเทศไทยคือเรื่องสิทธิมนุษยชน
การทุจริตคอร์รัปชั่น ก่อให้เกิดความไม่เท่าเทียมกันอย่างยิ่ง เพราะเงินไปรวมศูนย์อยู่ที่คนมีอำนาจวาสนา สามารถควบคุมอำนาจได้ในแต่ละครั้ง การเลือกตั้งแค่เพียงการฉาบหน้า ผมไม่ได้บอกว่าการเลือกตั้งไม่ดี แต่ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ที่ถูกกล่าวอ้างว่า ดีที่สุด จะต้องมีจริยธรรมสูงสุดถึงจะดีที่สุด แล้วเราจะได้คนอย่างนั้นมาได้อย่างใด คนเลือกเป็นอย่างไร คนถูกเลือกก็เป็นอย่างนั้น ฉะนั้นประชาชนต้องพร้อมใจกันเดินสู่เส้นทางจริยธรรม
จริยธรรมใม่ใช่พูดแต่ความดีของตัวเอง แต่คือความเสียสละ นั่นแหละคือสิ่งที่เราต้องการที่สุด ที่ชาติสยาม ที่ อ.สุลักษณ์ ศิวรักษ์ (ปัญญาชนสยาม) พยายามที่จะใส่เข้าไปใน Mind Set ของผู้คนว่า เราจะต้องเดินตามเส้นทางในเรื่องความดีความถูกต้อง เหมือนกลัดกระดุมเม็ดแรกต้องถูกก่อน ถ้าเห็นตรงกันก็เป็นไปตามแนวทางที่เราต้องช่วยเหลือเกื้อกูลกัน โดยการผนึกกำลังกัน
การคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบ ตั้งแต่เอกชน เข้าใจหรือไม่ว่า บริษัทที่เป็นภาคเอกชนทั้งหลาย ทำไมถึงไม่กล้าลงนามว่าฉันไม่คอร์รัปชั่นเลย เพราะว่าเขาได้ประโยชน์ ถ้าหากว่าเขามาลงนามร่วมด้วย เท่ากับว่า เขาอาจจะสูญเสียในการประมูลแข่งขันที่เขาเคยได้ เพราะเขาได้เนื่องจากระบบอุปถัมภ์มาเป็นระยะเวลายาวนานแล้ว เราพยายามแก้ตรงนี้
จุดที่เราจำเป็นอย่างยิ่งคือ ต้องเดินตามแนวทางของสากล อนุสัญญาว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่นของสหประชาชาติ (UN) เราเคยพูดกันว่า UN ไม่ใช่พ่อ แต่หากต้องการแก้ปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นต้องนับถือเป็นปู่ เพราะถ้าไม่เดินตามเส้นทาง UN วางไว้ ตกระบบ
การเริ่มต้นต้องเดินตามแนวทางที่ถือได้ว่า การใช้อำนาจในทางที่ผิดคือการคอร์รัปชั่น ไม่ใช่เฉพาะเรื่องฉ้อราษฎร์บังหลวง แต่เมื่อไหร่เริ่มต้นใช้อำนาจแล้ว ต้องใช้อำนาจถูกทาง ก็ต้องใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของประชาชน โปร่งใส ต้องถือหลักธรรมาภิบาล ต้องให้เขาตรวจสอบได้ เพราะเทรนด์ของโลก มันเป็นแนวทางที่ถือว่า การประมูลแข่งขันก็ดี การเปิดโอกาสให้ลงทุนต้องโปร่งใสที่สุด ไม่อย่างนั้นจะตกระบบทันที และจะถูกขึ้นป้ายว่า ลำดับชั้นการทุจริตคอร์รัปชั่น CPI เมื่อไหร่เราจะสอบได้เสียที สอบตกมาโดยตลอด ปีที่แล้วสอบตกแต่ได้คะแนนดีขึ้นมาหน่อย กระดี๊กระด๊าจัง
มาเลเซียได้ขยับตัวขึ้นมา 50 เปอร์เซ็นต์แล้ว เราไปถามคนจัด เขาบอกว่า มาเลเซียแก้ปัญหาโดยการจับมาลงทะเบียนกันหมด โดยเฉพาะการก่อสร้างทาง เขามาพิสูจน์แล้วว่าโปร่งใส ไม่มีการกินสินบน หรือแฝงเร้นเป็นอันขาด เขาเรียกว่า สัญญาคุณธรรม ถ้าคุณผิดข้อตกลง คุณจะถูกแบล็คลิสต์เล่นงานขนาดหนัก ขณะนี้จัดการได้เรื่องของการก่อสร้างทาง เพราะว่ามันเป็นการคอร์รัปชั่นขนาดใหญ่ที่สุดในโลก และง่ายที่สุดด้วย เพราะว่าไม่เท่าไหร่มันก็พังแล้ว หากก่อสร้างไม่ดี หรืออุปกรณ์เครื่องมือไม่ดี ถ้าไม่ตรวจสอบให้เข้มงวด
รู้ว่าอะไรดีไม่ดี ก็อย่างไปทำ เราต้องทำอย่างที่ถูกต้อง เหมือนอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านการทุจริต บอกไว้ว่า จุดสำคัญที่สุดคือการแก้ปัญหา นอกเหนือจากการแก้ปัญหา ภาครัฐ ภาคการเมืองแล้ว ต้องแก้ปัญหาภาคเอกชนด้วย ไม่ใช่เอาผิดกับการรับสินบาด คาดสินบน เรามีกระบวนการกฎหมายกันไว้เป็นพยาน
เราจะเห็นได้จากคดีทุจริตจำนำข้าว ประสบความสำเร็จเพราะเรากันไว้เป็นพยาน บริษัทขนาดใหญ่ที่ร่วมทุจริตด้วย เรากันไว้เป็นพยาน ฉะนั้นกฎหมายต้องตามให้ทันกระบวนการแก้ไขปัญหาทุจริตจึงประสบความสำเร็จ
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายวิชา จาก thairath