เปิด4กลุ่มรับเช็ค"ศุภชัย" โอน ตปท. มากสุด7.2พันล."ธมมชโย-เครือข่าย" 932ล.
ดีเอสไอ เปิดละเอียด 4 กลุ่มรับเช็ค โอน ตปท.มากสุด7.2พันล."ธมมชโย-เครือข่าย"932ล. จ่อยึดทรัพย์"สถาพร-อดีตพระ"เพิ่ม ด้าน“ศุภชัย” นั่งแถลงข่าว 10 นาทีเผ่นกลับ! ยันเงินบริจาควัดพระธรรมกาย-สร้างตึก 634 ล้าน ปี 52-53 แค่ยืมสหกรณ์ฯคลองจั่น แต่ "คืนแล้ว"
เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แถลงข่าวกรณีถูกกล่าวหาว่ายักยอกเงินของสหกรณ์ออมทรัพย์ฯว่า ไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด โดยเงินที่นำมาบริจาคให้วัดพระธรรมกาย จำนวน 386 ล้านบาท และที่บริจาคให้พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธมมชโย) จำนวน 248 ล้านบาท เมื่อปี 2552 และ 2553 เพื่อใช้ในการสร้างศาสนสถานนั้น เป็นเงินที่ได้ยืมจากสหกรณ์ฯถูกต้องตามระเบียบ และได้มีการคืนเงินที่ยืมมาจำนวนดังกล่าวให้แก่สหกรณ์ฯเสร็จสิ้นแล้ว ดังผลการสอบบัญชีประจำปี และที่ประชุมใหญ่ของสหกรณ์ฯ
นายศุภชัย กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องการทำบุญบริจาคให้กับวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์นั้น ไม่ได้มีการนำไปบริจาคหรือถวายให้หลวงพ่อโดยลำพังสองต่อสองแต่อย่างใด แต่ได้บริจาคเงินดังกล่าวโดยนำเช็คใส่ซองและใส่ในถุงทองอีกชั้นหนึ่ง และเข้าแถวบริจาคเหมือนสาธุชนทั่วไปที่ถวายในพานรับประเคน ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของวัดเป็นผู้เก็บถุงทอง และขอบริจาคไปดำเนินการ โดยที่หลวงพ่อไม่ทราบได้ว่าเงินที่บริจาคมานั้นเป็นจำนวนเงินเท่าใด
“ดังนั้น ขอยืนยันว่าวัดพระธรรมกาย และพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น แต่อย่างใด” นายศุภชัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้ใช้เวลาประมาณ 10 นาที หลังจากนั้นนายศุภชัย ได้ขอตัวเดินทางกลับทันที
ต่อมาเวลา 12.00 น. ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ท.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.ศูนย์บริหารคดีพิเศษ รองโฆษกดีเอสไอ พร้อมด้วย พ.ต.ท.สมบูรณ์ สาระสิทธิ์ ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 และพ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวะกุล ผอ.ส่วนตรวจ 2 สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ และศูนย์ข้อมูลการตรวจสอบ พนักงานสอบสวนชุดติดตามร่องรอยการเงินวัดพระธรรมกาย ร่วมกันแถลงความคืบของพนักงานสอบสวนติดตามความคืบหน้าคดีสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น จำกัด
โดยดีเอสไอ ระบุว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบมูลนิธิของพระครูปลัดวิจารณ์ ที่มีชื่อรับเช็คจากนายศุภชัย จำนวน 119 ล้านบาท ซึ่งพบว่ามีการนำไปสร้างศูนย์เยาวชนที่ อ.โคกสำโรง จ.ลพบุรี จากการลงพื้นที่พบว่าข้อมูลไม่สอดคล้องกับการตรวจสอบการเงินที่รับไปในช่วงปี2552-2553 เพราะศูนย์ดังกล่าวมีการก่อสร้างไปตั้งแต่ปี 2551
ส่วนการตรวจสอบเช็คจำนวน 878 ฉบับ มูลค่า 11,367 ล้านบาทนั้น ล่าสุดมีการจัดกลุ่มตามชื่อผู้รับเช็ค ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 วัดพระธรรมกาย พระธมมชโย มูลนิธิมหารัตรอบาสิกาจันทร์ขนนกยูง พระครูปลัดวิจารณ์ และพระลูกวัดอื่นๆ จำนวน 43 ฉบับ 932 ล้านบาท กลุ่มที่ 2 ญาติธรรม และบุคคลใกล้ชิด นายศุภชัย จำนวน 27 ฉบับ 348 ล้านบาท กลุ่ม 3 บริษัท เอส.ดับบลิว.โฮลดิ้งกรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 12 ฉบับ 272 ล้านบาท
กลุ่ม 4 สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนมงคลเศรษฐี จำนวน 3 ฉบับ 46 ล้านบาท กลุ่ม 5 นายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ นายจีรเดช วรเพียรกุล และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนรัฐประชา จำนวน 135 ฉบับ 2,566 ล้านบาท และกลุ่ม 6 นิติบุคคล เงินโอนภายในประเทศและต่างประเทศ การถอนเงินสด แคชเชียร์เช็ค โอนบามเน็ต ถอนอีซีเอส โอนเงินทางอินเตอร์เน็ต จำนวน 658 ฉบับ 7,203 ล้านบาท
ทั้งนี้ ในกลุ่มของนายสถาพรและบริษัท เอส.ดับบลิวฯ พบว่าเมื่อได้รับโอนเงินจากสหกรณ์ไปแล้วมีการโยกย้ายเงินออกไปรวมถึงมีการนำไปซื้อหุ้นบางส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบ ซึ่งดีเอสไอได้ประสานความร่วมมือกับปปง.โดยคาดว่า เร็วๆนี้จะมีการยึดทรัพย์เพิ่มเติมด้วย
ส่วนที่นายศุภชัย อ้างว่า เงินบริจาคให้กับวัดพระธรรมกาย เป็นการยืมเงินของสหกรณ์ ที่ได้ทำการคืนเงินไปหมดแล้ว โดยมีหลักฐานเป็นรายงานของผู้สอบบัญชี ประจำปี 2552 และ 2553 ทางดีเอสไอ ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนข้อกังวลที่ว่า การบริจาคเงินเพื่อนำไปสร้างศาสนสถานนั้น อาจไล่อายัดเงินคืนไม่ได้นั้น ดีเอสไอ ก็บอกว่า การตรวจสอบดูจากเจตนาเป็นหลัก ว่ามีส่วนรู้เห็นกับการยักยอกทรัพย์หรือไม่ ซึ่งในสัปดาห์หน้า ก็จะเริ่มเชิญผู้ที่เกี่ยวกับเช็ค 878 ฉบับเข้ามาสอบปากคำ โดยได้ออกหมายเรียก พระธัมมชโย มาสอบปากคำวันที่ 10 มีนาคมนี้
ขณะที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ไม่ได้เรียกเข้าไปสั่งการเป็นพิเศษกรณีที่เกี่ยวข้องกับวัดพระธรรมกาย ซึ่งในส่วนของตนก็ไม่ได้เข้าไปสั่งการ ดีเอสไอ และปปง. ที่ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอยู่ แต่ให้ดำเนินการตามหน้าที่ เมื่อถึงจุดหนึ่งอาจเรียกเข้ามาสอบถามความคืบหน้าบ้าง ส่วนประเด็นที่มีการกล่าวอ้างว่าเป็นเรื่องของศาสนาที่มีความละเอียดอ่อนนั้น ตนเห็นว่า ไม่ควรยึดติดว่าเป็นสถาบันใด เราทำคดีที่ผิดกฎหมาย หากบุคคลหรือสถาบันใดทำผิดกฎหมาย ก็ต้องว่าไปตามกฎหมาย อย่าไปผูกพันกับตัวบุคคลหรือชื่อของสถาบัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องทำงานให้ถูกต้อง และมีจุดยืนอยู่ในหลักกฎหมาย
#เชิญชวนติดตามข่าวสารสำนักข่าวอิศรา ได้ด้วยการกด "Like" ที่ แฟนเพจ "I love isranews"
อ่านประกอบ :
โชว์เช็ค 11 ใบพันล.! “ศุภชัย”เซ็นจ่ายถึง“ธมมชโย-ธรรมกาย-เครือข่าย”
บ้าน2หลัง"ศุภชัย"ก่อนเซ็นจ่ายเช็ค 4 ใบ ให้"ธมมชโย-ธรรมกาย" 316ล้าน
ขุมธุรกิจ "วัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์" โผล่รับเช็ค450 ล.ล็อตเดียว“ธมมชโย”
บ.อดีตพระธรรมกาย ก่อน ปปง.เจาะตู้เซฟ ทำธุรกิจเกษตร มีเงินให้กู้ 5.1 พันล.