ครม.บิ๊กตู่ผ่านร่างกม.-หลักเกณฑ์ เดินหน้าตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ
ที่ประชุมครม.ไฟเขียวอนุมัติร่างกฎหมาย-หลักเกณฑ์ เดินหน้าตั้งกองทุนการออมแห่งชาติ
พลตรีสรรญเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)วันที่ 3 มีนาคมว่า ที่ประชุมครม.อนุมัติหลักการร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการของกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยอนุมัติหลักการร่างพ.ร.บ.กองทุนการออมแห่งชาติ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... กำหนดให้ กอช. รับโอนผู้ประกันตนและเงินของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 กรณีบำนาญชราภาพทั้งหมดที่แสดงความจำนงเป็นสมาชิกของ กอช.
ทั้งนี้ ให้ผู้ที่มีอายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไปมีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับแต่วันที่เป็นสมาชิก เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการของพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 ที่ให้ผู้ที่มีอายุมากที่สมัครในช่วงปีแรกได้มีระยะเวลาในการออมมากขึ้น แต่รัฐบาลจะไม่จ่ายเงินสมทบเข้ากองทุนสำหรับเงินสะสมที่โอนมาดังกล่าว เนื่องจากได้รับเงินสมทบจากกองทุนประกันสังคมแล้ว
พร้อมกันนี้ กำหนดให้ผู้สมัครสมาชิก กอช. รายใหม่ที่อายุ 50 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป และสมัครภายใน 1 ปีนับแต่วันที่ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ มีสิทธิเป็นสมาชิกต่อไปได้อีก 10 ปีนับแต่วันที่เป็นสมาชิก เพื่อให้เป็นไปตามหลักการของ กอช. ดังกล่าวข้างต้น และเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันระหว่างผู้ที่รับโอนจากกองทุนประกันสังคมและผู้ที่สมัครใหม่ ทั้งนี้ สมาชิก กอช. จะได้รับเงินสมทบเป็นอัตราส่วนตามช่วงอายุตามที่ได้กำหนดไว้
นอกจากนี้ ยังอนุมัติร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประเภทของประโยชน์ทดแทน ตลอดจนหลักเกณฑ์และเงื่อนไขแห่งสิทธิในการรับประโยชน์ทดแทนของบุคคลซึ่งสมัครเป็นผู้ประกันตน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติกองทุนการออมแห่งชาติ พ.ศ. 2554 จำนวน 7 ฉบับ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ คาดว่า 5 ปีแรกจะมีผู้สมัครเป็นสมาชิกกอช. จำนวน 3 ล้านราย รัฐบาลใช้เงินสมทบ 2,700 ล้านบาท
ขอบคุณภาพจาก:คลังภาพ ศูนย์สื่อทำเนียบ