ป.ป.ช.โยนผู้ตรวจฯสอบปมสนช.ตั้งลูก-เมียช่วยงาน เหตุไร้กม.รองรับ
ป.ป.ช. โบ้ยผู้ตรวจการแผ่นดินสอบปม สนช. ตั้งลูก-เมีย-เครือญาติ ช่วยงาน-รับเงินเดือน เหตุไม่มีกฎหมายรองรับปมขัดกันของผลประโยชน์ “ศรีสุวรรณ” แปลกใจ “บิ๊กตู่” ไม่เข้าใจกฎหมาย จี้ สนช. ตั้ง กก.สอบจริยธรรมโดยเร็ว
นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีมีผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบสมาชิก สนช. กว่า 50 คน แต่งตั้งเครือญาติเข้ารับตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญ-ผู้ชำนาญการ-ผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว สนช. ว่า ต้องดูในรายละเอียดว่าอยู่ภายใต้กรอบอำนาจหน้าที่ของ ป.ป.ช. หรือไม่ เช่นที่อ้างว่า เป็นการขัดกันระหว่างผลประโยชน์ ต้องดูว่าตามมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กำหนดไว้เพียงนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี ผู้บริหารท้องถิ่น และรองผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งไม่ได้กำหนดรวมถึง ส.ส. ส.ว. และ สนช. เพราะตำแหน่งเหล่านี้เป็นตำแหน่งที่ ป.ป.ช. กำหนด จึงจะเป็นเรื่องของการขัดกันระหว่างผลประโยชน์
“เมื่อพูดถึงกฎหมายว่าด้วยการขัดกันของผลประโยชน์อย่างเดียว ยังไม่มีกฎหมาย ป.ป.ช. รองรับแต่กฎหมายอื่นไม่ทราบ เพราะว่าเรื่องคุณธรรมจริยธรรมนั้นไม่ใช่หน้าที่รับผิดชอบของ ป.ป.ช. แต่เป็นหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน แต่เมื่อร้องเรียนเข้ามา ป.ป.ช. เราจะพิจารณา ซึ่งการจะตรวจสอบคุณธรรมจริยธรรมนั้น ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ดำเนินการสืบสวนหาข้อมูล เมื่อพบว่าผิดจะส่งให้สภาดำเนินการถอดถอนก็เป็นไปตามกระบวนการ ฉะนั้นหน้าที่เราในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ กฎหมายเรายังไม่ได้รองรับ” นายสรรเสริญ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นหนังสือถึงคณะกรรมการ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนตรวจสอบสมาชิก สนช. กว่า 50 คน กระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายและขัดแย้งต่อจริยธรรมของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอย่างร้ายแรง กรณีเสนอชื่อเครือญาติเข้ารับตำแหน่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ-ผู้ชำนาญการ-ผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว สนช. ถือเป็นการดำเนินการที่มีพฤติการณ์เข้าข่ายผลประโยชน์ทับซ้อน ต้องห้ามตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยประมวลจริยธรรมของข้าราชการการเมือง พ.ศ.2551 ประมวลจริยธรรมของสมาชิกวุฒิสภาและกรรมาธิการ พ.ศ.2553 และเข้าข่ายทุจริตต่อหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และขอให้ไต่สวนนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. ในฐานะใช้อำนาจออกประกาศคุณสมบัติ และนางนรรัตน์ พิมเสน เลขาธิการ สนช. ในฐานะผู้ลงนามแต่งตั้งตำแหน่งเหล่านี้
นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า สนช. ชุดนี้เป็นดรีมทีมของประชาชนในการปฏิรูปการเมืองไม่ให้กลับไปสู่วังวันน้ำเน่าเหมือนนักการเมืองในอดีต ดังนั้นควรเป็นแบบอย่างที่ดีกับสังคมไทย หวังว่าจะนำไปสู่การแก้ไขเพื่อให้ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก หากมีการไต่สวนแล้วพบความผิด ป.ป.ช. มีอำนาจนำเรื่องดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมเพื่อฟ้องร้องบุคคลเหล่านี้ต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รวมทั้งเรียกคืนเงินประจำตำแหน่งของผู้เชี่ยวชาญ ผู้ชำนาญการ และผู้ช่วยดำเนินงานประจำตัว สนช.
“ส่วนกรณี สนช. ระบุการตั้งเครือญาติไม่ขัดต่อหลักกฎหมายนั้น กฎหมายที่อ้างต่อ ป.ป.ช. เขียนไว้ชัดเจนว่าห้ามแต่งตั้งเครือญาติ หากมาอ้างว่าไม่ผิดจะอธิบายสังคมอย่างไร และงงเหมือนกันที่ พล.อ.ประยุทธ์ (จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี) พูดว่าไม่ผิด แปลกใจนายกฯเข้าใจกฎหมายมากน้อยเพียงใด ขอให้ สนช. ตั้งคณะกรรมาการตรวจสอบจริยธรรมโดยเร็ว และควรมีข้อสรุปภายใน 1 เดือน เพราะยิ่งช้า ผลเสียจะเกิดขึ้นกับ สนช. ทั้งหมด” นายศรีสุวรรณ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เครือญาติเหล่านี้ควรจะลาออกจากตำแหน่งผู้ชำนาญการต่าง ๆ เพื่อแสดงสปิริตหรือไม่ นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า เป็นจิตสำนึกของแต่ละคนที่จะกระทำหรือไม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าตัวเองเข้ามาทำงานตามวัตถุประสงค์หรือไม่ การอ้างเรื่องคนที่ไว้วางใจนั้น คิดว่าบุคคลที่มีความรู้ความสามารถหรือสนิทชิดเชื้อน่าจะมีจำนวนมาก ไม่ใช่มีเฉพาะเครือญาติของตัวเอง
“ข้ออ้างของการปฏิรูปเป็นเพียงข้ออ้างธรรมดา ไม่สะท้อนความจริงที่ปรากฏต่อสังคม เป็นการผลัดกันเกาหลัง ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันไป เข้ามาสู่แสวงวงอำนาจโดยใช้ข้ออ้างต่าง ๆ นานา แต่ข้อเท็จจริงคือไม่ต่างอะไรจากนักการเมืองเดิม ๆ ในอดีตที่ผ่านมาเข้าสู่อำนาจและทำผิดกำหมาย” นายศรีสุวรรณ กล่าว
อ่านประกอบ :
เปิดชื่อ! สนช.กว่าครึ่งร้อยตั้ง“เมีย-ลูก-ญาติ”ช่วยงาน-เงินเดือน 1.5-2 หมื่น
กางระเบียบ-ประมวลจริยธรรมเทียบคำพูด“พรเพชร”ปม สนช.ตั้งเมีย-ลูกช่วยงาน?