บวรศักดิ์ อุวรรณโณ : ขอให้“มติชน”แสดงความกล้าหาญทางจริยธรรม
วิญญูชนทั่วไปเมื่อเห็น “เจตนา” 3 อย่างที่กระทำคือ 1. ใส่ชื่อผมในคอลัมน์ 2.มีรูปผม และ 3. ใส่อัญประกาศในคำพูด ดูถูกประชาชนชาวไทยถึง 3 อย่างนี้ก็ย่อมเข้าใจว่าผมกล่าวดูถูกเหยียดหยามคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของผม ผลจากเจตนาบิดเบือนของคอลัมน์นี้ เกิดทันทีเมื่อมีการจัดพิมพ์ข้อความในอัญประกาศพร้อมรูปของผมโพสลงในไลน์ แชร์กันทั่วประเทศมีการด่าทอผมด้วยถ้อยคำ หยาบคายทำให้ผมเสียหายอย่างร้ายแรง
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : เป็นคำชี้แจงของนายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ที่รัฐสภา ในหัวข้อ “กรณีมีการจงใจบิดเบือนเพื่อให้ร้ายโดยผู้เขียนบางคน”
----
ผมและคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ อีก 35 ท่าน ได้ทุ่มเทยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยรับฟังความคิดเห็นทุกฝ่ายให้รอบครอบ รวดเร็ว โปร่งใส ให้สื่อมวลชนเข้าร่วมรับฟังมาตลอดกระบวนการ โดยคณะกรรมาธิการได้รับความร่วมมือจากผู้สื่อข่าวที่นั่งติดตามการทำงานของคณะกรรมาธิการด้วยดี มีจริยธรรม สมความคาดหวังของสังคมต่อสื่อมวลชน คณะกรรมาธิการขอขอบคุณผู้สื่อข่าวเหล่านี้ด้วยความจริงใจ
อย่างไรก็ตามผมและกรรมาธิการบางท่าน ก็ผิดหวังต่อผู้ประกอบอาชีพสื่อบางคน บางฉบับที่ไม่ได้ยึดจริยธรรมในการทำหน้าที่ “สื่อสารข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง ครบถ้วน รอบด้าน ทันการณ์ และปราศจากอคติ” เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง แต่กับคนใช้อคติส่วนตน พาดหัวข่าวหรือเขียนข้อความก่อให้เกิดการบิดเบือนข้อเท็จจริง เพื่อให้เกิดผลร้ายต่อบุคคลที่ตนมุ่งร้าย
ผมเองได้ถูกหนังสือพิมพ์มติชนฉบับวันอาทิตย์ที่ 1 มีนาคม 2558 พาดหัวโดยคิดเอาเองปราศจากข้อมูลอ้างอิงว่า “ฉุนบวรศักดิ์ปมสิทธิหญิง ‘ทิชา’ ไขก๊อก ร่ำให้ทิ้งกมธ.-เก้าอี้ สปช.” ทำให้คนทั้งประเทศเข้าใจว่า ผมเป็นสาเหตุสำคัญให้คุณทิชา ณ นคร ลาออก และทำให้เข้าใจด้วยว่า ผมคัดค้านสิทธิสตรี จนมีผู้หญิงหลายท่านโทรมาต่อว่าต่อขาน ทั้งที่ในความเป็นจริง ผมสนับสนุนสิทธิสตรีมาตั้งแต่ต้นจนมีการบรรจุเรื่อง “การจัดทำงบประมาณที่คำนึงถึงความเสมอภาคชาย หญิง” (Gender responsive budgeting) รวมทั้งเห็นด้วยและสนับสนุนให้กำหนดสัดส่วนหญิงในระดับท้องถิ่น แต่เมื่อกรรมาธิการบางท่านไม่เห็นด้วย ก็พยายามรอมชอมมาโดยตลอด
แต่การเห็นด้วย-ไม่เห็นด้วย ของกรรมาธิการเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละท่าน หากมีการ “ซาวเสียง” แล้ว คนส่วนใหญ่ว่าอย่างไรกรรมาธิการข้างน้อยก็ต้องมีการยอมรับ อย่างไรก็ตาม เมื่อผมเห็นว่ายังไม่อาจมีฉันทมติได้ก็ขอให้เลื่อนการตันสินออกไป สำหรับคุณทิชา นั้นได้กล่าวในการประชุมคณะกรรมาธิการ และแจ้งผมเป็นส่วนตัวมาโดยตลอดว่า ผมได้ทำหน้าที่ดีที่สุดตามกำลังความสามารถแล้ว ท่านไม่เคยติดใจผมอย่างที่มติชนพาดหัวเอาเองเลย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ตอบเรื่องนี้ได้ดีที่สุดคือคุณทิชา ณ นคร ไม่ใช่การคาดเดาและพาดหัวที่สร้างความเสียหายให้แก่ผู้อื่น
นอกจากการพาดหัวของหนังสือพิมพ์ดังกล่าวแล้วในคอลัมน์ “โครงร่างตำนานคน” เขียนโดยใช้นามปากกาว่า “การ์ตอง” หัวข้อเรื่อง ชื่อ “‘บวรศักดิ์ อุวรรณโณ’ ท้าทายความรู้เท่าทัน” พร้อมทั้งมีรูปของผมลงในคอลัมน์ดังกล่าว มีข้อความภายในเครื่องหมายอัญประกาศว่า “ประชาชนไทยยังไม่พร้อมที่จะมีสิทธิที่เท่าเทียมกันเพราะคนส่วนใหญ่ยังขาดความรู้ ความคิด และจิตสำนึกประชาธิปไตยที่แท้จริง ที่ผ่านการพิสูจน์แล้วว่าการใช้สิทธิถูกชักจูงด้วยอำนาจและเงิน จนระบบไม่สามารถสร้างนักการเมืองที่มีคุณภาพขึ้นมาได้ เปิดโอกาสให้คนกลุ่มหนึ่งใช้การเลือกตั้งเข้ามาแสวงประโยชน์ จึงจำเป็นต้องออกแบบการเมืองใหม่ เพื่อกันประชาชนที่โง่เขลาเบาปัญญานี้ออกไป ให้สิทธิได้เพียงระดับหนึ่งเท่านั้น”
วิญญูชนทั่วไปเมื่อเห็น “เจตนา” 3 อย่างที่กระทำคือ 1. ใส่ชื่อผมในคอลัมน์ 2.มีรูปผม และ 3. ใส่อัญประกาศในคำพูด ดูถูกประชาชนชาวไทยถึง 3 อย่างนี้ก็ย่อมเข้าใจว่าผมกล่าวดูถูกเหยียดหยามคนไทยส่วนใหญ่ ซึ่งไม่ใช่วิสัยของผม ผลจากเจตนาบิดเบือนของคอลัมน์นี้ เกิดทันทีเมื่อมีการจัดพิมพ์ข้อความในอัญประกาศพร้อมรูปของผมโพสลงในไลน์ แชร์กันทั่วประเทศมีการด่าทอผมด้วยถ้อยคำ หยาบคายทำให้ผมเสียหายอย่างร้ายแรง
จนแม้คุณบรรยง พงษ์พานิช ออกมาเขียนเฟสบุ๊คเรื่อง “การบิดเบือนที่ชัดเจนของสื่อ” แล้วท่านก็สรุปว่า “ทนเห็นวิธีการสกปรกอย่างนี้ไม่ได้ ขอประณามคนเขียนที่ไม่รับผิดชอบ ขอประณามสื่อที่ไม่รับผิดชอบ”
แม้นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) จะโพสเฟสบุ๊คชี้แจง ก็มีลักษณะ “ภาคเสธ” คือแบ่งรับแบ่งสู้และแสดงทัศนะส่วนตัวที่แสดงอคติโดยชัดเจน ไม่ใช่วิสัยของสื่อสาธารณะที่รู้ว่า “พลาดไปโดยไม่เจตนา” และประสงค์จะขออภัย ข้อความที่ว่า “ถ้าจะมีส่วนใดที่ทำให้เข้าใจผิด ก็คงจะเป็นย่อหน้าที่สอง ซึ่งใส่เครื่องหมายอัญประกาศ (เครื่องหมายคำพูด)เข้าไป ที่อาจจะทำให้ผู้อ่านบางท่านบางคนเข้าใจไปได้ว่า เป็นคำพูดของอาจารย์บวรศักดิ์ ซึ่งหากอ่านโดยละเอียดและมีใจเป็นกลางก็จะทราบว่ามิได้เป็นเช่นนั้น”
ผมขอให้หนังสือพิมพ์มติชนและผู้เขียนคอลัมน์ แสดงความรับผิดชอบและความกล้าหาญทางจริยธรรมเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ผมโดยเร็ว
และขอให้พี่น้องประชาชนโปรดตรวจสอบการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อสารมวลชน และเครือข่ายสื่อสังคมออนไลน์ให้รอบคอบ รอบด้านก่อนจะเชื่อและแชร์ให้เกิดความเสียหาย
(นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ)
หมายเหตุ : ภาพประกอบนายบวรศักดิ์จาก tnews