ทำดีต้องชื่นชม: ‘บุ๋ม ปนัดดา’ กับภารกิจช่วยเหลือสังคมเต็มขั้น
แรกเริ่มเดิมทีมีความตั้งใจจะเขียนถึง ‘บุ๋ม’ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี เมื่อหลายสัปดาห์ก่อน แต่ด้วยเพราะอะไรไม่ทราบ ทำให้เวลาล่วงเลยมา กระทั่งได้ฤกษ์ยามดีที่เธอเรียนจบปริญญาเอก จาก ม.รังสิต จึงใช้โอกาสนี้ร่ายอักษรถึงอย่างเป็นเรื่องเป็นราว
‘บุ๋ม’ ครองตำแหน่งนางสาวไทย ปี 2543 จำได้ว่าครั้งนั้นเรียกเสียงฮือฮาตามมามากมาย ด้วยเพราะเธอได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ของสถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง มีดีกรีระดับปริญญาโท ประกอบกับความมั่นใจ ความคิดอันหลักแหลม เฉลียวฉลาด สีหน้า ท่าทาง เด็ดขาด เฉียบคม ยิ่งพาให้กลายเป็นสาวงามชวนจดจำในใจของคนทั้งประเทศ
หลังจากเธอส่งมอบมงกุฎให้แก่นางสาวไทยคนต่อไปแล้ว ได้เริ่มต้นชีวิตโลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงจวบจนถึงปัจจุบัน มีผลงานเป็นที่ประจักษ์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น พิธีกร นักแสดง นางแบบ แต่ที่เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์หนาหูในระยะแรก คงหนีไม่พ้น การโชว์หวือหวาขึ้นปกนิตยสารต่าง ๆ ชนิดสลัดคราบสาวหวาน ทูตวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวที่เคยเห็น
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าเธอได้ทำหน้าที่ในช่วงครองตำแหน่งนางสาวไทยได้อย่างดีเชียว ส่วนการลุกขึ้นมาสลัดคราบกลายเป็นสาวเปรี้ยว เซ็กซี่ เรื่อยมานั้น ไม่นับว่าเป็นความผิด เธอสามารถกระทำได้ เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล หากมิได้ทำให้ใครเดือดร้อนจนเกินกว่าเหตุ
ระยะหลังเธอเริ่มหันมาจับงานขับเคลื่อนด้านสังคม ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการ ‘ปฏิวัติ’ วงการบันเทิง ให้ทุกคนหันมาทำกิจกรรมเพื่อสังคมมากขึ้น อันที่จริงแล้ว หากนับแต่อดีตเป็นต้นมา มีดารานักแสดงหลายคนที่เดินบนเส้นทางนี้มาก่อน
ยกตัวอย่าง ดารานักแสดงช่อง 3 จัดทอดผ้าป่าสร้างอาคารเรียน, ‘เก๋’ ชลลดา เมฆราตรี หนุนกฎหมายป้องกันทารุณสัตว์, ‘คุณน้ำผึ้ง’ ม.ล.สราลี กิติยากร ไถ่ชีวิตกระบือ หรือ บิณฑ์ บันลือฤทธิ์ ช่วยเหลือสังคม อันจะเห็นได้ว่า พวกเขาและเธอเหล่านั้นต่างได้รับคำชื่นชมและยกย่องเป็นบุคคลที่พึงเป็นแบบอย่าง
ย้อนกลับมาที่ ‘บุ๋ม’ กลายเป็นที่จดจำเมื่อเกิดเหตุการณ์ฆ่าข่มขืนเด็กสาวรายหนึ่งบนขบวนรถไฟ กลายเป็นคดีสะเทือนขวัญแห่งปี ด้วยความที่เธอมีลูกสาววัยกำลังเติบโต จึงทำใจยอมรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้น จึงเข้ามาเป็นแกนนำเรียกร้องให้แก้ไขกฎหมาย กรณีข่มขืน ต้องได้รับโทษถึงขั้น ‘ประหารชีวิต’
นับเป็น ‘ความกล้า’ ของลูกผู้หญิงคนหนึ่ง ในฐานะดารานักแสดง อดีตนางสาวไทย เพราะเชื่อว่า คงไม่มีผู้ใดในวงการบันเทิงจะกล้าลุกขึ้นมาทำเรื่องแบบนี้ เพราะบางคนอาจรู้สึกว่าตัวเองมีความน่าเชื่อถือไม่มากพอ หรือถ้าคิดร้ายไปหน่อย คือ กลัวเสียเวลาทำมาหากิน
สำหรับ ‘บุ๋ม’ ไม่มีสิ่งเหล่านี้กีดกั้นความทะยานอยากช่วยเหลือสังคมไปได้ แน่นอน! ย่อมมีคำติฉินนินทา หรือตำหนิ ในการกระทำของเธอว่า “เอาหน้า” แต่หากมองในมุมกลับ มิใช่ มุมเหวี่ยง แล้ว สิ่งที่เธอกระทำสร้างประโยชน์แก่สังคมไทยมากทีเดียว การได้หน้าหรือไม่ ขึ้นอยู่กับผลพลอยได้ตามมา แต่คงไม่สำคัญเท่ากับ ‘ความภูมิใจ’ ที่จะได้รับ
ไม่เฉพาะกรณีข้างต้นเท่านั้น เธอยังเดินหน้าช่วยเหลือผู้หญิงที่ตกระกำลำบากหลายครั้ง ล่าสุด ‘บุ๋ม’ พาตำรวจจับพ่อที่ข่มขืนลูกสาว พร้อมจี้ให้เร่งรัดคดีคืบหน้าโดยเร็ว อยากให้สังคมลองคิดดู หากไม่มีเธอหรือผู้หญิงอย่างเธอแล้ว จะมีผู้เดือดร้อนกี่คนที่ถูกละเลยจากการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รัฐ
ผมขอปรบมือให้ดัง ๆ ชื่นชมให้ก้องภพ กับการปฏิบัติของ ‘บุ๋ม’ ปนัดดา วงศ์ผู้ดี และสนับสนุนให้เธอใช้ความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมา จนได้คำนำหน้าว่า ดร. เดินหน้าช่วยเหลือสังคมเช่นนี้ไปตลอดตามกำลังความสามารถ
พร้อมเรียกร้องให้ดารานักแสดงยุคใหม่พึงหันมาใส่ใจสังคมแวดล้อมมากกว่าการสนใจเฉพาะเรื่องตัวเอง เพราะขณะนี้ประเทศชาติกำลังประสบปัญหาหลากหลาย บางเรื่องถึงขั้นเกินเยียวยา
หากได้รับการหนุนเสริมจาก ‘คนกลางแจ้ง’ อย่างดารานักแสดง เชื่อมั่นว่าจะ ‘ปลุกพลัง’ ให้สังคมตื่นรู้ และกลายเป็นแกนหลักสร้างดินแดนให้เจริญก้าวหน้าอย่างมั่นคง
ดังเช่น ดร.บุ๋ม .
เชิญติดตามข่าวสารวงการบันเทิงจากเเฟนเพจ พราวกระซิบ
ภาพประกอบ:เว็บไซต์ผู้จัดการออนไลน์