TCIJ ออกแถลงการณ์กรณีสนข.อิศรา เขียนข่าวเอง บิดเบือน เลิกจ้างกระชั้น
"สุชาดา" ออกแถลงการณ์กรณีสนข.อิศราเขียนข่าวเอง บิดเบือน TCIJ เลิกจ้างกระชั้น ยันพนักงานได้รับชดเชยแรงงาน 3 เดือน ระบุไม่เคยให้สัมภาษณ์แค่สนทนาทั่วไป แต่เอาไปเขียนข่าวเอง ตั้งข้อสังเกตการทำหน้าที่สื่อ
จากกรณีมีกระแสข่าวการปิดตัวของเว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ) -ขณะที่นางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ) ยืนยันสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org ว่า ไม่ได้มีการปิดตัวเว็บไซด์ แต่เตรียมย้ายสำนักงาน TCIJ จากกรุงเทพฯไปอยู่จังหวัดเชียงใหม่ ภายในสิ้นเดือนนี้ และได้จ้างพนักงานจากเป็นเจ้าหน้าที่ประจำโครงการทำงานเป็นฟรีแลนซ์ทั้งหมด
ขณะที่มีรายงานข่าวแจ้งว่า การเปลี่ยนแปลงของ TCIJ กรณีปิดสำนักงานในสิ้นเดือนนี้ ได้แจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำโครงการซึ่งเป็นนักข่าวซึ่งมีประมาณ 2-3 คนทราบเมื่อช่วงต้นเดือน ก.พ. ที่ผ่านมา หรือ แจ้งล่วงหน้าประมาณ 1 เดือน ก่อนปิดสำนักงาน ทำให้นักข่าวรู้สึกว่าแจ้งล่วงหน้าล่าช้าเกินไป มีผลต่อการหางานใหม่
(อ่านประกอบ : “สุชาดา” รับปิด สนง.TCIJ ย้ายไปเชียงใหม่สิ้นเดือนนี้ -ไม่ปิดเว็บไซต์)
ล่าสุดในช่วงค่ำวันที่ 25 ก.พ. 58 เว็บไซต์ TCIJ ได้เผยแพร่แถลงการณ์ TCIJ กรณีสนข.อิศราเขียนข่าวเอง บิดเบือน TCIJ เลิกจ้างกระชั้น
ระบุว่า ตามที่สำนักข่าวอิศรา หรือ www.isranews.org นำเสนอข่าววันพุธที่ 25 กุมภาพันธ์ 2558 พาดหัวข่าว “สุชาดา”รับปิด สนง.TCIJ ย้ายไปเชียงใหม่สิ้นเดือนนี้ –ไม่ปิดเว็บไซต์ โดยเนื้อหาของข่าวเขียนเสมือนหนึ่งได้สัมภาษณ์นางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ ผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลและข่าวสืบสวนเพื่อสิทธิพลเมือง (TCIJ) หรือ www.tcijthai.com ว่าจะมีการปิดสำนักงานและเลิกจ้างพนักงานประจำ อีกทั้งรายงานข่าวว่า การเลิกจ้างมีการบอกล่วงหน้าเพียง 1 เดือน ประหนึ่งไม่เป็นธรรมต่อพนักงาน ส่วนเนื้อหาที่พาดพิงแหล่งทุนและการหารายได้ของ TCIJ แท้จริงแล้ว เว็บข่าวอิศราไปคัดลอกมาจากหน้าเว็บไซต์ www.tcijthai.com ในส่วนของ”เกี่ยวกับเรา”
ในนามของ TCIJ และในฐานะผู้รับผิดชอบองค์กร ดิฉัน-นางสุชาดา จักรพิสุทธิ์ ขอแถลงให้ทราบว่า ดิฉันไม่ได้ให้สัมภาษณ์แก่สำนักข่าวอิศราแต่อย่างใด มีเพียงนักข่าวของสำนักข่าวอิศรา ติดต่อทางโทรศัพท์เพื่อขอสัมภาษณ์ แต่ได้ให้การปฏิเสธว่าไม่พร้อม ไม่ได้ปิด เป็นการย้าย office base เท่านั้นเอง ซึ่งนักข่าว คนดังกล่าวได้โทรกลับมาขอสัมภาษณ์อีกเป็นครั้งที่สอง เมื่อเวลาสองทุ่มกว่าของคืนวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ดิฉันได้ยืนยันไม่ให้สัมภาษณ์ และบอกว่าเอาไว้ค่อยคุยกันหลังเดือนพฤษภาคม ดีกว่า
ข่าวที่ถูกนำเสนอไปโดยปราศจากข้อเท็จจริงนี้ ย่อมส่งผลเสียหายและสร้างความเข้าใจผิดต่อ TCIJ ทั้งที่ในความเป็นจริงคือ พนักงาน TCIJ ทุกคนจะได้รับการชดเชยแรงงาน 3 เดือน แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าการตกเป็นข่าวก็คือ เหตุการณ์ครั้งนี้ สะท้อนปัญหาของสำนักข่าวอิศราและวัฒนธรรมการสื่อข่าว ที่เป็นปัญหาของสื่อมวลชนไทย ดังนี้
ประเด็นการย้ายสำนักงาน TCIJ มีคุณสมบัติ”เป็นข่าว”ตรงไหนหรือ ? มีอะไรที่เป็นปัญหาของส่วนรวม สมควรเป็นข่าว เมื่อเทียบกับประเด็นนายทุนเอาเปรียบเกษตรกรแล้วจ่ายเงินพิเศษอุดหนุนสื่อ ?
วัฒนธรรมการสื่อข่าวที่นักข่าวไทยมักใช้วิธีโทรศัพท์ถามไถ่เพียงไม่กี่ประโยค ทำให้แหล่งข่าวคิดว่าเป็นการสนทนาทั่วไป และไม่บอกแหล่งข่าวว่าจะนำไปเขียนเป็นข่าว ถือเป็นการปฏิบัติโดยมิชอบ ผิดต่อหลักวิชาชีพ
สำนักข่าวอิศรา ดำเนินงานโดยนักข่าวมืออาชีพที่ผันตัวเองมาจากสื่อใหญ่ จึงถือว่าเป็นเว็บไซต์ข่าวทางเลือก ที่พึงมีความเคารพผู้บริโภคข่าว/ผู้ตกเป็นข่าว และพึงนำเสนอข่าวบนพื้นฐานของข้อมูลและข้อเท็จจริงทั้งสิ้น โดยปราศจากอคติหรือการเลือกข้างและวาระซ่อนเร้นใดๆ
TCIJ ขอตั้งข้อสงสัยต่อเจตนาในการนำเสนอข่าวนี้ของบรรณาธิการสำนักข่าวอิศรา ทั้งที่นักข่าวของสำนักข่าวอิศราเองยอมรับว่าตนมิได้เป็นคนเขียน และขอเรียกร้องให้ผู้บริหารสำนักข่าวอิศรา ตรวจ สอบเจตนาและแหล่งที่มาของข่าวนี้ อีกทั้งสำนักข่าวอิศราก็มีสายสัมพันธ์แนบแน่นกับสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯ จึงสมควรเป็นแบบอย่างในวิชาชีพสื่อ
ลงชื่อ
นางสุชาดา จักรพิสุทธิ์
ผู้อำนายการและบรรณาธิการบริหาร TCIJ