ยกธรรมกายโมเดล! สปช.ถกวิธีป้องเหลือบไรหากินกับศาสนาพุทธ
“…เรื่องสาธารณะสมบัติของวัด ปรากฏว่ามีบุคคลบางกลุ่ม หากินกับวัด กับพระ หรือของที่ประชาชนบริจาค แทนที่วัดหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องจะเอาไปดำเนินการเพื่อสาธารณะหรือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ กลับมีบางคนบางพวกหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแสวงประโยชน์ร่วมกัน…”
หมายเหตุ สำนักข่าวอิศรา www.isranews.org : นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญสภาปฏิรูปแห่งชาติ (วิป สปช.) กล่าวถึงประเด็นการปฏิรูปกิจการของพระพุทธศาสนา ภายหลังการสื่อสารที่อาจทำให้ประชาชนคลาดเคลื่อน
----
กรณีเกี่ยวกับการปฏิรูปกิจการของพระพุทธศาสนา ดูเหมือนว่าอาจทำให้ประชาชนเข้าใจคลาดเคลื่อน ร่วมทั้งการกดดันต่าง ๆ ก็อาจจะไปตกอยู่ที่รัฐบาลหรือ คสช. ดังนั้นข้อมูลข่าวสารใด ๆ ที่จะให้ไปนั้น ควรพิจารณาว่าออกไปแล้วทำให้ประชาชนเข้าใจ อย่าทำในลักษณะที่จะทำให้เกิดความตื่นตระหนกตกใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องนี้ได้มีการพูดต่อที่ประชุมวิป สปช. ซึ่งอยากชี้แจงและอยากให้ประชาชนได้เข้าใจในนามของ วิป สปช. คือ วัตถุประสงค์ของสภาปฏิรูป ที่ตั้งคณะกรรมการปฏิรูปกิจการศาสนาขึ้นมานั้น ก็เพื่อต้องการสนับสนุน ปกป้อง คุ้มครอง พิทักษ์ พระพุทธศาสนา หาได้มีเจตนาที่จะไปดำเนินการเล่นงานพระสงฆ์ หรือจะไปรื้อโครงสร้างแต่อย่างใดไม่ เพียงแต่เราต้องศึกษา ตรวจสอบ และดำเนินการในการสนับสนุนปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนา ใน 4 เรื่องด้วยกัน
เรื่องแรกคือเรื่อง วัตรปฏิบัติของพระภิกษุหรือนักบวชในศาสนา บางคน บางพวก บางกลุ่ม ที่ประพฤติตัวไม่เหมาะสม ก่อให้เกิดความมัวหมองและผลกระทบต่อศรัทธาของประชาชน ลำพังถ้าปล่อยให้มีการจัดการของคณะสงฆ์โดยลำพัง อาจจะล่าช้าหรือก่อให้เกิดการสะเทือนใจต่อประชาชนมากขึ้นถ้าไม่มีการแก้ไข
เรื่องนี้ฝ่ายบ้านเมืองและฝ่ายอาณาจักรจะเข้าไปสนับสนุน ส่งเสริมการทำงานอย่างไรนี้ เป็นเรื่องที่จะดำเนินการ
เรื่องที่สองเป็นเรื่องสาธารณะสมบัติของวัด ปรากฏว่ามีบุคคลบางกลุ่ม หากินกับวัด กับพระ หรือของที่ประชาชนบริจาค แทนที่วัดหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องจะเอาไปดำเนินการเพื่อสาธารณะหรือประโยชน์ของคนส่วนใหญ่ กลับมีบางคนบางพวกหรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องแสวงประโยชน์ร่วมกัน
ฝ่ายบ้านเมืองจะต้องเข้าไปช่วยสนับสนุนในการดำเนินการเรื่องนี้ เพื่อให้การปกป้องคุ้มครองพระพุทธศาสนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับทรัพย์สินที่คนบริจาคเพื่อให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของประชาชน
เรื่องที่สามคือ เรื่องคำสอนของศาสนา ปรากฏว่ามีเจ้าลัทธิ บุคคล พระสงฆ์บางกลุ่มบางพวก ทำให้คำสอนนั้นวิปริตผิดไปจากคำสอนอันแท้จริง แล้วตั้งตัวเป็นเจ้าสำนัก ทางฝ่ายบ้านเมืองน่าจะสนับสนุนในการดำเนินการกับผู้ที่แอบอ้าง เพื่อที่จะได้ให้คำสอนนั้นถูกต้องแท้จริง ไม่ใช่ใครอยากจะแปลเจตนาของคำสอนแล้วอ้างเป็นเจ้าลัทธิก็ได้
ส่วนในเรื่องสุดท้าย กำลังพิจารณาว่าฝ่ายอาณาจักรหรือฝ่ายบ้านเมืองน่าจะเข้าไปมีบทบาทในการสนับสนุนการดำเนินการของพระพุทธศาสนาด้วย ไม่ว่าจะมีวิธีการอย่างไร หรือต้องแก้กฎหมายอย่างไร นี่เป็นเรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่
ในสุดท้ายนี้อยากให้เข้าใจว่าที่ประชุมนำเรื่องนี้มาพูดกัน เพื่ออยากให้เข้าใจโดยทั่วกันว่ามิได้มีเจตนาจะไปเล่นงานบุคคลใด เพียงแต่ต้องการปกป้องคุ้มครองส่งเสริมช่วยเหลือพระพุทธศาสนาเท่านั้น
อย่างไรก็ดีเพียงแต่มีกรณีวัดพระธรรมกาย ยกขึ้นเป็นเพียงกรณีศึกษาเท่านั้น เพราะใน 3-4 เรื่องนี้มันตรงกับกรณีศึกษา เพียงแต่อยากจะสื่อสารและแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบว่า หาได้มีเจตนาไปเล่นงานไม่
หลังจากการแถลงข่าว ผู้สื่อข่าวสำนักข่าวอิศรา www.isranews.org สอบถามว่า ในที่ประชุมมีการพูดคุยกันถึงแนวคิดเก็บภาษีวัดหรือไม่ เพื่อจะได้ตรวจสอบเส้นทางการเงิน และป้องกันไม่ให้เกิดกรณีดังกล่าวอีก
นายวันชัย ระบุว่า ในที่ประชุมยังไม่ได้คุยกัน แต่เรื่องยังไม่ได้ร้ายแรงถึงขนาดจะต้องไปจัดเก็บภาษี