โอเกะนราฯถอดใจปิดกิจการ ปะทะเดือดระแงะจนท.เจ็บ1
ผู้ว่าฯนราธิวาสสั่งศูนย์เยียวยาจังหวัดตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบเหตุคาร์บอมบ์ในเขตเมือง วันแรกมีผู้ยื่นขอรับความช่วยเหลือกว่า 50 ราย เตรียมหารือภาคเอกชนวางมาตรการ รปภ.เสริมฝ่ายความมั่นคง ด้านเจ้าของคาราโอเกะถอดใจ ปิดกิจการหนีความรุนแรง หันขายก๋วยเตี๋ยวนอกเมืองแทน ชายแดนใต้ยังระอุ จนท.ปะทะเดือดกลุ่มติดอาวุธบนภูเขา ยิงดับ ชรบ.ตากใบ
ความคืบหน้าหลังเกิดเหตุระเบิดคาร์บอมบ์หน้าร้านคาราโอเกะ บนถนน ณ นคร ต.บางนาค ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 13 ราย บ้านเรือนและทรัพย์สินของประชาชนเสียหายจำนวนมาก เมื่อวันศุกร์ที่ 20 ก.พ.58 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดวันเสาร์ที่ 21 ก.พ. นายณัฐพงศ์ ศิริชนะ ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้นำทีมเจ้าหน้าที่ศูนย์เยียวยาจังหวัด ตั้งโต๊ะรับลงทะเบียนผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิด ปรากฏว่ามีผู้เข้าลงทะเบียนกว่า 50 ราย แยกเป็นความเสียหายในส่วนของอาคารบ้านเรือนกว่า 40 หลัง ยานพาหนะเสียหายอีกจำนวนหนึ่ง
ขณะที่สำนักงานเทศบาลเมืองนราธิวาส ได้นำเต็นท์ 3 หลังไปกางเพื่อให้ชาวบ้านบางส่วนที่ไม่มีที่อยู่อาศัยได้ใช้เป็นสถานที่พักชั่วคราว ก่อนจะขยับขยายไปยังบ้านญาติพี่น้อง พร้อมเร่งประสานเจ้าหน้าที่ให้ซ่อมแซมไฟฟ้า ประปา และโทรศัพท์ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน
นายณัฐพงศ์ กล่าวว่า เตรียมหารือกับภาคเอกชนในพื้นที่เพื่อวางมาตรการดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เพื่อเป็นการเฝ้าระวังป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นต่อผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่เอง
รถคาร์บอมบ์โยงเทศบาลมะกรูด
สำหรับความคืบหน้าทางคดี เจ้าหน้าที่ได้หลักฐานเพิ่มเติมจากจุดเกิดเหตุคนร้ายนำรถจักรยานยนต์ติดตั้งระเบิด (มอเตอร์ไซค์บอมบ์) ไปจอดบริเวณทางแยกเข้าศาลเจ้าแม่กวนอิม ห่างจากจุดคาร์บอมบ์ประมาณ 50 เมตร แต่เจ้าหน้าที่เก็บกู้เอาไว้ได้ ว่า หลักฐานใหม่ที่พบคือรถจักรยานยนต์ที่คนร้ายใช้ซุกซ่อนระเบิด เป็นยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 125 ซีซี สีเทา-ดำ มีชาวบ้านแจ้งหายไว้ที่ สภ.เมืองนราธิวาส เมื่อวันที่ 5 ม.ค.ที่ผ่านมานี้เอง
พ.อ.ปราโมทย์ พรหมอินทร์ โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงว่า รถกระบะที่คนร้ายใช้บรรทุกระเบิดเป็นคาร์บอมบ์นั้น เป็นรถที่คนร้ายปล้นฆ่าเจ้าทรัพย์ในพื้นที่ อ.เทพา จ.สงขลา และนำไปก่อเหตุฆ่าพนักงานและลอบวางระเบิดที่เทศบาลตำบลมะกรูด อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี เมื่อ 11 ก.ย.57
เอ็นจีโอแถลงเสียใจเหตุคาร์บอมบ์
มูลนิธิผสานวัฒนธรรม และกลุ่มด้วยใจ สององค์กรภาคประชาสังคมที่ทำงานในพื้นที่ชายแดนใต้ ได้ออกแถลงการณ์แสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ระเบิดที่ จ.นราธิวาส พร้อมเสนอแนะให้ทุกฝ่ายอดทนอดกั้น ยึดมั่นแนวทางสันติ
แถลงการณ์ระบุตอนหนึ่งว่า ไม่มีเหตุผลใดที่จะสร้างความชอบธรรมให้กับการวางระเบิดโดยไม่มีเป้าหมายทางการทหารอย่างชัดเจนเช่นนี้ เพราะการวางระเบิดมุ่งประสงค์ต่อความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สินต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ เป็นการละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ เป็นอาชญกรรมที่โหดร้าย
จึงขอเรียกร้องให้กลุ่มติดอาวุธไม่ว่าฝ่ายใดหลีกเลี่ยงการใช้อาวุธประหัตประหารและก่อเหตุทางทหารในพื้นที่สาธารณะเพื่อหลี่กเลี่ยงความเสียหายต่อผู้บริสุทธิ์ การนำบุคคลต้องสงสัยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมต้องเคารพหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด การเยียวยาให้ความช่วยเหลือต่อผู้เสียหายทั้งทรัพย์สินและผู้ได้รับบาดเจ็บจะต้องดำเนินการอย่างทันที เหมาะสม รวมทั้งการฟื้นฟูสภาพจิตใจของผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดในระยะยาว
ทั้งนี้ ความอดทนอดกลั้นของทุกฝ่ายจะช่วยปกป้องคุ้มครองผู้บริสุทธิ์ระหว่างทางที่หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขปัญหาความขัดแย้งนี้ด้วยแนวทางสันติวิธี
เจ้าของโอเกะถอดใจปิดกิจการ
ด้านเจ้าของร้านคาราโอเกะรายหนึ่งซึ่งได้รับความเสียหายจากเหตุระเบิดด้วย กล่าวว่า จะหยุดกิจการร้านคาราโอเกะ โดยหันไปยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยวนอกเมืองแทน ส่วนเด็กๆ ในร้านก็จะให้กลับบ้าน จะไม่ยอมเสี่ยงอีกต่อไปแล้ว ส่วนตัวเปิดธุรกิจนี้มากว่า 10 ปี ถึงวันนี้ไม่เหลืออะไร คงต้องดิ้นรนหาเงินส่งลูกเรียนหนังสือที่กรุงเทพฯด้วยวิธีอื่น
ทหารพรานปะทะกลุ่มติดอาวุธเจ็บ 1
สถานการณ์ความรุนแรงยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง โดยเมื่อเวลา 12.00 น.วานนี้ พ.อ.รุ่งโรจน์ อนันตโท ผู้บังคับการกรมทหารพรานที่ 45 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพรานที่ 4513 (ร้อย ทพ.4513) จัดกำลัง 3 ชุดปฏิบัติการขึ้นพิสูจน์ทราบบนเทือกเขาตะเว เขตรอยต่อระหว่างบ้านบือแจง หมู่ 4 กับบ้านโต๊ะตีแต หมู่ 8 ต.บองอ อ.ระแงะ หลังสืบทราบว่ามีกองกำลังติดอาวุธจำนวนหนึ่งแฝงตัวเคลื่อนไหวเพื่อประชุมวางแผนก่อเหตุร้ายในพื้นที่
เมื่อไปถึงเป้าหมาย กลุ่มติดอาวุธซึ่งมีกัน 5-6 คน พร้อมอาวุธสงครามครบมือ เห็นเจ้าหน้าที่ก่อน จึงได้ระดมกราดยิงใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงตอบโต้กันหลายระลอก กลุ่มติดอาวุธต้องสงสัยเห็นจวนตัวจึงใช้อาวุธปืนยิงเปิดทางแล้วหลบหนีไป ฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย 1 นาย คือ จ.ส.ต.อาคม ร่วมสุข ส่วนกำลังเจ้าหน้าที่ที่เหลือได้ออกติดตามไล่ล่ากลุ่มติดอาวุธไปอย่างกระชั้นชิด
ยิงชาวบ้านตากใบรับขบวนเดินสันติสุข
เวลา 11.30 น.วันเดียวกัน คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนพกไม่ทราบขนาดยิง นายอัสสะอารี มูเล๊าะ อายุ 56 ปี เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) หมู่ 4 ต.เกาะสะท้อน อ.ตากใบ จ.นราธิวาส กระสุนเจาะเข้าที่หน้าอก ทำให้นายอัสสะอารีเสียชีวิตคาที่ เหตุเกิดขณะที่เขากำลังขี่รถจักรยานยนต์ไปจอดเพื่อตัดหญ้า ริมถนนสายชนบท หมู่ 4 ต.เกาะสะท้อน เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุการสังหาร
ด้านความเคลื่อนไหวของคณะรณรงค์เดินสานใจสู่สันติชายแดนใต้ ซึ่งจัดโดยภาคประชาสังคมในพื้นที่ ออกเดินจากตัวเมือง จ.ยะลา เมื่อวันอาทิตย์ที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา เดินผ่าน จ.ปัตตานี มุ่งหน้าสู่ จ.นราธิวาสนั้น ล่าสุดวานนี้ คณะรณรงค์ได้เดินเท้าถึงจุดหมายปลายทาง คือ โรงเรียนตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส แล้ว โดยมีพี่น้องประชาชนทุกศาสนิกร่วมเดินกันอยางอบอุ่น ใช้เวลาทั้งสิ้น 7 วันเต็ม
ทั้งนี้ คณะรณรงค์ไม่มีใครปริปากพูดถึงเหตุคาร์บอมบ์ที่ อ.เมืองนราธิวาส โดยบอกว่ากำลังรณรงค์ให้เกิดสันติสุขและการแก้ปัญหาชายแดนใต้ด้วยสันติวิธี
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
บรรยายภาพ : ประชาชนและพนักงานเทศบาลเมืองนราธิวาส ช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาดเศษซากความเสียหายจากเหตุคาร์บอมบ์ในย่านคาราโอเกะ ถนน ณ นคร อ.เมืองนราฯ
ขอบคุณ : ภาพจากเจ้าหน้าที่