ภาคีเครือข่ายด้านเด็กฯ เล็งยื่นจม.ถึงนายกฯ เร่งรัดออกกม.ควบคุมยาสูบ
หวั่นเด็กตกเป็นเหยื่อบ.บุหรี่ สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว ม.มหิดล จับมือภาคีเครือข่ายด้านเด็กฯ เล็งยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงนายกฯ เร่งรัดออกพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ
19 กุมภาพันธ์ 2558 สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว สนับสนุน พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ จัดแถลงข่าวร่วมสนับสนุน (ร่าง) พ.ร.บ.ควมคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ ณ อาคารปัญญวัฒนาศาสตราจารย์คลินิก สถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล
นายแพทย์อุดม คชินทร อธิการบดีมหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า ปัจจุบันมีเยาวชนไทย อายุ 15-24 ปี ติดบุหรี่แล้ว 1.6 ล้านคน โดยร้อยละ 70 (หรือ 1.1 ล้านคน ) จะติดบุหรี่ไปตลอดชีวิต และในจำนวนนี้ ประมาณครึ่งหนึ่งหรือกว่า 5 แสนคน จะเสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยผลกระทบจากบุหรี่
"หากนักศึกษาติดบุหรี่ ก็จะมีปัญหาสุขภาพอาจเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตก่อนเวลา ซึ่งจากสถิติที่พบว่า ผู้สูบบุหรี่ 50,0000 คนที่เสียชีวิตในแต่ละปี ประมาณ 27% หรือ 13,500 คน จะเสียชีวิตก่อน 60 ปี ถือเป็นการสูญเสียทรัพยากรบุคคลที่มหาวิทยาลัยมุ่งเน้นในการพัฒนา" อธิการบดีม.มหิดล กล่าว และว่า ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2558 ทางเครือข่ายฯ จะไปยื่นจดหมายเปิดผนึก ที่ทำเนียบฯ ขอวิงวอนต่อนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับการปกป้องเด็กและเยาวชนจากการตกเป็นเยื่อของบริษัทบุหรี่ ด้วยการเร่งรัดให้มีการออกพ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยเร็ว
ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์สุริยเดว ทรีปาตี ผู้อำนวยการสถาบันเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึงการสูบบุหรี่ส่งผลกระทบมากมายต่อการพัฒนาด้านต่างๆของเด็ก โดยเฉพาะวัยรุ่น ซึ่งเป็นวัยที่ร่างกายกำลังพัฒนาสมองส่วนของการคิด กับการทำงานขั้นสูงนั้น หากได้รับสารนิโคตินจากการสูบเข้าไปแล้ว การพัฒนาส่วนนั้นก็จะถูกทำลายไปตามปริมาณและระยะเวลาการสูบ นอกจากนี้บุหรี่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการติดยาเสพติดชนิดอื่นๆอีกด้วยและพฤตอกรรมเสี่ยงอื่นๆก็จะตามมา เช่น เที่ยวกลางคืน เล่นการพนัน ดื่มสุรา และบริโภคสื่อลามก เป็นต้น
"ในฐานะที่เป็นหมอเด็ก มานาน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาล พ่อแม่ ออกมาช่วยป้องกันบุตรหลานและร่วมกันหยุดยั้งวงจรการทำลายสมองเด็กจากการสูบบุหรี่"
อาจารย์ศรีศักดิ์ ไทยอารี ประธานสภาองค์การพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระอุปถัมภ์ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี กล่าวว่า ประเทศไทยเคยลงนามในสัตยาบัน อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็กที่มีผลให้ต้องปกป้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน อีกทั้งประเทศไทยยังพันธกรณี ที่จะต้องปรับปรุงกฎหมาย และการบังคับใช้กฎหมาย แต่ที่น่าเป็นห่วง คือ ตอนนี้ร่างกฎหมายบุหรี่ถูกดึงให้ล่าช้า โดยองค์กรที่จะได้ประโยชน์ จากการขายบุหรี่ เพราะต้องการลูกค้าที่เป็นเยาวชนมากกว่าผู้ใหญ่ ฉะนั้นเด็ก มีอนาคตอีกยาวไกล เราทุกคนควรปกป้อง ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของบุหรี่
ศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา ประธานราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย นายกสมาคมกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย กล่าวถึงช่องทางในปัจจุบัน ทั้งโซเซียลมีเดีย โฆษณ ทำให้เด็กสูบบุหรี่ จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีเร่งรัดออก พ.ร.บ.ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบโดยเร็วด้วยเพื่อปกป้องเด็กและเยาวชน เพราะที่ผ่านมาเราออกกฎหมายเยอะแยะ แต่ขาดสิ่งคือตัวบังคับใช้กฎหมายบุหรี่เป็นประตูบานแรกที่จะนำเด็กไปสู่สิ่งเสพติดชนิดอื่นๆ
นางสาวอรนัส แท่นประเสริฐกุล รองประธานสภานักศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวว่า เยาวชนเป็นเป้าหมายที่บริษัทยาสูบพยายามใช้กลยุทธต่างๆเพื่อดึงดูดใจให้ใจเยาวชนสูบบุหรี่มากขึ้นโดยไม่คำนึงผลกระทบ หวังเพียงแค่อยากได้ลูกค้าในระยะยาวเท่านั้น จึงส่งผลให้เยาวชนเริ่มสูบบุหรี่ตั้งแต่อายุยังน้อย