ป.ป.ช.ฟัน 2 นายกเทศมนตรีลำปาง-สุรินทร์ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ
คกก.ป้องกันปราบปรามทุจริตชาติ ระบุ อดีตนายกเทศมนตรีนครลำปาง ออกใบอนุญาตต่อเติมอาคารมิชอบ ส่วนนายกเทศมนตรีชุมพลบุรี สุรินทร์ จ่ายค่าจ้างผู้รับเหมาขุดสระก่อนโครงการเสร็จ
การประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) วันที่ 20 ก.ย.ที่ผ่านมา เปิดเผยถึงการพิจารณากรณีร้องเรียน 2 นายกเทศมนตรีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ได้แก่…
กรณีแรก นายนรินทร์ มโนกูลอนันต์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีนครลำปาง กับพวก ออกใบอนุญาต ให้บริษัท โรงพยาบาลเขลางค์นคร จำกัด ต่อเติมทางเชื่อมระหว่างอาคารใหม่และอาคารเก่าโดยมิชอบ โดย ป.ป.ช.พิจารณาแล้วปรากฏว่า โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ก่อสร้างเมื่อปี 2533 และในปี 2539 ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างอาคารเพื่อใช้เป็นโรงพยาบาลเพิ่มขึ้นอีก 1 หลัง โดยกำหนดให้ทำทางเชื่อมระหว่างอาคารใหม่กับอาคารเก่าเฉพาะชั้นที่ 1 และ 2 แต่บริษัทได้ทำการต่อเติมทางเชื่อมตั้งแต่ชั้นที่ 3-6 โดยไม่ได้รับอนุญาต และเมื่อวันที่ 7 ส.ค.41 ได้ยื่นขออนุญาตก่อสร้างทั้งๆที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว
โดยวันที่ 11 เม.ย.43 เทศบาลเมืองลำปาง แจ้งความดำเนินคดีกับบริษัทข้อหาก่อสร้างดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองลำปาง มีความเห็นควรสั่งฟ้องตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 21 และ 65 แต่พนักงานอัยการจังหวัดลำปางมีคำสั่งไม่ฟ้อง โดยเห็นว่าจากคำยืนยันของวิศวกรควบคุมงานนั้นการทำทางต่อเชื่อมระหว่างอาคารไม่เกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร และไม่ทำให้อาคารต้องรับน้ำหนักเพิ่มขึ้นเกิน 10% จึงดำเนินการได้
ทั้งนี้เทศบาลนครลำปาง มีหนังสือลงวันที่ 20 และ 26 ก.ค.44 หารือประธานคณะกรรมการควบคุมอาคารและผู้อำนวยการสำนักควบคุมอาคาร แต่นายกเทศมนตรีได้มีคำสั่งลงวันที่ 8 ส.ค.ตั้งคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบการขออนุญาตก่อสร้าง โดยเป็นประธานกรรมการ และมีเทศมนตรีฝ่ายโยธา และพนักงานเทศบาลที่เกี่ยวข้องเป็นกรรมการ และได้มีการประชุม 10 ส.ค.44 มีมติควรอนุญาตต่อเติมทางเชื่อมอาคาร ซึ่งต่อมาได้ออกใบอนุญาตให้กับบริษัท วันที่ 21 ส.ค.44
ป.ป.ช.ได้ไต่สวนวิศวกรผู้ควบคุมงาน ระบุว่าการคำนวณโครงสร้างอาคารในชั้นพนักงานสอบสวนนั้นเฉพาะทางเชื่อมเท่านั้น แต่ถ้ารวมทางเดินจะเกินร้อยละ 10 อาคารเดิมกับอาคารหลังใหม่ที่ก่อสร้างถ้าเชื่อมทางเดินใช้สอยร่วมกันต้องถือว่าเป็นหลังเดียวกันคิดพื้นที่รวมกัน ซึ่งรวม 2 อาคารแล้วจะเกินกว่า 10,000 ตรม. ถือเป็นอาคารขนาดใหญ่พิเศษ จะต้องมีถนนที่ผิวจราจรกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตรที่ปราศจากสิ่งปกคลุมโดยรอบอาคาร เพื่อให้รถดับเพลิงเข้าออกสะดวก และห่างจากที่ดินผู้อื่นหรือถนนสาธารณะไม่น้อยกว่า 6 เมตร ตามกฎกระทรวงฉบับที่ 33 ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 แต่อาคารที่ขออนุญาตห่างจากแนวเขตที่ดินบ้านเลขที่ 79/6 ไม่ถึง 6 เมตร จึงไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ต่อเติมทางเชื่อมอาคารได้
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหาและเทศมนตรีฝ่ายโยธา ที่ร่วมกันออกใบอนุญาตให้บริษัท จึงมีมูลความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามกฎหมายอาญามาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 ส่วนผู้ถูกกล่าวหาอื่นๆที่เป็นพนักงานเทศบาล มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และมูลความผิดทางอาญาเช่นกัน ป.ป.ช.ให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยกับผู้ถูกกล่าวหาที่เป็นพนักงานเทศบาล และส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญากับผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด
กรณีที่สอง นายนิรันดร์ ศรีเมือง นายกเทศมนตรีตำบลชุมพลบุรี อ.ชุมพลบุรี จ.สุรินทร์ กับพวกรวม 10 คน ตรวจรับงานและเบิกจ่ายเงินค่าจ้างให้กับผู้รับจ้างโครงการขุดลอกขยายสระน้ำดิบกุดเลิงบัว ช่วงที่ 2 ทั้งที่ยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จตามสัญญา
จากการไต่สวนข้อเท็จจริง พบว่าเทศบาลได้รับจัดสรรงบประมาณอุดหนุนเฉพาะกิจจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ทำโครงการก่อสร้างระบบประปาปีงบประมาณ 2550 ซึ่งดำเนินการจัดจ้างไปแล้ว เหลือเงินบางส่วน จังหวัดได้แจ้งให้ทำโครงการขอใช้เงินงบประมาณที่เหลือโดยต้องเป็นประโยชน์กับระบบประปา เทศบาลจึงเสนอโครงการขุดลอกกุดเลิงบัว โดยสอบราคาวันที่ 23 ส.ค.50 และทำสัญญากับร้านเชาพาณิชย์ ผู้เสนอราคาต่ำสุด 745,000 บาท สัญญาจ้างสิ้นสุด 23 มี.ค.51 รวมระยะเวลา 180 วัน
ในสัปดาห์สุดท้าย 9-15 ต.ค.50 ผู้ควบคุมงานได้จัดทำรายงานประจำวันระบุผลงานก่อสร้าง 65% และระบุอุปสรรคว่าน้ำจากแม่น้ำมูลเอ่อล้นเข้ามาทำให้ทำงานลำบาก ไม่สามารถขุดลอกคันดินกั้นน้ำออกได้ แต่ปรากฏว่า 15 ต.ค. ร้านเชาพาณิชย์ ได้มีหนังสือส่งมอบงานจ้างว่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว วันที่ 19 ต.ค. คณะกรรมการตรวจรับการจ้างร่วมกันจัดทำใบตรวจรับงาน รับรองว่าผู้รับจ้างทำงานงวดสุดท้ายเสร็จเรียบร้อยสมควรจ่ายเงินค่าจ้างงวดสุดท้าย 745,000 บาท ซึ่งนายนิรันดร์ ศรีเมือง นายกเทศมนตรี ก็ได้อนุมัติเบิกจ่ายเงิน ทั้งนี้ในการประชุมสภาเทศบาลตำบลชุมพลบุรี 22 ต.ค.50 มีการตั้งกระทู้ถามเกี่ยวกับโครงการดังกล่าว เป็นเหตุให้ประธานสภาเทศบาลลงไปดูพื้นที่พบว่าโครงการยังไม่แล้วเสร็จ
ป.ป.ช.พิจารณาแล้วเห็นว่านายนิรันดร์ ศรีเมือง นายกเทศมนตรีตำบลชุมพลบุรี ทราบดีอยู่แล้วว่า ผู้รับจ้างยังดำเนินการขุดลอกขยายสระน้ำดิบกุดเลิงบัว ช่วงที่ 2 ไม่แล้วเสร็จ แต่กลับอนุมัติเบิกจ่ายเงิน จึงมีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 151,157 และ 162(4) ส่วนการกระทำของคณะกรรมการตรวจรับการจ้างและผู้ควบคุมงานที่เป็นพนักงานเทศบาล มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และความผิดทางอาญา การกระทำของกรรมการตรวจรับการจ้างที่แต่งตั้งจากประธานชุมชน มีมูลความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด ส่วนผู้ควบคุมงานที่เป็นพนักงานจ้างตามภารกิจมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง และความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานกระทำความผิด
ป.ป.ช.ให้ส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาหรือผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอนดำเนินการทางวินัยหรือตามอำนาจหน้าที่ รวมทั้งส่งเรื่องให้อัยการสูงสุดดำเนินคดีอาญา ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 มาตรา 92 และ 97 แล้วแต่กรณี ต่อไป .
ที่มาภาพ : http://pr.prd.go.th/phatthalung/ewt_news.php?nid=121&filename=index