จับตา ‘ช่อง 8’ ชิงบัลลังก์ ‘ละคร’ งัดกลยุทธ์เบียดรุก ‘ช่อง 3-7’
ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘ละคร’ เป็นจุดขายสำคัญที่จะดึงดูดผู้ชมให้ติดตามสถานีโทรทัศน์ เพื่อหวังรับเม็ดเงินโฆษณาให้หลั่งไหลเข้ามามากที่สุด จากเดิมมีเฉพาะ ‘ช่อง 3’ และ ‘ช่อง 7’ ที่ถือว่าแบ่งชิ้นเค้กครองส่วนแบ่งตลาดละคร ผลัดกันขับเคี่ยวแลกหมัด ชนะบ้าง แพ้บ้าง ตีคู่สูสีกันไป
ทว่า เมื่อเข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัล ต้องยอมรับตลาดละครเริ่มมีตัวแปรอื่นเกิดขึ้น เพราะสถานีโทรทัศน์หลายแห่งต่างพากันผลิตละครป้อน เพื่อสร้างฐานผู้ชมให้เกิดขึ้น ติดหนึบ ชนิดไปไหนไม่ได้ เหนือสิ่งใด อาจมุ่งมั่นเพื่อล้มยักษ์ใหญ่อย่าง 2 ช่อง ‘เก่า’ แต่ไม่เข้า ‘กรุ’ ข้างต้น
ทั้งนี้ ทราบกันดีว่า ‘ช่อง 7’ เน้นฐานผู้ชมในต่างจังหวัด ละครส่วนใหญ่ตั้งแต่สมัย ‘คุณแดง’ สุรางค์ เปรมปรีดิ์ คุมบังเหียน จะมีความหลากหลาย รับชมง่าย เข้าใจดี ถ่ายไป ออนแอร์ไป เรื่องไหนเรตติ้งกระฉูดแบบฉุดไม่อยู่ อาจมีการเพิ่มตอนให้ยืดยาวขึ้นไปอีก เพื่อเอาใจบรรดาพ่อค้าแม่ขาย เกษตรกร คนรากหญ้า
ถึงแม้ขณะนี้ ‘คุณแดง’ จะออกไปพึ่งใบบุญช่องอื่นแล้ว แต่ช่อง 7 ก็ยังคงแซบตามสโลแกน ‘ถึงใจ ถึงอารมณ์’ เหมือนเดิม หรือบางทีอาจจะแซบยิ่งกว่าเดิม เพราะดูเหมือนละครช่วงนี้เน้นหยิบมาจากบทประพันธ์คุณภาพ อาศัยเทคนิคการถ่ายทำแปลกใหม่ขึ้น คงไม่ต้องสาธยายว่าเรื่องใดบ้าง
ส่วนการไหลออกของดารานักแสดงตัวพ่อตัวแม่ ซึ่งเคยอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่ ปลุกปั้นกันมา สังเกต ‘ช่อง 7’ ปรับกลยุทธ์เลือกที่จะดันตัวพระรอง-นางรอง ขึ้นแท่นเบอร์ 1 แทน ควบคู่กับหน้าใหม่ โดยไม่กลัวเกรงสิ่งใด ๆ เมื่อประกอบกับบทประพันธ์ชิ้นเยี่ยม ยืนยันว่า ที่ผ่านมาไม่พากันล่ม
ข้ามฟากมาช่อง 3 ต้องขอบอกว่า เน้นการเจาะฐานผู้ชมในเมืองเป็นหลัก เรื่องคุณภาพไม่ต้องกังวล เพราะแต่ละเรื่องเต็มเปี่ยม ทั้งนักแสดง เทคนิคการถ่ายทำ ที่สำคัญ ล้วนมาจากบทประพันธ์ระดับเทพทั้งสิ้น แต่ดูเหมือนระยะหลัง กระแสข่าวคู่จิ้นในละคร จะเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่ถูกเลือกขึ้นมาเป็นอาวุธในการต่อสู้
จะเวิร์คหรือไม่ วัดได้จากเสียงกรี๊ดจากบรรดาแฟนคลับทั้งหลาย ทำให้ต้องจิกหมอน ตาเยิ้ม ฟินเวอร์ไปตามกัน ที่สำคัญ ดารานักแสดงแม่เหล็กยังคงเรียกเรตติ้งให้ได้ เรียกว่า ‘ช่อง 3’ รู้จักดึงบุคลากรที่มีคุณภาพเข้ามาได้ แต่ด้วยวิธีใดนั้นต้องไปตีท้ายครัวกันเอง
ช่องที่ต้องจับตามองต่อไป หนีไม่พ้น ‘ช่อง 8’ ที่มากับสโลแกน ‘เพื่อนคุณทุกที่ ทีวีของทุกคน’ ที่บอกว่า ‘น่าจับตา’ เพราะขณะนี้ในต่างจังหวัด หรือแม้แต่กรุงเทพฯ ต่างพากันเปิดทีวีชมกันทั้งสิ้น ด้วยเหตุผลใดคงบอกชัดไม่ได้ แต่ส่วนตัวคิดว่าอาจเป็นเพราะรายการส่วนใหญ่เจาะกลุ่มคนทั่วไป สื่อสารง่าย เข้าใจง่าย และเป็นรายการที่ทุกคน ‘อยากดู’ ไม่ใช่ ‘ต้องดู’
ยิ่งละครด้วยแล้ว นับเป็นความฉลาดที่เลือกหยิบบทประพันธ์ดั้งเดิมมารีเมคใหม่ ชวนรำลึกความทรงจำบรรดาผู้ชมที่เคยประทับใจในอดีตให้กลับมาเปิดชมอีกครั้ง ไม่ว่าจะเป็น ‘แม้เลือกเกิดได้’ ประพันธ์โดย ศุภลักษณ์ และ ‘แหวนทองเหลือง’ พระนิพนธ์ในพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอนุสรมงคลการ
แต่หมัดเด็ดคงอยู่ที่การป้อนละครแซบ ๆ ครบรส ครบอารมณ์ แนวตลาด แม้แต่ผมยังติดงอมแงม ไล่เรียงตั้งแต่ ผัวชั่วคราว ชิงรักหักสวาท เมียเถื่อน ดงดอกงิ้ว ทองประกายแสด น้องเมีย ยิ่งออกอากาศวันละหลายรอบ ยิ่งทำให้นั่งรับชมแบบอิ่มหนำสำราญกันทีเดียว
จึงเชื่อมั่นว่า อีกไม่นานละคร ‘ช่อง 8’ จะได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายมากขึ้น จนกลายเป็นคู่แข่งสำคัญของ ‘ช่อง 3’ และ ‘ช่อง 7’ แต่การเป็นอันดับ 1 นั้น ยังไม่แน่ใจนัก เพราะนักแสดงที่ถ่ายทอดบทบาทในละครแต่ละเรื่องยังอ่อนด้อยในฝีมือ โดยเฉพาะตัวพระ-นาง ทั้งนี้ ยังไม่รวมถึงโปรดักชั่น ซึ่งยังไม่ดีพอ
แม้จะแซบกับชื่อเรื่องและบทประพันธ์มากเพียงใด สิ่งหนึ่งที่ต้องยอมรับ คือ นักแสดงยังเข้าไม่ถึงบทบาทตัวละคร จนบางครั้งรู้สึกขัดลูกตา รำคาญ จนอยากจะกระโดดลงไปแสดงเองด้วยซ้ำ แต่เข้าใจว่า นักแสดงส่วนใหญ่ถอดหัวโขนมาจากนักร้องในสังกัด เลยต้องให้โอกาสพัฒนาฝีมือกันต่อไป เพียงแต่อย่าใช้เวลามากนักก็พอ มิฉะนั้นผู้ชมคงย้ายไปเปิดช่องอื่นแทน และเมื่อถึงเวลานั้นจะให้กลับมารับชมเหมือนเดิมคงยาก
เพราะอย่าลืมว่า ผู้ชมเกินครึ่งปัจจุบันยังคงติด ‘รสบ่วง’ ละคร 2 ช่องเก่าอยู่แล้ว หาก ‘ช่อง 8’ ไร้การพัฒนาในอนาคต คงพลาดโอกาสชิงเก้าอี้เบอร์ 1 ละครไทยเป็นแน่
ขอเป็นกำลังใจให้ด้วยสุจริต .
เชิญติดตามข่าวสารวงการบันเทิงจากเเฟนเพจ พราวกระซิบ